การผสม L-ascorbic acid ในครีมเพื่อผิวขาวใส
คำถาม
กำลังทำครีมทาผิวกายกลางคืนใช้เองค่ะ เน้นผิวขาวใส ผสมใหม่ทุกครั้ง เพื่อความเสถียรของ L-ascorbic acid สูตรมี
- Squalane 75%
- L-ascorbic acid 25% ( Ultra fine)
คำถามคือ:
- วิตามินซีจะออกฤทธิ์ดูแลผิวโดยอยู่ใน Squalane ได้มั้ยคะ
- หรือควรทำเบสครีมที่มี DI Water กับ Emulsifier และเพิ่ม L-ascorbic acid 25% เวลาจะใช้ดีกว่ามั๊ยคะ รบกวนช่วยแนะนำสูตรด้วยค่ะ
- L-ascorbic acid Ultra fine ซึมเข้าผิวได้ดีกว่า ลึกกว่าแบบธรรมดามั๊ยคะ
ขอบคุณมากค่ะ
คำตอบ
Subject: Squalane + L-ascorbic acid 25%
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำถามเกี่ยวกับการผสมครีมทาผิวกายกลางคืนเพื่อผิวขาวใส โดยใช้ Squalane และ L-ascorbic acid 25% นะคะ ขอตอบเป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ
วิตามินซีจะออกฤทธิ์ดูแลผิวโดยอยู่ใน Squalane ได้มั้ยคะ
L-ascorbic acid เป็นส่วนผสมที่ละลายได้ในน้ำค่ะ ไม่ละลายในน้ำมันอย่าง Squalane ดังนั้น การนำผง L-ascorbic acid มาผสมกับน้ำมัน Squalane โดยตรง จะทำให้ผงวิตามินซีแขวนลอยอยู่ในน้ำมัน ไม่ได้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งในสภาพนี้ L-ascorbic acid จะไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวและออกฤทธิ์เรื่องความขาวใสได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ การที่ L-ascorbic acid จะออกฤทธิ์และซึมเข้าสู่ผิวได้ จะต้องละลายอยู่ในเบสที่มีส่วนประกอบของน้ำ และโดยทั่วไปจะออกฤทธิ์ได้ดีที่ค่า pH ต่ำๆ ค่ะหรือควรทำเบสครีมที่มี DI Water กับ Emulsifier และเพิ่ม L-ascorbic acid 25% เวลาจะใช้ดีกว่ามั๊ยคะ รบกวนช่วยแนะนำสูตรด้วยค่ะ
ใช่ค่ะ วิธีนี้ดีกว่ามากในแง่ของความเสถียรและประสิทธิภาพของ L-ascorbic acid เมื่อเทียบกับการผสมกับ Squalane เพียงอย่างเดียว L-ascorbic acid ไม่เสถียรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในน้ำ และเมื่อสัมผัสกับแสงและอากาศ การนำมาละลายในส่วนของน้ำของเบสครีมก่อนใช้ทันที จะช่วยลดระยะเวลาที่วิตามินซีอยู่ในสภาพที่ไม่เสถียร ทำให้คงประสิทธิภาพได้ดีขึ้นค่ะ
เบสที่เหมาะสมควรเป็นครีมหรือโลชั่น (ซึ่งเป็นอิมัลชันของน้ำและน้ำมัน ที่มี Emulsifier ช่วยเชื่อมให้เข้ากัน) คุณสามารถละลายผง L-ascorbic acid ในส่วนของน้ำของเบสก่อนทาทันทีค่ะ
สำหรับคำแนะนำสูตรเบสครีมอย่างง่าย จะประกอบด้วย:- ส่วนของน้ำ (เช่น DI Water)
- ส่วนของน้ำมัน (เช่น Squalane, น้ำมันอื่นๆ, แฟตตี้แอลกอฮอล์)
- Emulsifier (สารที่ช่วยให้น้ำกับน้ำมันรวมตัวกันได้)
- ส่วนผสมเสริมอื่นๆ (เช่น สารเพิ่มความข้น, สารให้ความชุ่มชื้น, สารกันเสีย - สารกันเสียจำเป็นสำหรับเก็บรักษาเบสค่ะ)
คุณสามารถเตรียมเบสนี้เก็บไว้ได้ค่ะ เมื่อต้องการใช้ ให้นำเบสออกมาเพียงเล็กน้อย แล้วเติมผง L-ascorbic acid (ในความเข้มข้นที่คุณต้องการ เช่น 25% ของส่วนผสมทั้งหมดที่จะใช้ทา) ผสมให้เข้ากันจนละลาย แล้วทาทันทีค่ะ
ข้อควรระวังที่สำคัญ: ความเข้มข้น 25% ของ L-ascorbic acid ถือว่าสูงมาก และอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวอย่างรุนแรง ผิวแดง หรือลอกได้ โดยเฉพาะผิวตัวซึ่งอาจจะบอบบางกว่าผิวหน้าค่ะ โดยทั่วไปแนะนำให้เริ่มต้นใช้ที่ความเข้มข้นต่ำๆ (เช่น 5-10%) และค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นหากผิวรับได้ค่ะ ความเข้มข้นสูงสุดที่ใช้กันทั่วไปอาจถึง 20% แต่ 25% ถือว่าสูงมากและควรใช้อย่างระมัดระวังอย่างยิ่งค่ะ
L-ascorbic acid Ultra fine ซึมเข้าผิวได้ดีกว่า ลึกกว่าแบบธรรมดามั๊ยคะ
คำว่า "Ultra fine" โดยทั่วไปหมายถึงขนาดอนุภาคของผงค่ะ อนุภาคแบบ Ultra fine จะมีขนาดเล็กกว่าแบบธรรมดา แม้ว่าอนุภาคที่เล็กกว่าอาจช่วยให้กระจายตัวได้ดีขึ้นและอาจละลายได้เร็วกว่าเล็กน้อย แต่ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการซึมของ L-ascorbic acid เข้าสู่ผิว คือ ความสามารถในการละลายในเบส (ต้องละลายในส่วนของน้ำ) และค่า pH ของสูตร (จะซึมได้ดีที่สุดที่ค่า pH ต่ำๆ ประมาณ 3.5) ตัวเบสเองก็มีบทบาทสำคัญในการนำพาสารสำคัญเข้าสู่ผิวค่ะ
ดังนั้น แม้ว่ารูปแบบ Ultra fine อาจจะละลายง่ายกว่า หรือให้เนื้อสัมผัสที่เนียนกว่าหากละลายไม่หมด แต่ก็ไม่น่าจะช่วยให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นหรือลึกกว่า L-ascorbic acid แบบธรรมดาอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อทั้งสองรูปแบบถูกนำไปผสมในเบสที่เหมาะสมและมีค่า pH ที่ถูกต้องค่ะ ประโยชน์หลักของแบบ Ultra fine อาจเกี่ยวข้องกับความสะดวกในการผสมหรือเนื้อสัมผัสมากกว่าค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการผสมครีมของคุณนะคะ โปรดระมัดระวังเรื่องความเข้มข้นของ L-ascorbic acid ที่สูงมากด้วยค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Squalane (Olive)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
