ข้อมูลเกี่ยวกับการผสมสารสกัดชะเอมเทศ

สารสกัดชะเอมเทศมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบมีคุณสมบัติและวิธีการผสมที่แตกต่างกัน ในการพิจารณาว่าจะสามารถเติมลงในผลิตภัณฑ์ของคุณได้หรือไม่นั้น คุณต้องพิจารณาจากชนิดของสารสกัดชะเอมเทศที่คุณเลือกใช้ และสูตรพื้นฐานของผลิตภัณฑ์ที่คุณมีอยู่ค่ะ

นี่คือสารสกัดชะเอมเทศบางประเภทและวิธีการผสม:

• ชนิดที่ละลายน้ำ: เช่น Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble), Licorice Extract (Glabridin 4.5%, Water-Soluble) และ Ammonium Glycyrrhizate สามารถผสมลงในส่วนของน้ำในสูตรได้โดยตรง สำหรับชนิด Glabridin 4.5% ควรหลีกเลี่ยงความร้อน และเติมในขั้นตอนสุดท้ายหากสูตรมีการใช้ความร้อน ส่วน Ammonium Glycyrrhizate สามารถทนความร้อนได้ถึง 80°C

• ชนิดที่ละลายในไกลคอล/เอทานอล: Pure-Glabridin™ Licorice Extract (Glabridin 90%) และ Hi-Glabridin™ Licorice Extract (Glabridin 40%) จำเป็นต้องละลายใน Butylene Glycol หรือ Ethanol ก่อน โดยใช้ปริมาณตัวทำละลายอย่างน้อย 10 เท่าของปริมาณ Glabridin สามารถใช้ความร้อน 50-60°C ช่วยในการละลายได้ง่ายขึ้น ส่วน Hi-LiconeA™ Licorice Extract (Licochalcone A 20%) สามารถละลายใน Propylene Glycol หรือ Glycol ชนิดใดก็ได้

• ชนิดที่ละลายในน้ำมัน: Glycyrrhizic acid (Oil Soluble Licorice Extract) ควรผสมลงในส่วนของน้ำมัน สามารถละลายได้ที่อุณหภูมิห้อง แต่หากใช้ความร้อน 40-50°C จะช่วยให้ละลายได้ง่ายและเร็วขึ้นค่ะ

ดังนั้น คุณสามารถผสมสารสกัดชะเอมเทศลงในผลิตภัณฑ์ได้ค่ะ แต่จะต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกใช้สารสกัดชะเอมเทศชนิดใด และสูตรพื้นฐานของคุณเข้ากันได้กับคุณสมบัติการละลายของสารสกัดชนิดนั้นหรือไม่ (เช่น เป็นสูตรน้ำ สูตรน้ำมัน หรือสูตรที่ใช้ไกลคอล/เอทานอลเป็นตัวทำละลายหลัก)