การผสมเซรั่มผิวมัน: ต่อต้านริ้วรอย, รักษาแผลเป็น, และความเข้ากันของส่วนผสม

ถามโดย: xboyspattaya เมื่อ: October 31, 2015 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ถ้าต้องการผสมเซรั่มสำหรับผิวมัน เน้นต่อต้านริ้วรอยและรักษาแผลเป็นหลุมสิวบนใบหน้า โดยมี Active ingredients ดังนี้:

  • Argireline (Acetyl Hexapeptide-8) 10%
  • Pep-Coll (Palmitoyl tripeptide-5) 5%
  • Retinol cyclosystem complex (retinol cyclodextrin) 6%

และตามด้วย Active ingredients สารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ เพื่อลดเลือนริ้วรอยและผิวขาว

มีคำถามดังนี้ครับ:

  1. จำเป็นหรือไม่ว่าต้องเพิ่ม Matrixyl 3000 (Palmitoyl Oligopeptide, Palmitoyl Tetrapeptide-7) 8% ลงไปอีก หรือว่าเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วในการลดเลือนริ้วรอย? จำเป็นหรือไม่ว่าต้องใช้ Maxtrixl 3000 + Pep-Coll + Retinol cyclosystem complex ลงไปให้ครบทั้งสามชนิดจึงจะเกิดประสิทธิภาพเต็มที่ในการลดเลือนริ้วรอย? ทุ่มทุนสร้างเลยครับ แนะนำด้วยครับ
  2. ถ้าในสูตรมี วิตามินซี (Go-VC) อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการเติม Copper Peptide (GHK-Cu) ลงไป จะทำให้ประสิทธิภาพของ Copper Peptide ลดลงหรือไม่ครับ? หรือว่าลดลงแค่วิตามินซี แต่ Copper Peptide ยังคงทำงานเท่าเดิม? คือคิดว่าวิตามินซีเป็นตัวเจ้าปัญหาเลยจะไม่ง้ออีกต่อไป เพราะสาร Whitening อื่นๆ ที่ให้ความขาวยังมีอีกมากมายและทนทานต่ออุณหภูมิและอากาศ ตอนนี้ง้อ Copper Peptide ดีกว่าครับ ขอบอกว่าพลาดมากที่สุดที่ใช้กลุ่มวิตามินซีเป็นตัว Whitening ใช้ Alpha Arbutin ดีกว่าเยอะ ถึงแม้ว่าจะบอกว่าเสถียรแค่ไหนเราก็ไม่ไว้ใจ เพราะใส่ไปตามสูตร ไม่เคยทำความขาวให้ปรากฏ อาจจะสลายไปแล้วครับ
  3. ในสูตรเซรั่มผิวมันข้างต้น จะสามารถเติม AHA (เช่น Malic Acid) หรือ BHA (Salicylic Acid) ลงไปได้หรือไม่ครับ? มันจะไปทำลายประสิทธิภาพของตัวลดเลือนริ้วรอยตัวไหนที่ใส่ลงไปบ้างรึเปล่าครับ เพราะเป็นกรด หรือว่าจะสามารถใช้อย่างอื่นแทนได้หรือไม่ครับ แนะนำด้วยนะครับ

คำตอบ

การผสมเซรั่มสำหรับผิวมัน: ต่อต้านริ้วรอยและรักษาแผลเป็นหลุมสิว

ขอตอบคำถามของคุณเกี่ยวกับการผสมเซรั่มที่คุณเสนอสำหรับผิวมันที่เน้นการต่อต้านริ้วรอยและรักษาแผลเป็นหลุมสิว:

1) ความจำเป็นในการเพิ่ม Matrixyl 3000

ส่วนผสมที่คุณมีอยู่แล้วคือ Argireline, Pep-Coll และ Retinol cyclosystem complex ถือเป็นส่วนผสมที่ทรงพลังในการต่อต้านริ้วรอยและจัดการกับริ้วรอยและแผลเป็นหลุมสิว โดยแต่ละส่วนผสมมีกลไกการทำงานที่แตกต่างกัน:

  • Argireline (Acetyl Hexapeptide-8): ทำงานโดยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและรอบดวงตา
  • Pep-Coll (Palmitoyl tripeptide-5): กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ช่วยให้ผิวเฟิร์มกระชับขึ้นและลดความลึกของริ้วรอย
  • Retinol cyclosystem complex (เช่น Perfect-A Nano หรือ HyaRetin): เรตินอยด์มีประสิทธิภาพสูงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มการผลัดเซลล์ผิว และปรับปรุงสภาพผิว ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งกับริ้วรอยและลักษณะของแผลเป็นหลุมสิว

การเพิ่ม Matrixyl 3000 (Pal-GHK, Pal-GQPR) ซึ่งเป็นเปปไทด์อีกชนิดที่กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน อาจช่วยเสริมประสิทธิภาพได้โดยให้การสนับสนุนโครงสร้างคอลลาเจนของผิวเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม Pep-Coll ก็เป็นเปปไทด์ที่กระตุ้นคอลลาเจนที่มีศักยภาพสูงอยู่แล้ว และการใช้ร่วมกับ Retinol ก็ให้ประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอยอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าการเพิ่ม Matrixyl 3000 จะช่วยเสริมการกระตุ้นคอลลาเจนได้อีก แต่ก็ไม่ได้จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เห็นผลในการลดริ้วรอยอย่างชัดเจน ส่วนผสมที่คุณมีอยู่ก็ครอบคลุมแล้ว

ไม่จำเป็นต้องใช้เปปไทด์ทั้งสามชนิด (Matrixyl 3000, Pep-Coll) ร่วมกับ Retinol เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการลดเลือนริ้วรอย สูตรที่คุณเสนอ (Argireline, Pep-Coll และ Retinol) ก็มุ่งเป้าไปที่หลายกลไกที่เกี่ยวข้องกับความชราและการซ่อมแซมผิวอยู่แล้ว

2) ความเข้ากันได้ของ Copper Peptide และ Vitamin C

โดยทั่วไปแล้ว ไม่แนะนำให้ผสม Copper Peptide (GHK-Cu) กับ Vitamin C บางชนิด โดยเฉพาะ L-Ascorbic Acid เนื่องจากอาจทำให้ไม่เสถียรและลดประสิทธิภาพลง Copper Peptide มีความไวต่อค่า pH และทำงานได้ดีที่สุดในช่วง 4.5-7.4 ในขณะที่สูตร Vitamin C ที่มีประสิทธิภาพหลายสูตร โดยเฉพาะ L-Ascorbic Acid ต้องการค่า pH ที่ต่ำมาก (ต่ำกว่า 3.5) เพื่อความเสถียรและการดูดซึม ซึ่งไม่เข้ากันกับช่วง pH ที่เหมาะสมของ Copper Peptide

นอกจากนี้ ส่วนผสมอย่าง Disodium EDTA ซึ่งมักใช้ในเครื่องสำอางเพื่อจับกับไอออนโลหะและเพิ่มความเสถียรของส่วนผสมอย่าง Vitamin C สามารถจับกับทองแดงใน Copper Peptide ได้ ทำให้ประสิทธิภาพลดลง คำอธิบายผลิตภัณฑ์ของ Copper Peptide แนะนำอย่างชัดเจนว่าไม่ควรใช้ Disodium EDTA ในสูตร

จากประสบการณ์และความชอบของคุณ การใช้ Alpha Arbutin เพื่อผิวขาวกระจ่างใสเป็นทางเลือกที่ดี Alpha Arbutin มีความเสถียรมากกว่า L-Ascorbic Acid และมีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวกระจ่างใส ช่วง pH ที่เหมาะสม (3.5-6.5) เข้ากันได้ดีกว่าช่วง pH ของ Copper Peptide (4.5-7.4) เมื่อเทียบกับ L-Ascorbic Acid

ดังนั้น เพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุดของ Copper Peptide ควรหลีกเลี่ยงการผสมกับ Vitamin C ที่ต้องการค่า pH ต่ำ หรือมีการใช้ EDTA ในสูตร Alpha Arbutin เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับความต้องการผิวขาวของคุณและเข้ากันได้กับ Copper Peptide

3) การเพิ่ม AHA หรือ BHA

การเพิ่ม AHA (เช่น Malic Acid) หรือ BHA (Salicylic Acid) ลงในสูตรเซรั่มของคุณที่มีเปปไทด์และ Retinol อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายเนื่องจากความไม่เข้ากันของค่า pH AHA และ BHA มีประสิทธิภาพสูงสุดในการผลัดเซลล์ผิวที่ค่า pH ต่ำ (โดยทั่วไปต่ำกว่า 4) เปปไทด์หลายชนิด รวมถึง Argireline, Pep-Coll และ Matrixyl 3000 รวมถึง Copper Peptide มีความไวต่อค่า pH ต่ำ และอาจเสื่อมสภาพหรือสูญเสียประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดซึ่งจำเป็นสำหรับการผลัดเซลล์ด้วย AHA/BHA

ความเสถียรของ Retinol ก็ได้รับผลกระทบจากค่า pH เช่นกัน แม้ว่ารูปแบบที่ถูกห่อหุ้มอาจให้การปกป้องได้บ้าง อย่างไรก็ตาม การผสมสารผลัดเซลล์ผิวที่ทรงพลังกับ Retinol และเปปไทด์หลายชนิดในสูตรเดียวก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิวได้

เพื่อให้สามารถใช้ทั้งการผลัดเซลล์ผิวและการรักษาต่อต้านริ้วรอย/แผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ AHA หรือ BHA ในผลิตภัณฑ์แยกต่างหาก โดยทาในเวลาที่ต่างกันของวัน หรือสลับวันกับการใช้เซรั่มที่มีเปปไทด์และ Retinol ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ AHA/BHA ในตอนเช้า หรือในคืนที่คุณไม่ได้ใช้เซรั่มที่มีเปปไทด์และ Retinol

อีกทางเลือกหนึ่งคือการพิจารณาใช้สารผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยนมาก หรือส่วนผสมที่ให้การผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนที่ค่า pH สูงขึ้น แต่การแยกผลิตภัณฑ์เป็นวิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและความเสถียรสูงสุดของส่วนผสมออกฤทธิ์ทั้งหมด และลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
เครื่องสำอาง
Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)
Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)
เครื่องสำอาง
Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)
Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)
เครื่องสำอาง
Alpha Arbutin (Switzerland)
Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
เครื่องสำอาง
Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
เครื่องสำอาง
Copper Peptide (GHK-Cu Copper Tripeptide-1, 1:1) Powder
Copper Peptide (GHK-Cu Copper Tripeptide-1, 1:1) Powder
เครื่องสำอาง
Alpha Arbutin (China, Powder, Enzymatic Synthesis)
Alpha Arbutin (China, Powder, Enzymatic Synthesis)
เครื่องสำอาง
Magnesium Ascorbyl Phosphate
Magnesium Ascorbyl Phosphate
เครื่องสำอาง
Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Alpha Arbutin (China, Crystal Form)
Alpha Arbutin (China, Crystal Form)
เครื่องสำอาง
Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50)
Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50)
เครื่องสำอาง
Retinol (50% liquid)
Retinol (50% liquid)
เครื่องสำอาง
ActiveRelease™ Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
ActiveRelease™ Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Malic Acid (DL-Malic Acid)
Malic Acid (DL-Malic Acid)
เครื่องสำอาง