การปรับค่า pH และปัญหาความเสถียรในเจลขัดขี้ไคลเมื่อใช้ TEA

ถามโดย: nitisamruay เมื่อ: November 06, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังทำเจลขัดขี้ไคลค่ะ มีคำถามเกี่ยวกับสูตรดังนี้ค่ะ

1. Carbomer กับ Carbopol ต่างกันอย่างไรคะ
2. กลไกการเกิดขี้ไคลหรือการจับตัวเป็นก้อนในเจลประเภทนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรคะ
3. ทดลองทำแล้ว pH ต่ำมากค่ะ รบกวนแนะนำสารที่ใช้ปรับ pH หน่อยค่ะ ลองใช้ 99% TEA แล้วพบว่า เมื่อใส่มากเกินไปเจลเกิดการแยกชั้นกันค่ะ ควรใช้สารอะไรแทนและมีเทคนิคอย่างไรไม่ให้แยกชั้นคะ

คำตอบ

การปรับค่า pH และสูตรเจลขัดขี้ไคล

คุณสอบถามเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง Carbomer และ Carbopol และวิธีทำให้เจลขัดขี้ไคลจับตัวได้ดี รวมถึงปัญหาการแยกชั้นเมื่อปรับค่า pH ด้วย TEA

Carbomer เป็นชื่อทางเคมีของกลุ่มพอลิเมอร์ที่ใช้เป็นสารเพิ่มความข้นและสารก่อเจล ส่วน Carbopol เป็นชื่อทางการค้าของผลิตภัณฑ์ Carbomer ที่ผลิตโดยบริษัท Lubrizol ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ Carbopol หลายชนิดจึงเป็น Carbomer แต่คุณสมบัติเฉพาะอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเกรด (เช่น Carbopol Ultrez, Carbopol 940 เป็นต้น)

การจับตัวหรือการเกิดขี้ไคลในสูตรเจลของคุณมักเกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างพอลิเมอร์ประจุลบ (Carbomer) กับส่วนผสมประจุบวก เช่น Behentrimonium Chloride (BTAC) และ Cetrimonium Chloride (CTAC) เมื่อเจล Carbomer ซึ่งเกิดจากการทำให้เป็นกลาง สัมผัสกับส่วนผสมประจุบวกเหล่านี้และถูกถูบนผิว โครงสร้างของพอลิเมอร์จะยุบตัวลง ทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อนที่มองเห็นได้ ซึ่งประกอบด้วยเซลล์ผิวที่ตายแล้วและผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์นี้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องใช้ Carbomer และส่วนผสมประจุบวกในปริมาณที่เพียงพอ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ระบุว่าควรใช้ Carbomer มากกว่า 2.5% และ BTAC/CTAC อย่างน้อยรายการละ 2%

คุณกล่าวถึงปัญหาค่า pH ต่ำและการแยกชั้นเมื่อใช้ TEA (Triethanolamine) ในการปรับค่า pH TEA เป็นสารทำให้เป็นกลางที่นิยมใช้กับ Carbomer แต่การใช้มากเกินไป การเติมเร็วเกินไป หรือการใช้ความเข้มข้นสูง บางครั้งอาจทำให้เกิดความไม่เสถียรหรือการแยกชั้นได้ โดยเฉพาะในสูตรที่มีส่วนผสมประจุบวกอย่าง BTAC และ CTAC

นี่คือสารปรับค่า pH ทางเลือกที่คุณสามารถพิจารณาใช้ได้:

  • Sodium Hydroxide (โซเดียมไฮดรอกไซด์): เป็นเบสอนินทรีย์ที่แรงและมีประสิทธิภาพในการทำให้ Carbomer เป็นกลาง ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ควรเจือจางให้มีความเข้มข้นต่ำ (เช่น สารละลาย 10% หรือน้อยกว่า) ก่อนเติมลงในสูตรของคุณ ค่อยๆ เติมสารละลายที่เจือจางแล้วทีละน้อย หยดต่อหยด พร้อมกับคนอย่างต่อเนื่องและวัดค่า pH ด้วยเครื่องวัด pH หรือกระดาษวัดค่า pH จนกว่าจะถึงค่า pH เป้าหมาย หลีกเลี่ยงการสูดดมไอระเหย
  • AMP (2-Amino-2-methyl-1-propanol) 95%: เป็นสารทำให้เป็นกลางในกลุ่มเอมีนอินทรีย์ ซึ่งมีข้อดีคือช่วยให้สูตรมีความเสถียรดีกว่าเมื่อเทียบกับ triethanolamine โดยเฉพาะในสูตรที่มีแอลกอฮอล์หรือต้องการความใส ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เจือจางหากจำเป็น และค่อยๆ เติมทีละน้อยพร้อมคนและวัดค่า pH

เพื่อหลีกเลี่ยงการแยกชั้นเมื่อปรับค่า pH ด้วยเบสใดๆ:

  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบสได้รับการเจือจางอย่างเหมาะสม.
  2. ค่อยๆ เติมเบสที่เจือจางแล้ว ช้าๆ ทีละหยด.
  3. คนส่วนผสมอย่างต่อเนื่องและทั่วถึงในขณะที่เติมเบส.
  4. หยุดเติมเบสและวัดค่า pH บ่อยๆ จนกว่าจะถึงค่า pH ที่ต้องการ.

การใช้สารทำให้เป็นกลางทางเลือกที่เหมาะสม เช่น Sodium Hydroxide หรือ AMP และใช้เทคนิคการปรับค่า pH อย่างระมัดระวัง จะช่วยให้คุณทำให้สูตรเจลขัดขี้ไคลมีความเสถียรและได้ผลลัพธ์การจับตัวที่ต้องการ อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้ Carbomer, BTAC และ CTAC ในความเข้มข้นที่แนะนำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การขัดขี้ไคลที่ต้องการ.

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Cetrimonium Chloride (CTAC)
Cetrimonium Chloride (CTAC)
เครื่องสำอาง
Sodium Hydroxide
Sodium Hydroxide
เครื่องสำอาง
Carbomer 940 (EasyDisperse™, France)
Carbomer 940 (EasyDisperse™, France)
เครื่องสำอาง
Behentrimonium Chloride (BTAC)
Behentrimonium Chloride (BTAC)
เครื่องสำอาง
AMP (2-Amino-2-methyl-1-propanol) 95% (Deodorized)
AMP (2-Amino-2-methyl-1-propanol) 95% (Deodorized)
เครื่องสำอาง
Carbomer Dead-Skin (High Viscosity, Transparent)
Carbomer Dead-Skin (High Viscosity, Transparent)
เครื่องสำอาง