คำถามเกี่ยวกับการผสมสูตร: Ectoin, Repair Activator, สารคีเลต, และสารนำพา

นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับคำถามของคุณเกี่ยวกับการผสมสูตรที่มี Ectoin และ Repair Activator:

1. การใช้ Ectoin, Repair Activator และสารคีเลต ร่วมกัน

ใช่ โดยทั่วไปคุณสามารถใช้ Ectoin (2%) และ Repair Activator (Bifida Ferment Lysate) (10%) ร่วมกันในสูตรเดียวกับสารคีเลต (Chelating Agent) ได้

• Ectoin มีความเสถียรในช่วง pH ที่กว้าง (1-9) และละลายน้ำได้
• Repair Activator (Bifida Ferment Lysate) ก็ละลายน้ำได้เช่นกัน และโดยทั่วไปมีค่า pH อยู่ระหว่าง 4-5.5 ซึ่งเข้ากันได้กับช่วงความเสถียรของ Ectoin
• สารคีเลต (Chelating Agents) มักใช้ในสูตรเครื่องสำอางเพื่อจับกับไอออนของโลหะ ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงความเสถียรและประสิทธิภาพของส่วนผสมที่ไวต่อการปนเปื้อนของโลหะ โดยทั่วไปสารคีเลตจะละลายน้ำได้และเข้ากันได้กับสูตรส่วนใหญ่ที่เป็นเบสน้ำ

การใช้สารคีเลตในสูตรของคุณสามารถช่วยปกป้องความเสถียรของทั้ง Ectoin และ Repair Activator โดยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นกับไอออนของโลหะที่เจือปนอยู่ในน้ำหรือส่วนผสมอื่นๆ

2. การใช้ Laurocapram (Water Soluble) แทน DMI

ใช่ คุณสามารถใช้ Laurocapram (Water Soluble) ที่ความเข้มข้น 2% เป็นสารนำพา (penetration enhancer) สำหรับ Ectoin (2%) และ Repair Activator (10%) แทน Dimethyl Isosorbide (DMI) ที่ความเข้มข้น 3% ได้

• ทั้ง Laurocapram (Water Soluble) และ Dimethyl Isosorbide (DMI) เป็นสารนำพาที่มีประสิทธิภาพสำหรับส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ เช่น Ectoin และ Repair Activator
• อัตราการใช้ Laurocapram ที่คุณเสนอคือ 2% ซึ่งอยู่ในช่วงที่แนะนำ (1-3%)
• Laurocapram (Water Soluble) ถูกอธิบายว่าไม่มีกลิ่นหรือมีกลิ่นอ่อนๆ ซึ่งตอบโจทย์ความไวต่อกลิ่นของ DMI ที่คุณประสบ
• เมื่อใช้ Laurocapram แนะนำให้ผสมในส่วนของน้ำและหลีกเลี่ยงความร้อนเกิน 60 องศาเซลเซียส ในขณะที่ DMI สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 80 องศาเซลเซียส แต่โดยทั่วไปแล้วส่วนผสมทั้งสองชนิดมักถูกเติมในขั้นตอนการเย็นตัวของสูตรอยู่แล้ว จึงไม่น่าเป็นปัญหาหลัก

ดังนั้น Laurocapram (Water Soluble) ที่ 2% เป็นทางเลือกที่เหมาะสมแทน DMI ที่ 3% สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการนำพา Ectoin และ Repair Activator โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความต้องการส่วนผสมที่มีกลิ่นน้อยกว่าของคุณ.