การพัฒนาสูตรครีมกันแดดที่มีวิตามินซี ฟลอเรติน และชาเขียว (SPF32 PA++)

ถามโดย: wutichait เมื่อ: December 17, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

รบกวนออกแบบส่วนผสมครีมกันแดด SPF32 PA++ ที่มี VitC Phoretin และ Green tea ขอขอบคุณอย่างสูง

คำตอบ

การออกแบบส่วนผสมครีมกันแดด SPF32 PA++ ที่มีวิตามินซี, ฟลอเรติน และสารสกัดชาเขียว

การสร้างครีมกันแดดที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพซึ่งประกอบด้วยวิตามินซี, ฟลอเรติน และสารสกัดชาเขียว จำเป็นต้องพิจารณาความเข้ากันได้ของส่วนผสมอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องค่า pH และความเสถียร

ส่วนผสมหลักและข้อควรพิจารณา:

  • วิตามินซี: แม้ว่า L-Ascorbic Acid จะเป็นรูปแบบที่มีศักยภาพสูง แต่ไม่เสถียรอย่างยิ่งในน้ำและต้องการค่า pH ต่ำ (2.0-4.0) เพื่อความเสถียร ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายในการผสมในรูปแบบครีมและอาจส่งผลต่อส่วนผสมอื่นๆ อนุพันธ์ของวิตามินซีที่ละลายน้ำได้และมีความเสถียรมากกว่า เช่น Ascorbyl Glucoside (AA-2G) มักเป็นที่นิยมสำหรับสูตรครีม แม้ว่าจะต้องการช่วงค่า pH ที่เฉพาะเจาะจง (6.5-6.8) เพื่อความเสถียรสูงสุด

  • ฟลอเรติน (Pure-Phloretin™): สารต้านอนุมูลอิสระนี้สามารถเสริมประสิทธิภาพของวิตามินซีและให้การปกป้องจากอนุมูลอิสระด้วยตัวเอง สามารถกระจายตัวได้ในเบสครีม แต่ไม่ละลายในน้ำหรือน้ำมัน

  • สารสกัดชาเขียว (Hi-EGCG™): มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ สารสกัดนี้ละลายน้ำได้และโดยทั่วไปใช้ที่ค่า pH ระหว่าง 4.0-6.5 มีความไวต่อความร้อนและไอออนของโลหะ

  • สารกันแดด (Sunscreen Filters): เพื่อให้ได้ค่า SPF32 PA++ จำเป็นต้องใช้สารกันแดดหลายชนิดร่วมกันเพื่อให้การปกป้องในวงกว้างทั้งรังสี UVA และ UVB สารกันแดดเช่น BEMT (Tinosorb S), Bisoctrizole (Tinosorb M) และ Octocrylene นิยมใช้เนื่องจากมีประสิทธิภาพและความเสถียร

  • เบสครีม (Soft Cream Maker™): จำเป็นต้องมีระบบอิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมเพื่อสร้างเนื้อครีมและให้ความเสถียรของส่วนผสมทั้งในส่วนน้ำและน้ำมัน

ความท้าทายในการผสม:

ความท้าทายหลักในการรวมส่วนผสมเหล่านี้คือช่วงค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับความเสถียรและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน L-Ascorbic Acid ต้องการค่า pH ที่ต่ำกว่า Ascorbyl Glucoside หรือสารสกัดชาเขียวอย่างมีนัยสำคัญ การผสมร่วมกับ Ascorbyl Glucoside และสารสกัดชาเขียวจำเป็นต้องหาช่วงค่า pH ที่เข้ากันได้ ซึ่งอาจอยู่ระหว่าง 6.0-6.5 ซึ่งอาจไม่ใช่ค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละส่วนผสมเพียงอย่างเดียว แต่ก็เป็นค่าที่สามารถทำงานร่วมกันได้ ความเสถียรของวิตามินซีที่เลือกใช้, ฟลอเรติน และสารสกัดชาเขียวในเบสกันแดดขั้นสุดท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การสัมผัสกับรังสียูวี ต้องได้รับการประเมินอย่างรอบคอบ

แนวทางการผสมโดยทั่วไป (แนวคิด):

แนวทางทั่วไปคือการเตรียมส่วนน้ำที่มีส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ เช่น Ascorbyl Glucoside และสารสกัดชาเขียว (เติมในขั้นตอนการเย็นตัว) ส่วนน้ำมันจะมีสารกันแดดที่ละลายในน้ำมันและตัวสร้างเนื้อครีม ซึ่งจะถูกให้ความร้อนเพื่อละลายอิมัลซิไฟเออร์ จากนั้นนำทั้งสองส่วนมาผสมและทำอิมัลชัน ปล่อยให้เย็น แล้วจึงเติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน เช่น ฟลอเรติน และวิตามินซีกับสารสกัดชาเขียวที่ละลายไว้แล้ว พร้อมปรับค่า pH สุดท้าย

โปรดทราบ: การพัฒนาสูตรครีมกันแดดที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพพร้อมค่า SPF และ PA ที่เฉพาะเจาะจง ต้องอาศัยความรู้เฉพาะทาง การวัดที่แม่นยำ และการทดสอบอย่างเข้มงวด (รวมถึงการทดสอบค่า SPF/PA ทั้งในหลอดทดลองและในร่างกาย) เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและความเสถียร ต้องยืนยันความเข้ากันได้และความเสถียรของส่วนผสมทั้งหมดในส่วนผสมสุดท้าย

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
เครื่องสำอาง
Octocrylene
Octocrylene
เครื่องสำอาง
Soft Cream Maker™
Soft Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Hi-EGCG™ (Green Tea Extract)
Hi-EGCG™ (Green Tea Extract)
เครื่องสำอาง
Pure-Phloretin™
Pure-Phloretin™
เครื่องสำอาง
Bisoctrizole (MBBT, e.q. Tinosorb M)
Bisoctrizole (MBBT, e.q. Tinosorb M)
เครื่องสำอาง