การปรับสูตรเซรั่มเป็นเนื้อครีมหรือเจล
คำถาม
สามารถปรับสูตรเซรั่มที่มีอยู่ ซึ่งมีส่วนผสมเช่น Vitamin B3, Panthenol, Glucosamine, Matrixyl 3000, Argireline, และ Hyaluronic Acid ให้เป็นเนื้อครีมหรือเนื้อเจลที่ข้นขึ้นได้อย่างไรบ้าง? ควรเพิ่มส่วนผสมอะไรเพื่อปรับเนื้อสัมผัส และมีข้อควรพิจารณาอื่นๆ ที่สำคัญอย่างไรบ้าง (เช่น การกันเสีย)?
คำตอบ
สูตรเซรั่มที่คุณมีสามารถปรับเปลี่ยนเป็นเนื้อครีมหรือเจลได้โดยการเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยสร้างเนื้อค่ะ
การเปลี่ยนเซรั่มเป็นครีมหรือเจล
สูตรเดิมเป็นเบสที่เป็นน้ำเป็นหลัก พร้อมด้วยส่วนผสมออกฤทธิ์และไฮยาลูรอนิกแอซิด ซึ่งช่วยสร้างเนื้อเจลได้บ้าง หากต้องการเปลี่ยนเนื้อสัมผัส:
- ทำเป็นเนื้อครีม: คุณจะต้องเพิ่มสารอิมัลซิไฟเออร์ และอาจรวมถึงส่วนผสมในส่วนของน้ำมัน หากต้องการครีมที่เข้มข้นขึ้น การใช้ Light Cream Maker เป็นวิธีที่ง่ายในการสร้างเนื้อครีมแบบ Oil-in-Water โดยไม่ต้องใช้ความร้อน หากปริมาณส่วนของน้ำมันไม่เกิน 20%
- ทำเป็นเนื้อเจลที่ข้นขึ้น: คุณสามารถเพิ่มสารสร้างเนื้อเจล เช่น Pro Polymer ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหนืดและสร้างเนื้อเจลได้ ตามที่กล่าวในบทสนทนา การใช้ Pro Polymer จะได้เนื้อเจล ในขณะที่ Cream Maker จะได้เนื้อครีม
ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ: สารกันเสีย
สูตรเซรั่มเดิม โดยเฉพาะหากทำโดยไม่มีสารกันเสียและในปริมาณมาก (เช่น 50ml) มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ ตามที่กล่าวถึงในบทสนทนา หากคุณเปลี่ยนเป็นเนื้อครีมหรือเจล การเพิ่มสารกันเสียยิ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลิตภัณฑ์ถูกบรรจุในกระปุกที่ต้องสัมผัสกับนิ้วมือ
ควรพิจารณาเพิ่มสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่เหมาะสำหรับใช้ในเครื่องสำอาง ตัวเลือกได้แก่:
- Mild Preserved COS: สารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่ละลายน้ำได้ มีประสิทธิภาพในช่วง pH 2-8
- Global Guard 221: สารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่ละลายน้ำได้ มีประสิทธิภาพในช่วง pH 2-7
- NaturePreserve Ultra: สารกันเสียจากธรรมชาติ มีประสิทธิภาพในช่วง pH 3-6 ข้อควรระวังคือไม่ควรใช้ร่วมกับ L-Ascorbic Acid (วิตามินซี)
ควรปฏิบัติตามอัตราการใช้และวิธีการผสมที่แนะนำสำหรับสารสร้างเนื้อและสารกันเสียที่คุณเลือกอย่างเคร่งครัด
ส่วนผสมในสูตร
สูตรเดิมประกอบด้วยส่วนผสมหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ในการลดเลือนริ้วรอยและบำรุงผิว:
- Vitamin B3 (Niacinamide): ช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เสริมเกราะป้องกันผิว และควบคุมความมัน
- Panthenol (Pro-Vitamin B5): เป็นสารให้ความชุ่มชื้น ช่วยปลอบประโลมและสมานผิว
- Glucosamine (N-Acetyl-D): ทำงานร่วมกับ Niacinamide เพื่อปรับปรุงสีผิว และสามารถกระตุ้นการสร้างไฮยาลูรอนิกแอซิดในผิวได้
- Matrixyl 3000: กลุ่มเปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนและลดเลือนริ้วรอย
- Argireline: เปปไทด์ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและรอบดวงตา
- Hyaluronic Acid (Standard Molecule) และ Hyaluronic Acid (Nano Molecule): ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวในชั้นต่างๆ โมเลกุลมาตรฐานให้ความชุ่มชื้นที่ผิวชั้นนอก ขณะที่โมเลกุลนาโนสามารถซึมลึกได้มากกว่า ตามที่กล่าวในบทสนทนา โมเลกุลมาตรฐานมีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเจล และคุณอาจปรับปริมาณหากใช้สารสร้างเนื้อเจลตัวอื่น
การเพิ่มสารสร้างเนื้อครีมหรือเจลที่เหมาะสม และสารกันเสีย จะช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนเนื้อสัมผัสของสูตรเซรั่มนี้ได้ โดยยังคงไว้ซึ่งส่วนผสมออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ต่อผิว
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Hyaluronic Acid (Standard Molecule, 1M Daltons)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Light Cream Maker™

Pro Polymer™ (Gel Maker)

D-Panthenol Care (Pro-Vitamin B5, 100% Liquid)

Global Guard™ 221 (pH 2-7, Natural)
