การผสมสารออกฤทธิ์และเลือกสารลดการระคายเคืองสำหรับ Spot Corrector

สวัสดีค่ะ

สำหรับคำถามเกี่ยวกับการใช้ส่วนผสม Ethyl Ascorbic Acid, Tranexamic Acid, และ Azelaic Acid ในการทำ spot corrector สำหรับฝ้าและจุดด่างดำ ทีมงานขอสรุปข้อมูลจากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ดังนี้ค่ะ

เวลาที่เหมาะสมในการใช้:

• Ethyl Ascorbic Acid และสารกลุ่ม Vitamin C อื่นๆ: สามารถใช้ได้ทั้ง กลางวันและกลางคืน
• Tranexamic Acid: สามารถใช้ได้ทั้ง กลางวันและกลางคืน
• Azelaic Acid: เนื่องจากมีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว จึงแนะนำให้ใช้เฉพาะ กลางคืน

การใช้ร่วมกัน:

• Ethyl Ascorbic Acid สามารถใช้ร่วมกับสารอื่นๆ ได้ ยกเว้น Safe-B3 (Niacinamide)
• Tranexamic Acid และ Azelaic Acid เป็นสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง หากต้องการใช้ร่วมกันในสูตรเดียว ควรลดความเข้มข้นของแต่ละตัวลง
• สำหรับสูตรที่คุณ jn_andy เสนอมาคือ:
  • กลางวัน: Ethyl Ascorbic acid 3% + Tranexamic Acid 3%
  • กลางคืน: Ethyl Ascorbic acid 3% + Azelaic Acid 10%
    
    เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า สามารถทำได้ ค่ะ

ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์ (เจล vs ครีม):

• คำถามนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อไปให้คุณ C7 ช่วยให้คำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ

การเลือกใช้สารลดการระคายเคือง:

• สารลดการระคายเคืองที่คุณ jn_andy สนใจมี 4 ตัวคือ Allantoin, Creatine 100, Bisabolol, และ Calendula Extract
• เจ้าหน้าที่แนะนำว่า การใช้ส่วนผสมหลากหลายชนิดในสัดส่วนที่ต่ำลง มักให้ผลดีกว่าการใช้ส่วนผสมตัวเดียวในปริมาณมาก
• หากการผสมส่วนผสมหลายตัวไม่ได้ทำให้ขั้นตอนยุ่งยากเกินไป เจ้าหน้าที่แนะนำให้พิจารณาใส่สารลดการระคายเคืองทั้ง 4 ตัวในอัตราส่วนที่เหมาะสม
• เมื่อเปรียบเทียบ Bisabolol กับ Calendula Extract (ชนิดที่บริษัทมีจำหน่าย) เจ้าหน้าที่แจ้งว่า Bisabolol ให้ประสิทธิภาพได้ดีกว่า เนื่องจาก Calendula Extract ชนิดละลายน้ำที่บริษัทมีจำหน่ายยังขาดองค์ประกอบบางส่วนที่ละลายในน้ำมันซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงกว่า

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ