การประเมินสูตรและคำถาม

สูตรเซรั่ม

• สูตร: Water 85.9%, Vit B3 4%, NAD 4%, Green Tea 5%, Disodium EDTA 0.1%, Phenoxyethanol 1%
• ความเหมาะสม: สูตรนี้โดยรวมมีความเหมาะสมในการทำเป็นเซรั่ม ส่วนผสมหลักอย่าง Vitamin B3 (Niacinamide), NAD+, และ Green Tea Extract เป็นสารออกฤทธิ์ที่ดีสำหรับผิว Niacinamide ที่ 4% อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (1-10%) และช่วยเรื่องลดริ้วรอย จุดด่างดำ ให้ความชุ่มชื้น เสริมเกราะป้องกันผิว ลดความมัน NAD+ ที่ 4% สูงกว่าอัตราแนะนำ (1-2%) ซึ่งอาจต้องพิจารณาปรับลดลงตามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดและต้นทุน Green Tea Extract ที่ 5% สูงกว่าอัตราแนะนำ (1-5% แนะนำ 1-3% สำหรับผิว) และอาจทำให้สูตรมีสีเข้มขึ้นและมีกลิ่นเฉพาะตัวได้ Disodium EDTA ช่วยจับไอออนในน้ำ ทำให้สูตรคงตัว Phenoxyethanol เป็นสารกันเสียที่ใช้ในอัตราปกติ (0.5-1.0%)
• การเพิ่ม Propolymer เพื่อเพิ่มความหนืด: สามารถทำได้ตามคำแนะนำของ 'cosmeceutical7' โดยต้องนำ Propolymer ไปปั่นหรือคนให้ละลายในน้ำจนขึ้นเนื้อเจล ไม่ใช่แค่โปรยลงไป หากต้องการความหนืดแบบเซรั่มเล็กน้อย อาจใช้อัตราที่ต่ำกว่า 1% เช่น 0.3-0.5% ตามที่ 'cosmeceutical7' แนะนำ Propolymer (Carbomer) จะขึ้นเนื้อได้ดีในช่วง pH 6-7 และไม่ทนต่ออิเล็กโทรไลต์ในปริมาณสูง ซึ่งในสูตรนี้มี Disodium EDTA และส่วนผสมอื่นๆ ที่เป็นอิเล็กโทรไลต์ การขึ้นเนื้ออาจทำได้ยากกว่าปกติเล็กน้อย

สูตรเจลบำรุง

• สูตร: Water 50%, Sea Kelp 10%, Lemon Peel 2%, DMAE 10%, Aloe Vera 3%, Natural Betaine 5%, Phyto Hormone 5%, L-Tyrosine 2%, Sodium PCA 10%, Phenoxyethanol 1%, Propolymer 2%
• ความเหมาะสม: ตามที่ 'cosmeceutical7' กล่าว สูตรนี้มีส่วนผสมหลายชนิดในอัตราที่ค่อนข้างสูงและหลากหลายวัตถุประสงค์ ซึ่งอาจต้องพิจารณาความเข้ากันได้และความจำเป็น DMAE ที่ 10% สูงกว่าอัตราแนะนำสูงสุด (1-10% แนะนำ 3% และมากกว่า 5% อาจระคายเคือง/เหนอะหนะ) และอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย Lemon Peel Bioferment ที่ 2% อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (0.5-5% แนะนำ 2-3%) ช่วยเรื่องความกระจ่างใสและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ Sea Kelp Extract ที่ 10% สูงกว่าอัตราแนะนำ (1-10% แนะนำ 1-3%) และอาจทำให้มีกลิ่นคาว Aloe Vera Extract ที่ 3% อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (1-10%) ช่วยปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้น Natural Betaine ที่ 5% อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (2-10%) ช่วยให้ความชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง L-Tyrosine (Acetyl-Tyrosine) ที่ 2% อยู่ในเกณฑ์แนะนำ (1-2%) ทำงานร่วมกับ DMAE ได้ดีในการลดริ้วรอย Sodium PCA ที่ 10% สูงกว่าอัตราแนะนำ (0.5-2%) เป็นส่วนประกอบ NMF ที่ดีในการให้ความชุ่มชื้น แต่ปริมาณสูงอาจส่งผลต่อความหนืดของเจล Propolymer ที่ 2% อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้สร้างเนื้อเจลได้ (0.5-3%) ส่วน Phyto Hormone ที่ 5% ไม่สามารถระบุชนิดที่แน่ชัดได้จากชื่อ แต่หากเป็น Kinetin อัตราแนะนำจะอยู่ที่ 0.1-0.2% ซึ่ง 5% สูงมากเกินไป
• ลำดับการผสม Sodium PCA: ตามคำแนะนำของ 'cosmeceutical7' และคุณสมบัติของ Propolymer (Carbomer) ที่ไม่ทนต่ออิเล็กโทรไลต์ (เช่น Sodium PCA) และค่า pH ต่ำ การผสมเนื้อเจลด้วย Propolymer ให้ขึ้นเนื้อก่อน แล้วจึงเติม Sodium PCA จะทำได้ง่ายกว่าและเนื้อเจลขึ้นเร็วกว่าการใส่ Sodium PCA ตั้งแต่แรก

คำถามทั่วไป

• ส่วนผสมอุดตันผิว: โดยทั่วไปส่วนผสมส่วนใหญ่ที่กล่าวมา (เช่น Niacinamide, NAD+, Green Tea Extract, Disodium EDTA, Phenoxyethanol, Sea Kelp Extract, Lemon Peel Bioferment, DMAE, Aloe Vera Extract, Natural Betaine, L-Tyrosine, Sodium PCA) ไม่ได้มีคุณสมบัติอุดตันผิวโดยตรง อย่างไรก็ตาม การแพ้หรือระคายเคืองเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลและความเข้มข้นของส่วนผสม โดยเฉพาะ DMAE ที่ความเข้มข้นสูงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในบางคน
• การใส่ครีมในตลับอลูมิเนียม: สามารถทำได้ตามคำแนะนำของ 'cosmeceutical7' หากเนื้อครีมเหลวเกินไปสำหรับตลับ สามารถเพิ่ม Propolymer เล็กน้อยประมาณ 0.5% เพื่อเพิ่มความข้นให้เหมาะสมกับการบรรจุในกระปุก
• ขนาดบรรจุตลับอลูมิเนียม: ข้อมูลเกี่ยวกับขนาดบรรจุของตลับอลูมิเนียมที่จำหน่ายไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลที่เข้าถึงได้ในขณะนี้