คำแนะนำการปรับสูตรครีมลดริ้วรอย DMAE + Pep®-Coll

จากสูตรครีมลดริ้วรอย DMAE + Pep®-Coll ที่ใช้อยู่และมีการพูดคุยในกระทู้ เข้าใจว่าผู้ใช้รู้สึกถึงผลลัพธ์เรื่องผิวกระชับและริ้วรอยลดลง แต่มีปัญหาเรื่องความแห้งตึง เนื้อสัมผัสที่ไม่ซึม และความข้นของเนื้อเจล

ขอให้คำแนะนำในการปรับสูตรดังนี้ค่ะ:

1. การเพิ่มมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อลดความแห้งตึง

สามารถเพิ่มสารให้ความชุ่มชื้น (Moisturizer) เข้าไปในสูตรได้เลยค่ะ เพื่อช่วยลดความรู้สึกแห้งตึงหลังใช้ นอกเหนือจาก WaterLock™ ที่มีการปรับเพิ่มเข้าไปในสูตรที่สองแล้ว ยังมีสารให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ ที่สามารถเลือกใช้ได้ เช่น Hyaluron หรือ Moist 72™

• วิธีเพิ่ม: สามารถเพิ่มสารให้ความชุ่มชื้นเหล่านี้ในขั้นตอนการผสมส่วนของน้ำ (Water Phase) โดยปรับลดปริมาณน้ำกลั่น (Distilled Water) ลงตามปริมาณสารให้ความชุ่มชื้นที่เพิ่มเข้าไป เพื่อให้รวมแล้วได้ 100% ของสูตร

2. การปรับปรุงเนื้อสัมผัสและการซึมสู่ผิว

ปัญหาเนื้อสัมผัสที่ไม่ซึมหรือรู้สึกเคลือบผิว อาจเกิดจากส่วนผสมบางตัว เช่น WaterLock™ ที่มีคุณสมบัติช่วยเคลือบผิวเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น ซึ่งอาจทำให้รู้สึกว่าเนื้อไม่ซึมลงผิวทั้งหมด

• การปรับ Pro Polymer™: หากรู้สึกว่าเนื้อเจลข้นเกินไป แห้งช้า หรือทาแล้วรู้สึกหนา สามารถลดปริมาณ Pro Polymer™ ลงได้ จากสูตรเดิม 2% อาจลองลดเหลือ 1-1.5% เพื่อให้เนื้อเจลเหลวขึ้นและซึมง่ายขึ้น
• การพิจารณา WaterLock™: หากไม่ชอบความรู้สึกที่เคลือบอยู่บนผิว สามารถทดลองตัด WaterLock™ ออกจากสูตรได้ค่ะ หากกังวลเรื่องความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ ให้เพิ่มสารให้ความชุ่มชื้นชนิดอื่นที่เน้นการซึมลงสู่ผิวแทน

3. การปรับสูตรเป็นเนื้อเซรั่ม

หากต้องการให้สูตรมีเนื้อสัมผัสที่เหลวขึ้นแบบเซรั่ม สามารถทำได้โดยการลดปริมาณ Pro Polymer™ ลงอย่างมาก

• ปริมาณ Pro Polymer™ สำหรับเซรั่ม: โดยทั่วไป การทำเนื้อเซรั่มที่เหลวและซึมง่าย จะใช้ Pro Polymer™ ในปริมาณที่ต่ำกว่าการทำเจลหรือครีมมาก อาจลองใช้ในปริมาณ 0.5-1% หรือน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความข้นของเซรั่มที่ต้องการ
• การปรับส่วนผสมอื่นๆ: รักษาสัดส่วนของสารออกฤทธิ์หลักอย่าง DMAE, Pep®-Coll, Vitamin B3 (Safe-B3™), GlucoBright™ และสารกันเสีย Phenoxyethanol ไว้ตามเดิม หรือตามความเหมาะสมกับความเข้มข้นที่ต้องการในเซรั่ม ปรับปริมาณน้ำกลั่นเป็นส่วนที่เหลือเพื่อให้ครบ 100%

ตัวอย่างการปรับสูตรที่สองให้เป็นเนื้อเซรั่ม (เน้นความชุ่มชื้นและซึมง่ายขึ้น):

• Distilled Water (น้ำกลั่น): ประมาณ 65-68% (ปรับตามปริมาณ Pro Polymer™ และสารให้ความชุ่มชื้นที่เพิ่ม/ลด)
• Panthenol (Vitamin B5) ExtraLite™: 5%
• WaterLock™: 0-2% (เลือกใส่หรือไม่ใส่ หรือลดปริมาณตามความชอบเนื้อสัมผัส)
• DMAE (SkinTight MD™) Liquid: 20%
• Vitamin B3, Niacinamide (Safe-B3™): 5%
• GlucoBright™: 4%
• Pep®-Coll (Syn-Coll): 3%
• Pro Polymer™ (สร้างเนื้อเจลใส): 0.5-1% (ปรับลดเพื่อให้เป็นเนื้อเซรั่ม)
• Phenoxyethanol (สารกันเสียชนิดปลอดภัย): 1%

วิธีผสม (สำหรับสูตรเซรั่ม):

1. ผสม Pro Polymer™ กับน้ำกลั่นส่วนหนึ่ง (หรือกับ Glycerin/Propylene Glycol หากใช้ในสูตร) คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ให้ Pro Polymer™ ดูดน้ำและขึ้นเนื้อเจลใส (อาจใช้เวลา)
2. ในภาชนะอื่น ผสมส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด (DMAE, Vitamin B3, GlucoBright, Pep®-Coll, Panthenol, WaterLock (ถ้าใส่), Phenoxyethanol) กับน้ำกลั่นส่วนที่เหลือ คนให้เข้ากัน
3. นำส่วนผสมจากข้อ 2 ค่อยๆ เทลงในส่วนผสมเจลจากข้อ 1 คนหรือปั่นเบาๆ ให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน
4. ตรวจสอบความข้น หากข้นเกินไป สามารถเติมน้ำกลั่นเพิ่มได้เล็กน้อยแล้วคนให้เข้ากัน

การปรับสูตรขึ้นอยู่กับความชอบเนื้อสัมผัสของแต่ละบุคคล แนะนำให้ทดลองปรับทีละน้อยค่ะ