คำแนะนำการปรับสูตรครีมล้างหน้า

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรครีมล้างหน้าสำหรับผิวแห้ง แพ้ง่ายของคุณค่ะ เข้าใจว่าคุณตั้งใจทำผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องสิวและการทำความสะอาดที่ยังไม่เพียงพอสำหรับเครื่องสำอางกันน้ำและติดทนนะคะ เรามาดูแนวทางการปรับปรุงสูตรกันค่ะ

การเปลี่ยนน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

คุณได้ยินมาว่าน้ำมันธรรมชาติอาจกระตุ้นการเกิดสิว และสอบถามว่าการเปลี่ยนจากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Fractionated Coconut Oil) เป็น LipidSoft จะช่วยลดปัญหาสิวได้หรือไม่ แม้ว่าน้ำมันบางชนิดอาจอุดตันรูขุมขนได้ แต่น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Caprylic/Capric Triglyceride) โดยทั่วไปถือว่าไม่อุดตันรูขุมขน (non-comedogenic) และมักใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่าย อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของผิวแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไป และส่วนผสมที่ไม่อุดตันรูขุมขนก็อาจทำให้เกิดปัญหาได้ในบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ในความเข้มข้นสูง ซึ่งสูตรของคุณใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นถึง 20% ซึ่งถือเป็นปริมาณที่ค่อนข้างสูงค่ะ

LipidSoft เป็นกลุ่มของสารให้ความนุ่มลื่น (emollient) ซึ่งความสามารถในการอุดตันรูขุมขนจะแตกต่างกันไปในแต่ละชนิด จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ LipidSoft Lite (Isononyl Isononanoate) เป็น LipidSoft ที่มีเนื้อบางเบา และระบุชัดเจนว่าไม่อุดตันรูขุมขน (non-comedogenic) จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่คุณสามารถพิจารณาเปลี่ยนแทนน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น หากคุณสงสัยว่าน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเป็นสาเหตุของสิวค่ะ LipidSoft Lite จะให้ความรู้สึกนุ่มลื่น เรียบเนียนบนผิว โดยไม่ทิ้งความมันเหนอะหนะ

การเปลี่ยนน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเป็น LipidSoft Lite ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน (หรืออาจเริ่มต้นที่สัดส่วนต่ำกว่าแล้วค่อยปรับเพิ่ม) อาจช่วยลดการเกิดสิวได้ หากผิวของคุณมีปฏิกรรมต่อ Fractionated Coconut Oil แม้ว่าโดยทั่วไปจะจัดว่าไม่อุดตันรูขุมขนก็ตาม คุณอาจจะต้องปรับสัดส่วนของ Satin Cream Maker เล็กน้อยหากมีการเปลี่ยนแปลงส่วนของน้ำมันค่ะ

การเพิ่ม MakeUp-Wash เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาด

คุณสังเกตถูกต้องแล้วค่ะว่าสูตรปัจจุบันของคุณ แม้จะอ่อนโยน แต่อาจยังทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำและติดทนได้ไม่หมดจด การเพิ่ม MakeUp-Wash (PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides) เป็นแนวคิดที่ดีมากค่ะ

MakeUp-Wash เป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุที่อ่อนโยนมาก ซึ่งจะรวมตัวกันเป็นไมเซลล์ (Micellar) ในน้ำ ไมเซลล์เหล่านี้มีประสิทธิภาพสูงในการจับและดึงสิ่งสกปรก เครื่องสำอาง และสิ่งอุดตันที่มาจากน้ำมัน รวมถึงเครื่องสำอางกันน้ำ ออกจากผิวได้อย่างหมดจด โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง แต่ยังคงความชุ่มชื้นไว้ (re-fatting) MakeUp-Wash ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ล้างหรือเช็ดเครื่องสำอาง

การเพิ่ม MakeUp-Wash จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดสูตรของคุณได้อย่างมาก อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ MakeUp-Wash คือ 1-10% โดยแนะนำที่ 3-5% สำหรับการล้างหรือเช็ดเครื่องสำอาง คุณสามารถเริ่มต้นโดยการเพิ่ม MakeUp-Wash 3-5% ในส่วนของน้ำ และลดปริมาณน้ำเปล่าลงตามสัดส่วนที่เพิ่ม MakeUp-Wash เข้าไป เพื่อให้สูตรรวมยังคงเป็น 100% ค่ะ

ตัวอย่างการปรับสูตรที่แนะนำ

นี่คือตัวอย่างสูตรที่ปรับปรุงแล้ว โดยมีการเพิ่ม MakeUp-Wash และเปลี่ยนน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเป็น LipidSoft Lite:

ส่วนน้ำ:

• Lauryl Glucoside: 8.0%
• Propylene Glycol: 10.0%
• Glycerin (Vegetable): 10.0%
• Phenoxyethanol SA: 0.7%
• Lactic Acid (ปรับ pH ให้อยู่ในช่วง 5-6): 0.5%
• MakeUp-Wash: 5.0% (ลดน้ำเปล่าลงเท่านี้)
• น้ำเปล่า: 44.8% (จากเดิม 49.8% ลบด้วย 5.0% MakeUp-Wash)

ส่วนน้ำมัน:

• LipidSoft Lite: 20.0% (แทน Fractionated Coconut Oil)
• Satin Cream Maker: 1.0% (อาจต้องปรับเล็กน้อยตามเนื้อที่ต้องการ)

รวม: 100.0%

สูตรที่ปรับปรุงนี้ยังคงความอ่อนโยนไว้ พร้อมเพิ่มความสามารถในการทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ส่วนผสมในส่วนน้ำมันที่อาจไม่อุดตันรูขุมขนน้อยกว่า ควรทดสอบสูตรที่ปรับปรุงแล้วในบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้กับทั่วใบหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากับผิวของคุณนะคะ

สรุปการเปลี่ยนแปลง:

• เปลี่ยน Fractionated Coconut Oil เป็น LipidSoft Lite เพื่อลดโอกาสการเกิดสิว
• เพิ่ม MakeUp-Wash 5% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการล้างเครื่องสำอางกันน้ำ
• ปรับลดปริมาณน้ำเปล่าลงเพื่อให้สูตรรวมครบ 100%

อย่าลืมผสม MakeUp-Wash ในส่วนของน้ำก่อนนำส่วนน้ำมันมาผสม ตามคำแนะนำการใช้งานของผลิตภัณฑ์นะคะ และปรับ Lactic Acid ตามความจำเป็นเพื่อให้ได้ pH สุดท้ายที่ 5-6 หลังจากผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้วค่ะ