การปรุงน้ำหอมเบื้องต้น: สัดส่วนและการตรึงกลิ่น
คำถาม
ผมไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี เพราะพยายามหากระทู้ปักหมุดแนะนำการปรุงน้ำหอมเบื้องต้นไม่เจอ
จากที่ผมค้นกระทู้อ่านเบื้องต้น ผมไปอ่านเจอที่ Staff แนะนำส่วนผสมในการปรุงน้ำหอม หลักๆ มี
- หัวน้ำหอม 30-40%
- และส่วนที่เหลือเป็น Ethyl Alcohol ทั้งหมด
(ยังไม่มีระบุถึงการใช้สารตรึงกลิ่น)
แต่ผมไปดูรายละเอียดหัวน้ำหอมบางรายการระบุ Maximum Dose แต่บางรายการก็ไม่ได้ระบุ เช่น Rice Flower & Shea (Bath and Body) ระบุว่า สำหรับ Perfume ใช้ที่ 5-15% อันนี้ผมเลยตีความไปว่า Max Dose สำหรับน้ำหอมฉีดกาย ใช้ไม่เกิน 15% แล้วส่วนที่เหลือเป็น Ethyl Alcohol 85% ถูกต้องมั้ยครับ... ส่วนหัวน้ำหอมที่ไม่ได้ระบุ Max Dose ก็ใช้ 30-40% เป็นมาตรฐาน
ทีนี้ก็เรื่อง การตรึงกลิ่น ที่ผมงงเล็กน้อย ว่ามาตรฐานทั่วไปจำเป็นต้องใส่รึเปล่า? Flora Fix เทียบกับ Last Fix ------- จากที่ผมอ่านดู Last Fix มีประสิทธิภาพในการตรึงกลิ่นน้ำหอมที่ดีกว่า+นานกว่า ผมเข้าใจถูกต้องใช่มั้ยครับ
ในเบื้องต้นมีแค่ 2 คำถามนี้ครับ กำลังจะเลือกซื้อส่วนผสมไปทดลองเริ่มต้นทำน้ำหอมฉีดกาย กำลังงงอยู่ว่าจะเลือกซื้อหัวน้ำหอมไหนดีในการเริ่มต้นฝึกทำ แนะนำผมได้นะครับ ขอบคุณมากครับ
คำตอบ
การปรุงน้ำหอมเบื้องต้น
สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับสู่โลกของการปรุงน้ำหอมนะครับ! เป็นเรื่องปกติที่จะมีคำถามมากมายเมื่อเริ่มต้นครับ ผมจะช่วยตอบคำถามของคุณดังนี้ครับ
การปรุงน้ำหอมเบื้องต้น
ยินดีด้วยนะครับที่สนใจเริ่มต้นทำน้ำหอมใช้เอง เป็นงานอดิเรกที่น่าสนุกและสร้างสรรค์ครับ
1. สัดส่วนหัวน้ำหอมและแอลกอฮอล์
ที่คุณเข้าใจนั้นถูกต้องแล้วครับ:
- หลักการทั่วไป: โดยทั่วไปแล้ว การปรุงน้ำหอมฉีดกาย (Perfume) มักจะใช้หัวน้ำหอมในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจอยู่ในช่วง 30-40% หรือมากกว่านั้น และส่วนที่เหลือเป็น Ethyl Alcohol
- ข้อกำหนดเฉพาะของหัวน้ำหอม: อย่างไรก็ตาม หัวน้ำหอมบางรายการ เช่น Rice Flower & Shea (Compare to Bath and Body) อาจมีคำแนะนำการใช้งาน (Maximum Dose) ที่แตกต่างกันไปตามคุณสมบัติและความเข้มข้นของกลิ่นนั้นๆ หากหัวน้ำหอมระบุ Maximum Dose สำหรับ Perfume ไว้ที่ 5-15% ตามที่คุณพบ คุณควรยึดตามคำแนะนำเฉพาะของหัวน้ำหอมนั้นๆ ครับ นั่นหมายความว่า คุณจะใช้หัวน้ำหอมไม่เกิน 15% และส่วนที่เหลือ 85% จะเป็น Ethyl Alcohol ครับ
- สรุป: หากหัวน้ำหอมมีคำแนะนำสัดส่วนการใช้สำหรับ Perfume โดยเฉพาะ ให้ใช้ตามคำแนะนำนั้น แต่ถ้าไม่มีคำแนะนำเฉพาะ สามารถเริ่มต้นจากสัดส่วนทั่วไป 30-40% หัวน้ำหอม และที่เหลือเป็น Ethyl Alcohol ได้ครับ
สำหรับ Ethyl Alcohol ที่มีในรายการสินค้า เช่น Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade) และ Ethyl Alcohol (96% , Perfumer Grade, Low-Odor) ทั้งสองรายการเป็นเกรดสำหรับทำน้ำหอม มีความบริสุทธิ์สูงและกลิ่นอ่อน เหมาะสำหรับนำมาใช้เป็นเบสในการทำน้ำหอมครับ
2. การใช้สารตรึงกลิ่น
เรื่องสารตรึงกลิ่น (Fixative) เป็นอีกส่วนที่ช่วยให้น้ำหอมติดทนยาวนานขึ้นครับ
- ความจำเป็น: การใช้สารตรึงกลิ่นไม่ได้เป็นข้อบังคับที่ "ต้องมี" ในการทำน้ำหอมทุกครั้ง โดยเฉพาะสำหรับการทดลองทำในเบื้องต้น แต่สารตรึงกลิ่นมีบทบาทสำคัญในการช่วยชะลอการระเหยของโมเลกุลน้ำหอม ทำให้กลิ่นติดทนบนผิวได้นานขึ้น และช่วยให้กลิ่นมีความซับซ้อนและสมดุลมากขึ้น
- ประสิทธิภาพ: สารตรึงกลิ่นแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพในการตรึงกลิ่นที่แตกต่างกันไป การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับประเภทของกลิ่นน้ำหอมที่คุณปรุง และผลลัพธ์เรื่องความติดทนที่คุณต้องการครับ
แม้ว่าผมจะไม่พบข้อมูลเฉพาะของ "Flora Fix" และ "Last Fix" ในฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์โดยตรง แต่โดยทั่วไปแล้ว สารตรึงกลิ่นที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าจะช่วยให้น้ำหอมติดทนได้นานกว่าครับ หากคุณต้องการให้น้ำหอมติดทนยาวนานขึ้น การพิจารณาใช้สารตรึงกลิ่นที่เหมาะสมก็เป็นประโยชน์ครับ
คำแนะนำหัวน้ำหอมสำหรับผู้เริ่มต้น
สำหรับการเริ่มต้นฝึกทำน้ำหอมฉีดกาย คุณสามารถเลือกหัวน้ำหอมกลิ่นที่คุณชื่นชอบได้เลยครับ กลิ่นที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อนมากนัก อาจเป็นตัวเลือกที่ดีในการเริ่มต้นทดลองผสมและทำความเข้าใจสัดส่วนต่างๆ ครับ
ตัวอย่างหัวน้ำหอมที่น่าสนใจสำหรับผู้เริ่มต้น อาจเป็นกลิ่นเดี่ยวๆ หรือกลิ่นที่ไม่ซับซ้อนมาก เช่น:
- Jasmine Fragrance Oil
- Strawberry (Fragrance Oil)
- Clean Fabric (Fragrance Oil)
หรือกลิ่นอื่นๆ ที่คุณสนใจเป็นพิเศษ ลองเลือกจากรายการหัวน้ำหอมที่มีให้เลือกมากมายได้เลยครับ
ขอให้สนุกกับการทดลองปรุงน้ำหอมนะครับ!
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Strawberry (Fragrance Oil)

Jasmine Fragrance Oil

Clean Fabric

Rice Flower & Shea (Compare to Bath and Body)
