การพิจารณาสูตรลิปบาล์มและข้อเสนอแนะ

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรลิปบาล์มและคำถามของคุณค่ะ จากเป้าหมายของคุณที่ต้องการสร้างลิปบาล์มที่นุ่ม ชุ่มชื้น ช่วยเติมร่องปาก และติดทนได้ดี รวมถึงข้อเสนอแนะที่คุณได้รับ นี่คือการวิเคราะห์และคำแนะนำในการปรับปรุงค่ะ

สูตรเดิมของคุณประกอบด้วยน้ำมันและสารให้ความนุ่มที่เป็นของเหลวทั้งหมด ซึ่งจะได้เป็นลิปออยล์ ไม่ใช่ลิปบาล์ม (ซึ่งโดยทั่วไปจะมีลักษณะกึ่งแข็ง/แข็ง) หากต้องการให้เป็นลิปบาล์มที่มีเนื้อสัมผัสดีขึ้น บำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ช่วยเติมร่องปาก และติดทนขึ้น จะต้องมีการปรับสูตรโดยเพิ่มส่วนผสมที่เป็นของแข็ง เช่น ขี้ผึ้ง หรือเชียบัตเตอร์

การตอบคำถามของคุณ

1. สามารถใส่น้ำผึ้งได้หรือไม่? ถ้าใส่ได้ให้ลดตัวไหนลง?
   น้ำผึ้งละลายในน้ำ ในขณะที่สูตรของคุณเป็นสูตรที่ไม่มีน้ำ (anhydrous) การเติมน้ำผึ้งลงไปโดยตรงจะทำให้น้ำผึ้งไม่เข้ากับส่วนผสมที่เป็นน้ำมันทั้งหมด และอาจทำให้สูตรไม่คงตัวหรือแยกชั้นได้ หากต้องการใช้น้ำผึ้งในสูตร จะต้องมีสารประสานน้ำกับน้ำมัน (emulsifier) ซึ่งจะทำให้สูตรมีความซับซ้อนขึ้น ดังนั้น ในสูตรน้ำมันล้วนแบบนี้ ไม่สามารถเติมน้ำผึ้งลงไปได้โดยตรงค่ะ

2. ถ้าอยากให้ปากนุ่มชุ่มชื้น เติมร่องปากได้ ติดนานพอสมควร จะต้องปรับลดเพิ่มอะไรบ้าง?
   จากเป้าหมายของคุณที่ต้องการลิปบาล์ม และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ Squalene และ Isododecane:

   • Squalene: ที่ความเข้มข้น 33.5% Squalene (Synthetic, For Lip Gloss) จะทำให้สูตรมีความหนืดมากและอาจรู้สึกเหนียวได้ตามข้อเสนอแนะ แม้ว่าจะช่วยให้ความเงาและการยึดเกาะ แต่การลดปริมาณลงจะช่วยให้เนื้อบาล์มไม่เหนียวจนเกินไป
   • Isododecane: เป็น Emollient ที่เบามากและระเหยเร็ว เพื่อให้รู้สึกไม่เหนอะหนะและกันน้ำ ในลิปบาล์มที่ต้องการความชุ่มชื้นยาวนานและเนื้อแข็ง การใช้ส่วนผสมที่ระเหยได้แบบ Isododecane โดยทั่วไปไม่จำเป็น และอาจรบกวนโครงสร้างหรือเนื้อสัมผัสของบาล์มได้ แนะนำให้ตัดออกค่ะ
   • Phenoxyethanol SA (Optiphen Plus): เป็นสารกันเสียสำหรับสูตรที่มีน้ำ เนื่องจากสูตรของคุณเป็นสูตรที่ไม่มีน้ำ (น้ำมันล้วน) จึงไม่จำเป็นต้องใช้สารกันเสียเพื่อป้องกันเชื้อจุลินทรีย์ สามารถตัดออกได้ค่ะ
   • เพื่อให้ได้เนื้อบาล์มและปรับปรุงประสิทธิภาพ: คุณต้องเพิ่มส่วนผสมที่เป็นของแข็ง เช่น ขี้ผึ้ง (Beeswax) จะช่วยให้โครงสร้างแข็งตัวและสร้างฟิล์มเคลือบเพื่อความติดทน และบัตเตอร์ (เช่น Shea Butter) เป็น Emollient ชั้นดีที่ให้ความชุ่มชื้นสูง ช่วยให้ริมฝีปากนุ่ม และช่วยเติมเต็มร่องปากได้

โครงสร้างสูตรลิปบาล์มที่ปรับปรุงใหม่ที่แนะนำ

นี่คือโครงสร้างสูตรลิปบาล์มที่ปรับปรุงใหม่ เพื่อให้ได้บาล์มที่ให้ความชุ่มชื้น ช่วยเติมร่องปาก มีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น และติดทนขึ้น ปริมาณขี้ผึ้งและบัตเตอร์สามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อให้ได้ความแข็งตามต้องการ:

• Olive CLEAR (Hydrogenated Olive Oil): 10.00%
• Jojoba Oil Clear: 10.00%
• Fractionated Coconut Oil: 20.00% (ปรับลดจาก 30%)
• Squalene (Synthetic, For Lip Gloss): 5.00% (ลดลงอย่างมากจาก 33.5% เพื่อลดความเหนียว)
• Vitamin E (Acetate): 1.00%
• Beeswax (เช่น Natural White Beeswax): 15.00% (เพิ่มโครงสร้างและความติดทน)
• Shea Butter (เช่น Shea Butter Ultra Soft): 39.00% (เพิ่มความชุ่มชื้น ความนุ่ม ช่วยเติมร่องปาก)
  รวมสูตรพื้นฐาน: 100.00%

สูตรที่ปรับปรุงนี้ได้ตัด Isododecane และสารกันเสียออก ลดปริมาณ Squalene ลงอย่างมาก และเพิ่ม Beeswax กับ Shea Butter เพื่อให้ได้ลิปบาล์มที่ให้ความชุ่มชื้น ช่วยเติมร่องปาก มีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น และติดทนขึ้น

• Flavor Oil และ สี Easy Mix: โดยทั่วไปจะใช้ในปริมาณน้อยมาก (เช่น Flavor Oil 0.1-1% สีใช้เพียงเล็กน้อยตามต้องการ) และมักจะเติมในขั้นตอนสุดท้ายของสูตรพื้นฐาน

3. Flavor Oil และ สี Easy Mix ต้องระบุปริมาณในการขอ อย. หรือไม่?
   สำหรับการจดแจ้งเครื่องสำอางกับหน่วยงานกำกับดูแล เช่น อย. โดยทั่วไปจะต้องแจ้งส่วนผสมทั้งหมดที่ใช้ในสูตร รวมถึงปริมาณหรือช่วงความเข้มข้น ตามข้อกำหนดเฉพาะของประเทศหรือภูมิภาคที่คุณทำการจดแจ้ง ซึ่งจะรวมถึง Flavor Oil และสีด้วยค่ะ คุณควรตรวจสอบแนวทางของ อย. ที่เกี่ยวข้อง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเครื่องสำอางสำหรับข้อกำหนดที่แม่นยำ

ในการทำลิปบาล์มตามสูตรที่ปรับปรุงนี้ โดยทั่วไปจะนำส่วนผสมที่เป็นของแข็ง (Beeswax, Shea Butter) ไปหลอมรวมกับน้ำมันที่เป็นของเหลว (Olive CLEAR, Jojoba Oil, Fractionated Coconut Oil, Squalene) เมื่อส่วนผสมหลอมเข้ากันดีแล้ว ปล่อยให้เย็นลงเล็กน้อยก่อนเติม Vitamin E และเติม Flavor Oil กับสีในขั้นตอนสุดท้าย คนให้เข้ากันดีก่อนเทใส่บรรจุภัณฑ์ค่ะ

หวังว่าคำอธิบายและการปรับสูตรนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ!