การพัฒนาสูตรครีมกระชับผิวสำหรับผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย: ความเข้ากันได้ของ BHA และ L-Carnitine

ถามโดย: supavan_i เมื่อ: March 29, 2013 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันกำลังพัฒนาสูตรครีมสำหรับกระชับผิวบริเวณแก้ม คาง และคอ โดยเน้นที่บริเวณที่มีเนื้อ (ไขมัน) เยอะ ฉันมีสภาพผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย และปัจจุบันใช้ BHA 2% ซึ่งได้ผลดีในการลดสิวอุดตัน

สูตรที่ฉันเสนอประกอบด้วย:

  • Double Hyaluronic (Hyaluron) Gel base
  • Acetyl L-Carnitine
  • Sea Kelp Bioferment 5%
  • Vitamin B3 5%
  • Metabiotics™ Resveratrol 5%
  • Gotu Kola (Centella Asiatica) Extract 5%
  • Pepha®-Tight 3%
  • Matrixyl™ 3000 5%

ฉันต้องการคำแนะนำในประเด็นต่อไปนี้:

  1. สูตรนี้เหมาะสมกับสภาพผิวและเป้าหมายของฉันหรือไม่?
  2. เนื่องจากฉันใช้ BHA อยู่ การใส่ Acetyl L-Carnitine ในสูตรเหมาะสมหรือไม่? มีปฏิกิริยาหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง?
  3. หากฉันใส่ L-Carnitine ควรปรับค่า pH อย่างไร?
  4. ควรผสมส่วนผสมเหล่านี้อย่างไร?
  5. มีคำแนะนำในการเก็บรักษาและประเภทภาชนะสำหรับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปอย่างไร?
  6. Matrixyl™ 3000 มีข้อกำหนดในการเก็บรักษาพิเศษหรือไม่?
  7. ควรใส่สารกันเสียในสูตรหรือไม่ แม้จะเก็บในตู้เย็น?

คำตอบ

คำแนะนำสำหรับการผสมครีมกระชับผิวหน้าและลำคอ

สวัสดีค่ะ จากการพูดคุยและสูตรที่คุณได้เสนอมา ทางเราได้รวบรวมข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้คุณผสมครีมที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของคุณค่ะ

เป้าหมายหลัก: กระชับผิวบริเวณแก้ม คาง และคอ โดยเน้นที่บริเวณที่มีเนื้อ (ไขมัน) เยอะ และมีสภาพผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย และใช้ BHA อยู่

สารสำคัญที่พิจารณา:

  • Acetyl L-Carnitine: สารนี้ถูกแนะนำในเบื้องต้นว่าอาจช่วยเรื่องการสลายไขมันเฉพาะจุดเมื่อทา อย่างไรก็ตาม มีข้อควรพิจารณาที่สำคัญคือ L-Carnitine มีฤทธิ์ช่วยผลัดเซลล์ผิวเช่นเดียวกับ BHA และมีค่า pH ค่อนข้างต่ำ ซึ่งอาจรบกวนสารอื่นๆ ในสูตรได้

  • สารยกกระชับผิว (Skin-Tightening): เช่น Pepha®-Tight และ Matrixyl™ 3000 สารกลุ่มนี้จะช่วยเรื่องความกระชับของผิวที่หย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอย แต่ไม่ได้เน้นที่การลดไขมันโดยตรง

ข้อแนะนำที่สำคัญจากผู้เชี่ยวชาญ:

  1. การใช้ BHA vs. L-Carnitine: หากปัจจุบันคุณใช้ BHA 2% แล้วได้ผลดีในการลดสิวอุดตันและผิวเรียบเนียนขึ้น ไม่แนะนำให้หยุดใช้ BHA เนื่องจากหาผลิตภัณฑ์ที่เข้ากับผิวแพ้ง่ายได้ยาก และควร ตัด Acetyl L-Carnitine ออกจากสูตร เพราะการใช้ร่วมกันอาจทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวที่มากเกินไปและระคายเคืองได้

  2. สูตรที่ปรับปรุง: หากคุณตัดสินใจที่จะ ไม่ใช้ L-Carnitine (และใช้ BHA ต่อไป) สูตรที่คุณเสนอมา (ยกเว้น Acetyl L-Carnitine) ถือเป็นสูตรที่ดีที่เน้นการบำรุงและกระชับผิวโดยรวม ซึ่งประกอบด้วย:

    • Double Hyaluronic (Hyaluron) Gel base
    • Sea Kelp Bioferment 5%
    • Vitamin B3 5%
    • Metabiotics™ Resveratrol 5%
    • Gotu Kola (Centella Asiatica) Extract 5%
    • Pepha®-Tight 3%
    • Matrixyl™ 3000 5%
  3. บทบาทของสารอื่นๆ ในสูตร:

    • Double Hyaluronic (Hyaluron) Gel base: ให้ความชุ่มชื้นและเป็นเนื้อเบสของครีม
    • Sea Kelp Bioferment: ช่วยให้ความชุ่มชื้นและอาจช่วยให้เนื้อสูตรหนืดขึ้นเล็กน้อย การใช้ที่ 5% จะลดโอกาสการเกิดคราบเมื่อเทียบกับ 10%
    • Vitamin B3 (Niacinamide): ดีต่อผิวแพ้ง่ายและเป็นสิวง่าย ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ลดรอยแดง และควบคุมความมัน
    • Metabiotics™ Resveratrol: สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย
    • Gotu Kola (Centella Asiatica) Extract: ช่วยปลอบประโลม ลดการอักเสบ และสมานผิว เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและเป็นสิว
    • Pepha®-Tight: ช่วยให้ผิวรู้สึกตึงกระชับชั่วคราว
    • Matrixyl™ 3000: เปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวกระชับและลดริ้วรอยในระยะยาว
  4. การผสม: สามารถผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ในขั้นตอนเดียว อย่างไรก็ตาม เนื้อที่ได้อาจจะค่อนข้างเหลว เนื่องจากไม่มีสารสร้างเนื้อเจลหลักนอกจากเบสเจลและ Sea Kelp

  5. การปรับ pH (กรณีใช้ L-Carnitine): หากคุณตัดสินใจ หยุดใช้ BHA และใช้ L-Carnitine แทนในสูตร คุณ จำเป็นต้องวัดค่า pH ของสูตรที่ผสมเสร็จแล้ว และปรับให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (ไม่ควรต่ำกว่า 5) โดยอาจใช้ Triethanolamine (TEA) เพื่อปรับเพิ่ม pH

  6. สารกันเสีย: ควรใส่สารกันเสีย ในสูตรเสมอ แม้จะเก็บในตู้เย็น เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์

  7. การเก็บรักษา: ควรเก็บผลิตภัณฑ์ที่ผสมเสร็จแล้วไว้ใน ตู้เย็นตลอดเวลา เพื่อรักษาคุณภาพของสารสำคัญ

  8. ภาชนะ: แม้ภาชนะใสจะช่วยให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของเนื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่าย แต่สารสำคัญส่วนใหญ่ในสูตร ไวต่อแสง ควรเก็บใน ภาชนะทึบแสง เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ

  9. การเก็บรักษาเปปไทด์: ควรตรวจสอบวิธีการเก็บรักษาเฉพาะของ Matrixyl™ 3000 เนื่องจากเปปไทด์บางชนิดอาจมีข้อกำหนดพิเศษ

สรุป: คำแนะนำหลักคือให้พิจารณาว่าต้องการใช้ BHA ที่ได้ผลดีอยู่แล้วต่อไปหรือไม่ หากใช้ BHA ต่อไป ให้ตัด Acetyl L-Carnitine ออกจากสูตร และใช้ส่วนผสมอื่นๆ ในสูตรที่คุณเสนอมาเพื่อเน้นการบำรุงและกระชับผิวโดยรวม อย่าลืมใส่สารกันเสีย เก็บในตู้เย็น และใช้ภาชนะทึบแสงค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)
Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Sea Kelp Extract
Sea Kelp Extract
เครื่องสำอาง
L-Carnitine (Carnitine)
L-Carnitine (Carnitine)
เครื่องสำอาง
Pure-TECA™ Centella Asiatica Extract (TECA 95%, CICA)
Pure-TECA™ Centella Asiatica Extract (TECA 95%, CICA)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid Gel Base
Hyaluronic Acid Gel Base
เครื่องสำอาง