การผสมครีมทาหน้าเนื้อบางเบา ไม่เหนอะหนะ ด้วย Apple Stem Cell, วิตามินซี (MAP) และวิตามินบี 3 (Niacinamide)
คำถาม
อยากได้ครีมทาหน้า ที่มีส่วนผสมดังนี้
- Apple Stem Cell Extract (PhytoCellTec™): อยากให้เป็นตัวหลักค่ะ
- Vitamin C (Magnesium Ascorbyl Phosphate): ตัวรองลงมาค่ะ
- Vitamin B3 (Niacinamide, Niacin): ลดสิวและรอยสิว เพิ่มความชุ่มชื้น
ปัญหาคือไม่เคยผสมเองมาก่อนและอยากให้ตัวครีมไม่เหนียวเหนอะหนะ ดูดซึมเร็ว ไม่มันและมีประสิทธิภาพ (เสถียรสูง) ต้องเพิ่มเติมส่วนผสมอะไรเพิ่มคะถึงจะได้ตามต้องการ อยากลองผสมเองดูค่ะ รบกวนด้วยนะคะ ขอขั้นตอนการผสมและส่วนผสมที่ต้องใช้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
คำตอบ
การผสมครีมทาหน้าที่มีส่วนผสมของ Apple Stem Cell, วิตามินซี (MAP) และวิตามินบี 3 (Niacinamide)
การสร้างครีมทาหน้าด้วยตัวเองเป็นโปรเจกต์ที่น่าตื่นเต้นมากค่ะ ส่วนผสมที่คุณเลือก ได้แก่ Apple Stem Cell Extract, Magnesium Ascorbyl Phosphate (วิตามินซี) และ Niacinamide (วิตามin บี 3) เป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยมสำหรับการฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวกระจ่างใส และปรับปรุงสภาพผิวให้แข็งแรงขึ้น
นี่คือคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณผสมครีมที่เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนอะหนะ มีความเสถียร และมีประสิทธิภาพ:
ทำความเข้าใจส่วนผสมหลักของคุณ
- Apple Stem Cell Extract (AppleCell™ Powder): ส่วนผสมนี้ช่วยบำรุงเซลล์ผิวให้มีอายุยืนยาวขึ้น ชะลอการเสื่อมสภาพของผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เป็นชนิดผงที่ละลายน้ำได้ ควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายของการผสมเมื่ออุณหภูมิต่ำลงแล้ว
- Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP): เป็นวิตามินซีรูปแบบที่มีความเสถียรสูง มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวกระจ่างใส ละลายน้ำได้ แต่ต้องการค่า pH ที่ค่อนข้างสูง (7-9, เหมาะสมที่สุดคือ 7-8) เพื่อความเสถียรสูงสุด ซึ่งแตกต่างจากส่วนผสมอื่นๆ
- Niacinamide (วิตามินบี 3): มีประโยชน์ในการลดเลือนริ้วรอย ลดรอยแดง/รอยดำ เพิ่มความชุ่มชื้นโดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซราไมด์ เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น และช่วยควบคุมความมัน เหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิว ละลายน้ำได้และมีความเสถียรในช่วง pH ที่กว้างกว่า (3-8, เหมาะสมที่สุดคือ 4-7) เรามี 2 ชนิดคือ Safe-B3™ และ Extreme-B3™ (ชนิดบริสุทธิ์สูง อ่อนโยนกว่า)
ข้อควรพิจารณาในการผสม: ความท้าทายเรื่องค่า pH
ความท้าทายหลักในการนำส่วนผสมเหล่านี้มารวมกันคือช่วงค่า pH ที่เหมาะสมของแต่ละตัว MAP ต้องการสภาพแวดล้อมที่เป็นด่าง (pH 7-8) ในขณะที่ Niacinamide และ Apple Stem Cell Extract จะมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพดีกว่าในช่วงที่เป็นกรดอ่อนๆ ถึงกลางๆ (pH 3.5-7)
ในการสร้างสูตรที่มีความเสถียรซึ่งมีส่วนผสมทั้งสามตัวนี้ คุณจะต้องหาค่า pH ที่เหมาะสมร่วมกัน การผสมที่ค่า pH ประมาณ 5.0-6.0 มักจะเป็นจุดสมดุลที่ดีที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของ Niacinamide และ Apple Stem Cell Extract แม้ว่าความเสถียรของ MAP อาจจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่า pH ที่เหมาะสมที่สุดของมัน คุณควรทำการทดสอบความเสถียรของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายเสมอ
ส่วนผสมเพิ่มเติมที่จำเป็นสำหรับเบสครีม
ในการสร้างครีมที่เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว และไม่เหนอะหนะ คุณจำเป็นต้องมีส่วนผสมอื่นๆ นอกเหนือจากสารออกฤทธิ์ สูตรครีมทั่วไปประกอบด้วยส่วนของน้ำ ส่วนของน้ำมัน และส่วนผสมที่ช่วยรวมทั้งสองส่วนเข้าด้วยกันและทำให้เนื้อครีมคงตัว นี่คือประเภทของส่วนผสมเพิ่มเติมที่คุณจะต้องใช้:
- ส่วนของน้ำ (Water Phase): ใช้น้ำบริสุทธิ์เป็นเบส คุณจะละลายสารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำได้ (Niacinamide, MAP, Apple Stem Cell Extract - แต่ Apple Stem Cell จะเติมทีหลัง) ในส่วนนี้ สามารถเพิ่มสารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) เช่น Glycerin หรือ Propanediol เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับปรุงเนื้อสัมผัส
- ส่วนของน้ำมัน (Oil Phase): เพื่อให้ความนุ่มลื่นแก่ผิวโดยไม่ทำให้เหนอะหนะ ให้เลือกใช้น้ำมันหรือเอสเทอร์ที่บางเบาและซึมซาบเร็ว เช่น Caprylic/Capric Triglyceride, Squalane หรือซิลิโคนบางเบา (เช่น Cyclopentasiloxane หากต้องการ) แฟตตี้แอลกอฮอล์ (เช่น Cetyl Alcohol, Cetearyl Alcohol) หรือแฟตตี้แอซิดสามารถช่วยสร้างโครงสร้างของเนื้อครีมได้
- สารประสานเนื้อ (Emulsifier): สำคัญมากในการรวมส่วนของน้ำและน้ำมันเข้าด้วยกันให้เป็นเนื้อครีมที่คงตัว เลือกสารประสานเนื้อที่เหมาะกับเนื้อสัมผัสที่คุณต้องการ (บางเบา ไม่เหนอะหนะ) ตัวอย่างเช่น Emulsifying Wax (เช่น Cetearyl Alcohol และ Polysorbate 60) หรือสารประสานเนื้อชนิดไม่มีประจุ (Non-ionic Emulsifiers)
- สารเพิ่มความหนืด (Thickener/Rheology Modifier): เพื่อให้เนื้อครีมมีความข้น ป้องกันการแยกชั้น และส่งผลต่อความรู้สึกบนผิว โพลิเมอร์ (เช่น Carbomer) หรือกัม (เช่น Xanthan Gum) เป็นตัวเลือกที่นิยมใช้ สารเพิ่มความหนืดบางชนิดยังช่วยให้เนื้อครีมไม่รู้สึกเหนอะหนะด้วย
- สารกันเสีย (Preservative): จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณปลอดภัย เลือกระบบสารกันเสียที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพในช่วง pH ที่คุณเลือกใช้
- สารคีเลต (Chelating Agent): ส่วนผสมเช่น Disodium EDTA สามารถช่วยเพิ่มความเสถียรของ MAP ได้โดยการจับกับไอออนของโลหะในน้ำ
- สารปรับค่า pH (pH Adjuster): ใช้กรด (เช่น Citric Acid หรือ Lactic Acid) หรือด่าง (เช่น Sodium Hydroxide) เพื่อปรับค่า pH สุดท้ายของครีมให้อยู่ในช่วงที่คุณต้องการ
ขั้นตอนพื้นฐานในการผสมครีม (คำแนะนำทั่วไป)
นี่คือภาพรวมอย่างง่าย ขั้นตอนที่เฉพาะเจาะจงจะขึ้นอยู่กับชนิดของสารประสานเนื้อและสารเพิ่มความหนืดที่คุณใช้
- เตรียมส่วนของน้ำ: ทำให้น้ำบริสุทธิ์ร้อนขึ้นและละลายส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ เช่น Niacinamide, MAP, สารให้ความชุ่มชื้น และสารคีเลต ทำความร้อนถึงอุณหภูมิที่จำเป็นสำหรับสารประสานเนื้อของคุณ (โดยทั่วไปคือ 70-80°C)
- เตรียมส่วนของน้ำมัน: รวมน้ำมัน, แฟตตี้แอลกอฮอล์, และสารประสานเนื้อ ทำความร้อนถึงอุณหภูมิเดียวกับส่วนของน้ำ
- รวมส่วนผสม: ค่อยๆ เติมส่วนของน้ำมันลงในส่วนของน้ำพร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง ใช้เครื่อง Homogenizer หรือ Hand Blender เป็นเวลาสองสามนาทีเพื่อสร้างอิมัลชันที่คงตัว
- ทำให้เย็นลง: คนต่อไปเบาๆ ขณะที่ส่วนผสมเย็นลง เมื่ออุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 40°C:
- เติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน: เติม Apple Stem Cell Extract และสารกันเสียของคุณ
- ปรับค่า pH: ตรวจสอบค่า pH และปรับให้อยู่ในช่วงที่คุณต้องการ (เช่น 5.0-6.0) โดยใช้สารปรับค่า pH
- ผสมขั้นสุดท้าย: คนให้เข้ากันเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
โปรดจำไว้ว่าการผสมสูตรให้สำเร็จต้องอาศัยการชั่งตวงที่แม่นยำ สุขอนามัยที่ดี และการทดสอบความเสถียร การเริ่มต้นจากสูตรเบสที่ง่ายๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มสารออกฤทธิ์ที่คุณต้องการเป็นแนวทางที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Magnesium Ascorbyl Phosphate
