การพัฒนาสูตรกันแดด: การละลาย เนื้อสัมผัส และการผสม BEMT และ SPF Protect Ultra

ถามโดย: jn_andy เมื่อ: May 31, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังพัฒนาสูตรกันแดดโดยใช้ Titanium Dioxide 1.5%, SPF Protect Ultra 18% และ BEMT 1% โดยมีเป้าหมายที่ SPF 50 PA++++

มีคำถามหลายข้อเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาสูตร โดยเฉพาะเรื่องการละลาย เนื้อสัมผัส และการผสม ดังนี้:

  1. กรณีใช้ Water in Oil EZ เป็นอิมัลซิไฟเออร์ การปั่นให้นานขึ้นจะช่วยให้ละลายเข้ากันได้ดีขึ้นหรือไม่ (ใช้ความเร็ว 200-300 รอบต่อนาที ปั่นนานประมาณ 15 นาที นับตั้งแต่เริ่มใส่น้ำทีละน้อยจนหมด จะเพียงพอหรือไม่)?
  2. กรณีใช้ Water in Oil EZ จำเป็นต้องปั่นช้าๆ เพื่อไม่ให้เนื้อข้นเกินไปหรือไม่?
  3. SPF Protect Ultra ที่เก็บที่อุณหภูมิปกติ ไม่ได้แช่เย็น เวลาผสมแค่เขย่าให้เข้ากัน จริงๆ แล้วจำเป็นต้องอุ่นที่ 50-60 องศาเซลเซียส ร่วมกับ LipidSoft เพื่อให้ละลายเข้ากันได้มากขึ้นหรือไม่?
  4. ถ้าจะใช้แอลกอฮอล์ในสูตรเพื่อให้เนื้อบางเบาขึ้น คล้ายกับผลิตภัณฑ์ Anessa หรือ Biore ควรใช้ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ และควรแทนที่ส่วนใดในสูตร (เช่น แทนที่ส่วนของน้ำ)?

คำตอบ

การพัฒนาสูตรกันแดดด้วย BEMT และ SPF Protect Ultra

จากข้อมูลในบทสนทนา สรุปคำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับการใช้ BEMT และ SPF Protect Ultra ในสูตรกันแดดของคุณได้ดังนี้ค่ะ:

  1. การใช้ BEMT เพียงอย่างเดียว: แม้ว่า BEMT จะมีประสิทธิภาพสูงและป้องกันได้กว้างทั้ง UVA/UVB แต่การใช้เพียงตัวเดียวอาจจะอ่อนแอในช่วง UVA ที่ความยาวคลื่น 380-400nm เหตุผลหลักของการใช้สารกันแดดหลายชนิดร่วมกันคือ สารกันแดดประสิทธิภาพสูงหลายตัว เช่น BEMT มักเป็นผง ซึ่งต้องละลายอย่างเพียงพอจึงจะทำงานได้เต็มที่ โดยปกติจะละลายในสารกันแดดกลุ่มน้ำมัน (เช่น Octisalate หรือ OMC) หรือ Emollient นอกจากนี้ การใช้หลายชนิดร่วมกันยังช่วยเสริมการป้องกันให้ครอบคลุมช่วงความยาวคลื่น UV ได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นค่ะ

  2. การเพิ่ม BEMT ในสูตรที่มี SPF Protect Ultra อยู่แล้ว: สามารถทำได้ค่ะ การเพิ่ม BEMT จะช่วยเพิ่มค่า SPF และประสิทธิภาพในการกันแดดให้สูงขึ้นได้ ส่วนเรื่องการลดปริมาณ SPF Protect Ultra เพื่อลดต้นทุนโดยเพิ่ม BEMT แทนนั้น เป็นแนวทางที่พิจารณาได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ใช้โปรแกรมคำนวณค่ากันแดด (เช่น BASF Sunscreen Simulator) เพื่อทดสอบค่า SPF และ PA ที่ได้จากสัดส่วนต่างๆ อย่างแม่นยำค่ะ

  3. สูตรที่คุณกำลังพัฒนา (Titanium Dioxide 1.5%, SPF Protect Ultra 18%, BEMT 1%): ทีมงานรับทราบเป้าหมายของคุณที่ต้องการ SPF 50 PA++++ ด้วยส่วนผสมนี้ค่ะ เพื่อให้ได้ค่า SPF/PA ที่แม่นยำและเหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะหากต้องการปรับสัดส่วนของ BEMT และ SPF Protect Ultra การใช้โปรแกรมคำนวณค่ากันแดดเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดในการพัฒนาสูตรค่ะ

  4. การละลายด้วย LipidSoft CC และ Isododecane: การใช้ LipidSoft ชนิดใดๆ ในระดับ 10% จะเพียงพอต่อการช่วยละลายสารกันแดดค่ะ อย่างไรก็ตาม Isododecane ไม่สามารถช่วยละลายสารกันแดดกลุ่มนี้ได้ การละลายต้องใช้ Emollient กลุ่มน้ำมัน หรือสารกันแดดที่เป็นของเหลวเท่านั้นค่ะ

  5. วิธีการตรวจสอบว่าละลายสมบูรณ์หรือไม่: การมองด้วยตาเปล่าถือเป็นขั้นตอนพื้นฐานค่ะ แต่หากต้องการความแน่ใจ ต้องนำไปส่องกล้องจุลทรรศน์เพื่อตรวจสอบว่ายังมีผลึกเหลืออยู่หรือไม่ ในทางปฏิบัติ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการคำนวณปริมาณตัวทำละลายที่เพียงพอตามข้อมูลการละลายของส่วนผสมนั้นๆ ค่ะ เช่น SPF Protect Ultra จะใช้ LipidSoft ประมาณ 50% ของปริมาณ SPF Protect Ultra ในการช่วยละลายค่ะ

  6. การใช้ Isododecane แทนแอลกอฮอล์เพื่อให้สูตรบางเบา: ตามความเห็นของทีมงาน Ethyl Alcohol ให้ความรู้สึกบางเบา ระเหยเร็ว และให้ความรู้สึกเย็นได้มากกว่า Isododecane ค่ะ Isododecane ให้ความรู้สึกเบาและระเหยได้ แต่ช้ากว่าแอลกอฮอล์และไม่ให้ความรู้สึกเย็น อย่างไรก็ตาม Isododecane ไม่มีผลข้างเคียงต่อผิวเหมือน Ethyl Alcohol ค่ะ

  7. การปรับความหนืดของสูตร: หากทำแล้วสูตรมีความหนืด เกลี่ยยาก ควรเพิ่มกลุ่ม LipidSoft หรือ Emollient ชนิดอื่นๆ ที่ช่วยให้เกลี่ยง่ายขึ้นค่ะ แต่หากรู้สึกเหนอะหนะผิว ควรเพิ่ม Emollient ชนิดผง, Isododecane, หรือ Silicone ที่ระเหยได้ (เช่น Cyclomethicone) เพื่อลดความเหนอะหนะบนผิวค่ะ

  8. ผลของการปั่นนานขึ้น/ความเร็วในการปั่น: การละลายที่สมบูรณ์ต้องอาศัยความร้อนที่เพียงพอ (70-80องศา), แรงปั่นที่เพียงพอ (แนะนำ 500รอบต่อนาทีขึ้นไป โดยใช้หัวปั่นแบบกงจักร หรือ Dissolver/Disperser) และระยะเวลาที่เพียงพอ (ประมาณ 15 นาที) เมื่อละลายสมบูรณ์แล้ว การปั่นต่อเนื่องหรือใช้ความร้อนนานขึ้นก็ไม่ได้ช่วยให้ละลายได้ดีขึ้นค่ะ สำหรับการใช้ Water in Oil EZ ต้องปั่นด้วยความเร็วสูงพอสมควร (1000รอบต่อนาทีขึ้นไป) เพื่อให้เนื้อเข้ากันดี และการปั่นที่มากขึ้นไม่ได้ทำให้เนื้อข้นขึ้น ซึ่งแตกต่างจาก Water Capsule ค่ะ

  9. การอุ่น SPF Protect Ultra: ใช่ค่ะ แนะนำให้อุ่น SPF Protect Ultra ที่อุณหภูมิ 70-80องศา ร่วมกับส่วนของน้ำมันในขั้นตอนการผสม เพื่อให้ละลายได้อย่างสมบูรณ์ การเขย่าที่อุณหภูมิห้องไม่เพียงพอค่ะ

  10. การใช้แอลกอฮอล์: สามารถใช้แอลกอฮอล์แทนที่ส่วนของน้ำในสูตรได้ค่ะ จะช่วยให้สูตรมีความบางเบามากขึ้น คล้ายกับสูตรของผลิตภัณฑ์กันแดดบางยี่ห้อ เช่น Anessa หรือ Biore ปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับความต้องการเนื้อสัมผัสของสูตรโดยรวมค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Isododecane (Germany)
Isododecane (Germany)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ CC (Cetyl Ethylhexanoate)
LipidSoft™ CC (Cetyl Ethylhexanoate)
เครื่องสำอาง
Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade)
Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade)
เครื่องสำอาง
Water-in-Oil EZ™ (Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone)
Water-in-Oil EZ™ (Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone)
เครื่องสำอาง