การผสมผงวิตามินซี (AA2G, L-Ascorbic Acid) กับครีม/โลชั่นแบบผสมใช้ครั้งต่อครั้ง: ความเสถียรและความเสี่ยงต่อการระคายเคือง
คำถาม
สามารถผสมผงวิตามินซี เช่น AA2G
(Ascorbyl Glucoside) หรือ L-Ascorbic Acid
กับเบสโลชั่นหรือครีมที่มีอยู่ก่อนใช้ในแต่ละครั้งได้หรือไม่? มีข้อกังวลอะไรบ้างเกี่ยวกับความเสถียร ประสิทธิภาพ และการระคายเคืองผิว เมื่อใช้วิธีนี้แทนการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้อง?
คำตอบ
การผสมวิตามินซี (L-Ascorbic Acid และ AA2G) กับครีม/โลชั่นแบบผสมใช้ครั้งต่อครั้ง
การผสมผงวิตามินซี เช่น L-ascorbic acid หรือ Ascorbyl Glucoside (AA2G) ลงในครีมหรือโลชั่นที่มีอยู่ก่อนใช้ สามารถช่วยลดระยะเวลาที่วิตามินซีสัมผัสกับสภาวะที่ไม่เหมาะสม ซึ่งช่วยลดการเสื่อมสภาพเมื่อเทียบกับการผสมในปริมาณมากเพื่อเก็บไว้ใช้นานๆ
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อควรพิจารณาที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องค่า pH และการระคายเคืองผิวที่อาจเกิดขึ้น:
- AA2G (Ascorbyl Glucoside): แม้ AA2G จะเป็นวิตามินซีชนิดที่เสถียร แต่ในรูปแบบผงเมื่อละลายน้ำจะมีฤทธิ์เป็นกรด เพื่อความเสถียรสูงสุดในสูตรสำเร็จรูป AA2G ต้องการค่า pH ของผลิตภัณฑ์สุดท้ายอยู่ในช่วง 6.5-6.8 การผสมลงในเบสที่มีค่า pH แตกต่างกันมาก แม้จะใช้ทันที ก็หมายความว่า AA2G ไม่ได้อยู่ในสภาวะที่เสถียรที่สุด แต่ระยะเวลาสัมผัสที่สั้นลงจะช่วยลดผลกระทบต่อการเสื่อมสภาพได้
- L-Ascorbic Acid: วิตามินซีรูปแบบนี้ไม่เสถียรในน้ำ และต้องการค่า pH ที่ต่ำ (โดยทั่วไป 2.0-4.0 โดย อย. กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ทาทิ้งไว้มี pH อย่างน้อย 3.5) เพื่อความเสถียรในสูตร การผสมลงในครีมหรือโลชั่นที่มีค่า pH สูงกว่าจะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
ความเสี่ยงของการระคายเคือง: ข้อกังวลหลักของการผสมผงที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น AA2G หรือ L-ascorbic acid ลงในเบสโดยไม่มีการปรับสูตรที่ถูกต้อง คือความเสี่ยงที่จะเกิดการระคายเคืองผิว หากใส่ผงมากเกินไป หรือหากเบสมีค่า pH ต่ำอยู่แล้ว ส่วนผสมที่ได้อาจมีความเป็นกรดสูงเกินไปสำหรับผิว ทำให้เกิดรอยแดง แสบ หรือแพ้ง่ายได้
ดังนั้น แม้การผสมใช้ครั้งต่อครั้งจะช่วยลดปัญหาการเสื่อมสภาพตามเวลาได้ แต่ก็ไม่ได้แก้ไขปัญหาเรื่องค่า pH ของส่วนผสมที่ทาลงบนผิวโดยทันที หรือความเสี่ยงของการระคายเคืองจากการเติมส่วนผสมที่เป็นกรดโดยไม่มีการควบคุม pH การปรับสูตรที่ถูกต้องเกี่ยวข้องกับการวัดและปรับค่า pH สุดท้ายเพื่อให้มั่นใจได้ถึงความเสถียรของส่วนผสม (ถ้ามี) และความเข้ากันได้กับผิว
สรุปคือ แม้การผสมใช้ครั้งต่อครั้งจะมีข้อดีในแง่ของการลดระยะเวลาการเสื่อมสภาพ แต่ก็ยังคงแนะนำให้ปรับสูตรผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องพร้อมกับการปรับค่า pH ที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ทั้งประสิทธิภาพสูงสุดและความปลอดภัยต่อผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ AA2G
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)

Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
