การผสมวิตามินบี 3 และอัลฟ่า อาร์บูตินในเซรั่ม และสาเหตุของปัญหาผิว

วิธีการผสมวิตามินบี 3 และอัลฟ่า อาร์บูตินลงในเซรั่ม

เพื่อให้การผสมวิตามินบี 3 (Niacinamide) และอัลฟ่า อาร์บูตินลงในเซรั่มเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องปฏิบัติตามหลักการการผสมเครื่องสำอางที่ถูกต้อง ซึ่งคือการชั่งตวงส่วนผสมตามน้ำหนัก (% w/w) โดยใช้เครื่องชั่งที่ละเอียด ไม่ใช่การวัดปริมาตรหรือวิธีการที่ไม่แม่นยำ เช่น การตักเท่าหัวไม้ขีด

ทั้ง Niacinamide (เช่น Safe-B3 หรือ Extreme-B3) และ Alpha Arbutin เป็นผงที่ละลายน้ำได้ สามารถนำไปผสมในส่วนของน้ำ (water phase) ของเบสเซรั่มได้ ข้อควรพิจารณาที่สำคัญในการผสมคือ:

• อัตราส่วนการใช้: ควรอ้างอิงอัตราส่วนการใช้ที่แนะนำสำหรับส่วนผสมแต่ละชนิด สำหรับ Alpha Arbutin อัตราส่วนที่แนะนำโดยทั่วไปคือ 0.2-2% (แนะนำ 2% สำหรับปรับสภาพผิวให้สว่างกระจ่างใส) สำหรับ Niacinamide อัตราส่วนที่ใช้โดยทั่วไปคือ 1-10% (Safe-B3 และ Extreme-B3 สามารถใช้ได้ถึง 10% โดยไม่ทำให้เกิดอาการแดง)
• ค่า pH: ค่า pH สุดท้ายของเซรั่มมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับ Alpha Arbutin ซึ่งมีความเสถียรในช่วง pH 3.5-6.5 หากค่า pH สูงกว่า 8 Alpha Arbutin สามารถสลายตัวกลายเป็น Hydroquinone ซึ่งเป็นสารอันตรายได้ ส่วน Niacinamide มีความเสถียรในช่วง pH 3-8 โดยช่วงที่เหมาะสมที่สุดคือ 4.0-7.0 ดังนั้น ค่า pH สุดท้ายของเซรั่มควรอยู่ในช่วง 4.0 ถึง 6.5 เพื่อให้ส่วนผสมทั้งสองชนิดมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพ
• วิธีการผสม: ละลายผงส่วนผสมในส่วนของน้ำของเบสเซรั่ม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุณหภูมิของเครื่องสำอางต่ำกว่า 30°C เมื่อเติม Alpha Arbutin ในขั้นตอนสุดท้ายของการผสม

การสร้างเซรั่มขึ้นมาใหม่เองจะช่วยให้คุณควบคุมความเข้มข้นและค่า pH ได้อย่างแม่นยำ ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การใช้เครื่องชั่งที่ละเอียดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการวัดที่ถูกต้อง

สาเหตุที่เป็นไปได้ของปัญหาผิวจากการใช้การตักแบบ "เท่าหัวไม้ขีด"

ปัญหาผิวที่คุณพบ เช่น รอยดำคล้ายฝ้าอ่อนๆ และรอยด่างขาว มีแนวโน้มสูงว่าเกิดจากวิธีการวัดผงส่วนผสมแบบ "เท่าหัวไม้ขีด" ที่ไม่ถูกต้อง และการนำไปผสมกับ Hada Labo นี่คือเหตุผล:

• ความเข้มข้นที่ไม่แม่นยำ: การวัดส่วนผสมตามปริมาตร (เช่น เท่าหัวไม้ขีด) เป็นวิธีการที่ไม่แม่นยำอย่างยิ่งสำหรับส่วนผสมเครื่องสำอาง ซึ่งควรวัดตามน้ำหนัก การทำเช่นนี้ทำให้ได้ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้และอาจสูงมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง แผลไหม้จากสารเคมี และการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ (ทั้งรอยดำและรอยด่างขาว)
• ความเป็นไปได้ในการสลายตัวเป็น Hydroquinone: หากผงที่คุณได้รับเป็น Alpha Arbutin จริง แต่ถูกนำไปผสมในเบสที่มีค่า pH สูงกว่า 6.5 (ค่า pH ของผลิตภัณฑ์ Hada Labo อาจแตกต่างกันไป แต่บางชนิดอาจอยู่นอกช่วงที่เหมาะสมสำหรับความเสถียรของ Alpha Arbutin) Alpha Arbutin อาจสลายตัวกลายเป็น Hydroquinone ได้ Hydroquinone เป็นสารที่ช่วยให้ผิวขาวขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เป็นสารควบคุมที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง รวมถึงภาวะรอยดำคล้ำมากขึ้น (paradoxical hyperpigmentation) และภาวะผิวคล้ำเป็นสีน้ำเงินอมดำ (ochronosis) หากใช้อย่างต่อเนื่องหรือใช้อย่างไม่ถูกต้อง การที่ผิวขาวใสขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงแรกอาจบ่งชี้ถึงการมีอยู่ของสารที่ออกฤทธิ์เร็วและอาจเป็นอันตราย เช่น Hydroquinone เนื่องจาก Alpha Arbutin โดยทั่วไปต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 สัปดาห์จึงจะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจน
• สิ่งเจือปนหรือสารอื่นที่ไม่ถูกต้อง: มีความเป็นไปได้เช่นกันว่าผงที่คุณได้รับไม่ใช่ Alpha Arbutin บริสุทธิ์ หรือมีสารอันตรายอื่นเจือปนอยู่

การผสมเครื่องสำอางต้องอาศัยการวัดที่แม่นยำและความเข้าใจในคุณสมบัติและการทำงานร่วมกันของส่วนผสมต่างๆ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การใช้วิธีการที่ไม่แม่นยำหรือส่วนผสมที่อาจไม่เสถียรอาจนำไปสู่ปัญหาผิวได้

ขอแนะนำให้หยุดใช้ผงที่คุณซื้อมาทันทีและปรึกษาแพทย์ผิวหนังเกี่ยวกับปัญหาผิวที่คุณกำลังประสบอยู่ สำหรับการผสมในอนาคต ควรเลือกซื้อส่วนผสมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และปฏิบัติตามอัตราส่วนการใช้และวิธีการผสมที่แนะนำโดยอ้างอิงจากการวัดตามน้ำหนักเสมอ