การปรับแก้สูตรครีมที่ทำเสร็จแล้วและการคำนวณใหม่

ถามโดย: jn_andy เมื่อ: November 16, 2015 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการคำนวณสูตรเพื่อปรับแก้ครีมที่ทำเสร็จแล้ว โดยต้องการเพิ่มความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ ควรคำนวณอย่างไร? ตัวอย่างเช่น สูตรเดิมคือ:

  • สาร A 10%
  • น้ำ 90%

หากมีเนื้อครีมที่ทำเสร็จแล้วเหลืออยู่ 50กรัม ต้องการเพิ่ม สาร A ให้เป็น 15% ต้องเติม สาร A เพิ่มเท่าใด? การคำนวณของฉันได้ A 7.5กรัม และ น้ำ 45กรัม ซึ่งได้ความเข้มข้น 14.28% วิธีคำนวณที่ถูกต้องสำหรับการปรับเพิ่มสารในผลิตภัณฑ์ที่ทำเสร็จแล้วคืออย่างไร?

คำตอบ

หัวข้อ: การปรับแก้ครีมที่ทำเสร็จแล้ว

ใช่ค่ะ โดยทั่วไปแล้วสามารถปรับแก้ครีมที่ทำเสร็จแล้วได้ เช่น การเพิ่มสารสร้างเนื้อครีม (cream maker) เพื่อให้ข้นขึ้น หรือการเพิ่มความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ (active ingredient)

หลักการสำคัญคือการคำนวณสูตรใหม่โดยอิงจาก น้ำหนักปัจจุบัน ของเนื้อครีมที่เหลืออยู่ ไม่ใช่อิงจากขนาดของสูตรเดิมที่ทำไว้ครั้งแรก

หลักการจะเป็นแบบเดียวกับตัวอย่างที่คุณให้มาค่ะ:

  1. ชั่งน้ำหนักเนื้อครีมที่เหลืออยู่
  2. กำหนดเปอร์เซ็นต์เป้าหมายของส่วนผสมที่ต้องการเพิ่มหรือปรับให้สูงขึ้น
  3. คำนวณปริมาณส่วนผสมที่ต้องเติมเข้าไปในเนื้อครีมปัจจุบัน เพื่อให้ได้เปอร์เซ็นต์ที่ต้องการใน น้ำหนักรวมใหม่ (น้ำหนักครีมปัจจุบัน + ส่วนผสมที่เติมเพิ่ม)

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีครีมเหลืออยู่ 50 กรัม ซึ่งมีสาร A อยู่ 10% และต้องการเพิ่มสาร A เป็น 15%:

  • ปริมาณสาร A ที่มีอยู่คือ 50 กรัม * 10% = 5 กรัม
  • สมมติว่าต้องเติมสาร A เพิ่ม 'x' กรัม
  • ปริมาณสาร A ใหม่จะเป็น 5 กรัม + x
  • น้ำหนักรวมใหม่จะเป็น 50 กรัม + x
  • คุณต้องการให้ความเข้มข้นใหม่ของสาร A เป็น 15%: (5 + x) / (50 + x) = 0.15
  • แก้สมการหาค่า x: 5 + x = 0.15 * (50 + x) => 5 + x = 7.5 + 0.15x => 0.85x = 2.5 => x ≈ 2.94 กรัม
  • ดังนั้น คุณจะต้องเติมสาร A เพิ่มประมาณ 2.94 กรัม ลงในครีม 50 กรัมของคุณ

วิธีนี้เปรียบเสมือนการสร้างสูตรใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีความเข้มข้นตามที่ต้องการ แม้ว่าการคำนวณอาจทำให้ดูเหมือนว่าเปอร์เซ็นต์รวม "เกิน 100%" เมื่อเทียบกับสูตรเดิม แต่จริงๆ แล้วคือการสร้าง สูตรใหม่ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหลืออยู่เป็นส่วนหนึ่ง

ความท้าทายในทางปฏิบัติคือการผสมส่วนผสมใหม่ให้เข้ากับเนื้อครีมเดิมได้อย่างสม่ำเสมอและคงตัว ซึ่งอาจต้องใช้การผสมอย่างระมัดระวัง อาจมีการให้ความร้อนอย่างอ่อนโยน (ถ้าเหมาะสมกับส่วนผสม) และต้องแน่ใจว่าส่วนผสมเข้ากันได้ดี.