คำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับการผสมส่วนผสม

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการผสมส่วนผสมลงในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่คุณใช้อยู่ โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ได้รับ:

1. การผสม Apple Stem Cell ในครีมที่มี DMAE และ Alpha Lipoic Acid

คุณสามารถผสม Apple Stem Cell Extract ลงในครีมทาหน้าของคุณที่มีส่วนผสมของ DMAE และ Alpha Lipoic Acid ได้ โดยมีเงื่อนไขว่าค่า pH ของครีมต้องเหมาะสมกับ Apple Stem Cell (ควรมีค่า pH สูงกว่า 5.5) Apple Stem Cell Extract เป็นผงที่ละลายน้ำได้ แนะนำให้ผสมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิของผลิตภัณฑ์ต่ำกว่า 40°C

ในส่วนของปริมาณ ไม่จำเป็นต้องให้ได้ปริมาณรวม 100 กรัมพอดี คุณควรคำนวณปริมาณของ Apple Stem Cell ตามเปอร์เซ็นต์ที่คุณต้องการ (5%) และปริมาณของครีมที่คุณมีอยู่ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีครีม 50 กรัม คุณจะเติม Apple Stem Cell Extract 5% ของ 50 กรัม ซึ่งเท่ากับ 2.5 กรัม

2. การผสม DMAE, Pepha Tight, และ Apple Stem Cell ใน Hada Labo (ขวดสีน้ำเงิน) ที่มี Arbutin

แม้ว่าจะสามารถผสมส่วนผสมลงในโลชั่น Hada Labo ได้ แต่ไม่แนะนำอย่างยิ่งให้เติม DMAE (โดยเฉพาะชนิด Bitartrate) เนื่องจากมีความเป็นกรดสูงมาก ซึ่งจะทำให้ค่า pH ของโลชั่นลดลงอย่างมาก อาจทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่เสถียร หรือต้องปรับค่า pH ที่ซับซ้อน นอกจากนี้ Apple Stem Cell ยังต้องการค่า pH ที่สูงกว่า 5.5

แทนที่จะใช้ DMAE สำหรับการปรับปรุงโลชั่น Hada Labo แนะนำให้เติม:

• Niacinamide (Vitamin B3) 4%
• Apple Stem Cell Extract 5%
• เปปไทด์สำหรับลดริ้วรอย เช่น Acetyl Hexapeptide-8 (Argireline) 3-5% หรือ Acetyl Octapeptide-3 (SNAP-8) 5%
• และอาจเพิ่ม Acetyl Glucosamine (GlucoBright™) 4% เพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านความกระจ่างใส

ส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิดเหล่านี้ รวมถึง Apple Stem Cell Extract, Acetyl Hexapeptide-8 และ Acetyl Octapeptide-3 ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อการเก็บรักษาในระยะยาวหลังจากผสมแล้ว

3. การผสม Arbutin และ Glucosamine ในโลชั่นทาตัว Vaseline Healthy White ที่มี B3

ได้ค่ะ คุณสามารถผสม Alpha Arbutin 2% และ Acetyl Glucosamine (GlucoBright™) 4% ลงในโลชั่น Vaseline Healthy White ของคุณ (ซึ่งมี Niacinamide/B3 อยู่แล้ว) เพื่อเน้นความขาวกระจ่างใส อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทั้ง Alpha Arbutin และ Acetyl Glucosamine เป็นผง คุณควรละลายทั้งสองชนิดในน้ำปริมาณเล็กน้อยให้ละลายหมดก่อน แล้วจึงนำไปผสมกับโลชั่น เพื่อให้แน่ใจว่ากระจายตัวได้ดีและมีประสิทธิภาพ

เช่นเดียวกับข้อ 1 คุณไม่จำเป็นต้องให้ได้ปริมาณรวม 100 กรัมพอดี ให้คำนวณปริมาณของ Alpha Arbutin และ Acetyl Glucosamine ตามเปอร์เซ็นต์และปริมาณโลชั่นที่คุณใช้ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีโลชั่น 50 กรัม คุณจะเติม Alpha Arbutin 2% ของ 50 กรัม (1 กรัม) และ Acetyl Glucosamine 4% ของ 50 กรัม (2 กรัม) โดยละลายในน้ำปริมาณเล็กน้อยก่อน

4. ความแตกต่างด้านความขาวระหว่างการใส่หรือไม่ใส่ MAP Vitamin C

ในการผสมส่วนผสมลงในโลชั่นที่คุณใช้อยู่ซึ่งมี Niacinamide และจะเติม Alpha Arbutin กับ Acetyl Glucosamine นั้น ไม่แนะนำให้เติม Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) Vitamin C เนื่องจาก MAP มีความเป็นด่าง และต้องการค่า pH สูง (7-9) เพื่อความเสถียร ในขณะที่ Alpha Arbutin, Niacinamide และ Acetyl Glucosamine มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าที่ค่า pH ต่ำกว่า (โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 3.5-7) การเติม MAP จะรบกวนสมดุลค่า pH ที่จำเป็นสำหรับส่วนผสมไวท์เทนนิ่งอื่นๆ ในการทำงานอย่างเหมาะสมและคงความเสถียร ทำให้กระบวนการผสมซับซ้อนขึ้น การใช้ Alpha Arbutin, Niacinamide (ที่มีอยู่ในโลชั่นแล้ว) และ Acetyl Glucosamine ร่วมกันก็เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวกระจ่างใส โดยไม่มีปัญหาเรื่องค่า pH ที่เกิดจากการใช้ MAP