การผสม Salicylic Acid, Lactic Acid และ Retinol: ความเสี่ยงและวิธีการใช้

ถามโดย: bf.vichi เมื่อ: February 23, 2013 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ปัจจุบันใช้สูตร Salicylic Acid 2% อยู่ และต้องการเพิ่ม Lactic Acid ที่ความเข้มข้น 10% สามารถผสมรวมกันได้หรือไม่ และสนใจที่จะเพิ่ม Retinol เข้าไปในสูตรด้วย เหมือนกับผลิตภัณฑ์ของ Dermalogica ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid, Lactic Acid และ Retinol อยากทราบว่าควรทาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ (Salicylic Acid/Lactic Acid กับ Alpha Arbutin) ทับกันอย่างไร และสามารถใช้ได้ทุกวันหรือไม่ มีความเสี่ยงอะไรบ้างในการผสมส่วนผสมเหล่านี้?

คำตอบ

การผสม Salicylic Acid และ Lactic Acid

ตามคำแนะนำของทีมงาน การเพิ่ม Lactic Acid ในความเข้มข้นสูง (เช่น 10%) ลงในสูตร Salicylic Acid 2% ที่คุณใช้อยู่ โดยทั่วไปไม่แนะนำ แม้ว่าทั้ง Salicylic Acid และ Lactic Acid จะเป็นสารผลัดเซลล์ผิว แต่ทำงานแตกต่างกัน:

  • Salicylic Acid (BHA): ทำงานหลักภายในรูขุมขนเพื่อละลายน้ำมันและสิ่งอุดตัน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการรักษาสิวอุดตัน ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วทั้งบนพื้นผิวและภายในรูขุมขน
  • Lactic Acid (AHA): ทำงานบนพื้นผิวของผิวหนังเพื่อผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และยังมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น ช่วยปรับปรุงผิวให้เรียบเนียนขึ้น และทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

การผสมสารทั้งสองในความเข้มข้นสูงในสูตรเดียวกันอาจเพิ่มความเสี่ยงของการระคายเคือง รอยแดง และการลอกของผิว เนื่องจากคุณกำลังใช้สารผลัดเซลล์ผิวที่แรงสองชนิดพร้อมกัน ทีมงานแนะนำว่าสำหรับการแก้ปัญหาสิวอุดตัน Salicylic Acid เพียงอย่างเดียวก็มักจะเพียงพอ และคุณสามารถปรับความเข้มข้นได้ตามความทนทานของผิวคุณ

หากคุณต้องการใช้ Lactic Acid เพื่อประโยชน์ในการผลัดเซลล์ผิวบนพื้นผิวและให้ความชุ่มชื้น อาจจะดีกว่าถ้าใช้ในผลิตภัณฑ์แยกต่างหาก หรือใช้ในเวลาที่ต่างกันของวัน (เช่น Salicylic Acid ตอนเช้า, Lactic Acid ตอนเย็น) ขึ้นอยู่กับความทนทานของผิวคุณ อีกทางเลือกหนึ่งคือการเพิ่ม Lactic Acid ในความเข้มข้นต่ำลงในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้ตามมา

การทาทับด้วย Alpha Arbutin และความถี่ในการใช้

หากคุณทาสารผลัดเซลล์ผิว เช่น Salicylic Acid หรือ Lactic Acid แนะนำให้รอประมาณ 15-30 นาทีก่อนทาผลิตภัณฑ์ลำดับถัดไป เช่น เจล Alpha Arbutin เพื่อให้สารผลัดเซลล์ผิวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ค่า pH ที่เหมาะสม ก่อนที่คุณจะใช้ผลิตภัณฑ์อื่นที่อาจเปลี่ยนแปลงค่า pH หรือรบกวนการทำงานของมัน

สำหรับความถี่ในการใช้ทุกวัน ขึ้นอยู่กับความทนทานของผิวคุณ บางคนสามารถทนต่อการใช้สารผลัดเซลล์ผิวได้ทุกวัน ในขณะที่บางคนอาจต้องใช้บ่อยน้อยลง (เช่น วันเว้นวัน หรือใช้เฉพาะตอนเช้าหรือตอนเย็น) ให้สังเกตการตอบสนองของผิวอย่างใกล้ชิด สัญญาณของการผลัดเซลล์ผิวมากเกินไป ได้แก่ รอยแดงต่อเนื่อง การลอก ความรู้สึกไว หรือความรู้สึกตึงบนผิว

การเพิ่ม Retinol

สูตร Dermalogica ที่คุณกล่าวถึงมีทั้ง Salicylic Acid, Lactic Acid และ Retinol แม้ว่าผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์บางครั้งจะรวมสารออกฤทธิ์หลายชนิดเข้าด้วยกัน แต่โดยทั่วไปจะมีการคิดค้นสูตรอย่างระมัดระวังเพื่อลดการระคายเคือง มักใช้ความเข้มข้นที่ต่ำกว่า หรือใช้ระบบนำส่งแบบพิเศษ การเพิ่ม Retinol (ซึ่งเป็นสารผลัดเซลล์ผิวที่ทรงพลังและมีประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอย) ลงในสูตรที่มี Salicylic Acid และอาจมี Lactic Acid อยู่แล้ว มีแนวโน้มที่จะรุนแรงเกินไปสำหรับผิว และอาจนำไปสู่การระคายเคือง ความแห้งกร้าน และความไวต่อผิวอย่างมาก

Retinol ทำงานหลักโดยการส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งช่วยเรื่องริ้วรอยเล็กๆ ริ้วรอยร่องลึก สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ และสิว อย่างไรก็ตาม การใช้ร่วมกับสารผลัดเซลล์ผิวที่แรงอื่นๆ เช่น AHAs และ BHAs อาจทำให้ผิวรับไม่ไหว ทีมงานแนะนำให้เลือกสารออกฤทธิ์ตามปัญหาผิวหลักของคุณ และหลีกเลี่ยงการใช้สารผลัดเซลล์ผิวที่แรงหลายชนิดพร้อมกัน

หากคุณสนใจประโยชน์ของ Retinol โดยทั่วไปแล้ว ควรใช้เป็นขั้นตอนแยกต่างหากในกิจวัตรการดูแลผิวของคุณ และเริ่มใช้อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้สารผลัดเซลล์ผิวอื่นๆ อยู่แล้ว คุณอาจพิจารณาใช้สลับคืนระหว่างผลิตภัณฑ์ Salicylic Acid กับผลิตภัณฑ์ Retinol หรือใช้อย่างหนึ่งตอนเช้าและอีกอย่างหนึ่งตอนเย็น หากผิวของคุณสามารถทนได้

ข้อควรจำที่สำคัญ

โปรดจำไว้เสมอว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่เพียงพอทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้กรดผลัดเซลล์ผิวและเรตินอยด์ เนื่องจากสารเหล่านี้อาจทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงแดดมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)
Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
เครื่องสำอาง
Retinol (100% Pure Powder)
Retinol (100% Pure Powder)
เครื่องสำอาง