การพัฒนาสูตรครีมกันแดดและบีบีครีม: ปัญหาหน้าวอก สารกันแดด และวิธีการผสม

ถามโดย: siranant.pooliam เมื่อ: May 27, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันกำลังพัฒนาสูตรครีมกันแดดแบบกันน้ำที่ผสมบีบีครีมค่ะ

  1. เกี่ยวกับสารกันแดด ฉันมีสองตัวเลือก:
    • สูตร 1 (Physical): Zinc Oxide Nano EasyDisperse (5%) + Titanium Dioxide Nano EasyDisperse (5%)
    • สูตร 2 (Chemical): Avobenzone (5%) + Octisalate (5%) + Octocrylene (10%)

      ทำไมสูตร 1 (Physical) ถึงทำให้หน้าขาววอก ในขณะที่สูตร 2 (Chemical) ไม่เป็นคะ?
  2. เป็นไปได้ไหมที่จะรวมครีมกันแดดแบบกันน้ำเข้ากับบีบีครีม? ฉันวางแผนโครงสร้างสูตรที่มีส่วนผสมของซิลิโคนในปริมาณสูง (สูงสุด 90%) โดยใช้วัตถุดิบเช่น Cyclomethicone, Dimethicone, Silicone Gel, LipidSoft, AminoSilk, BB Micro Silk, และ Red/Yellow Iron Oxides จะต้องเพิ่มส่วนผสมอะไรอีกบ้าง โดยเฉพาะ Emulsifier สำหรับสูตรที่มีซิลิโคนสูงแบบนี้? (หมายเหตุ: สัดส่วนเปอร์เซ็นต์ส่วนผสมที่ฉันระบุรวมกันแล้วเกิน 100% ฉันเข้าใจว่าต้องปรับให้รวมกันได้ 100%)
  3. ข้อดีและข้อเสียของการใช้สารกันแดดแบบ Physical เทียบกับ Chemical โดยทั่วไปคืออะไรคะ?
  4. การเพิ่มส่วนผสมของบีบีครีม (เช่น เม็ดสีและผงแป้ง) จะช่วยลดหรือปกปิดคราบขาวจากสารกันแดดแบบ Physical ได้จริงหรือไม่?
  5. สารกันแดดกลุ่มไหน (Physical หรือ Chemical ตามตัวอย่างของฉัน) ให้การปกป้องแบบ Broad-spectrum (UVA/UVB) ในสูตรบีบีครีมกันแดดรวมดีกว่ากันคะ?
  6. ขอคำแนะนำขั้นตอนการผสมโดยละเอียดสำหรับสูตรบีบีครีมกันแดดที่มีซิลิโคนสูง โดยเฉพาะสำหรับอิมัลชันแบบ Water-in-Silicone ค่ะ

คำตอบ

คำแนะนำการผสมครีมกันแดดและบีบีครีม

นี่คือคำตอบโดยละเอียดสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการผสมครีมกันแดด ปัญหาหน้าขาววอก การรวมครีมกันแดดกับบีบีครีม ข้อดีข้อเสียของสารกันแดดแต่ละชนิด และวิธีการผสม

1. ปัญหาหน้าขาววอกในสูตรครีมกันแดด

  • ครีมกันแดดสูตร 1: สูตรนี้ใช้สารกันแดดแบบ Physical ได้แก่ Zinc Oxide Nano EasyDisperse (5%) และ Titanium Dioxide Nano EasyDisperse (5%) สารกันแดดแบบ Physical โดยเฉพาะ Titanium Dioxide มีคุณสมบัติในการสะท้อนแสง UV ซึ่งอาจทำให้เกิดคราบขาวหรือหน้าวอกได้เมื่อทาบนผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ในปริมาณที่สูง แม้ว่าการใช้ขนาดอนุภาคนาโนจะช่วยลดปัญหานี้ได้เมื่อเทียบกับอนุภาคขนาดใหญ่ แต่ปริมาณสาร Physical รวม 10% ในสูตรนี้ก็อาจยังทำให้เกิดคราบขาวได้บ้าง โดยเฉพาะกับสีผิวที่คล้ำกว่า
  • ครีมกันแดดสูตร 2: สูตรนี้ใช้สารกันแดดแบบ Chemical ได้แก่ Avobenzone (5%), Octisalate (5%), และ Octocrylene (10%) สารกันแดดแบบ Chemical จะซึมลงสู่ผิวและเปลี่ยนรังสี UV เป็นความร้อน โดยทั่วไปแล้วจะไม่ทิ้งคราบขาวไว้บนผิว ดังนั้น สูตร 2 จึงมีโอกาสน้อยกว่ามากที่จะทำให้หน้าขาววอกเมื่อเทียบกับสูตร 1

2. การผสมครีมกันแดดชนิดกันน้ำและบีบีครีม

ใช่ค่ะ สามารถทำครีมกันแดดชนิดกันน้ำที่ผสมบีบีครีมได้ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในเครื่องสำอางเกาหลี โครงสร้างสูตรที่คุณเสนอมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับเบสที่มีส่วนผสมของซิลิโคนในปริมาณสูง ซึ่งเป็นที่นิยมเพื่อให้เนื้อสัมผัสที่บางเบาและเรียบเนียนในบีบีครีมและครีมกันแดด

สำหรับส่วนผสมอื่นๆ ที่อาจต้องเพิ่มในสูตรที่คุณเสนอ (ซึ่งมีส่วนผสมของซิลิโคนในปริมาณสูง) จะต้องมี Emulsifier ที่เหมาะสมเพื่อช่วยประสานส่วนของซิลิโคน/น้ำมันเข้ากับส่วนของน้ำ (หากคุณต้องการใส่น้ำในสูตร) สำหรับสูตรที่มีซิลิโคนในปริมาณสูง (เช่น 90% ในสูตรของคุณ) โดยทั่วไปแล้วจะต้องใช้ Emulsifier ประเภท Water-in-Silicone เช่น Warp Cream Maker เพื่อช่วยให้สูตรคงตัวและไม่แยกชั้น แม้ว่า SiliSolve จะช่วยประสานน้ำกับซิลิโคนได้ แต่โดยทั่วไปแนะนำสำหรับสูตรที่มีซิลิโคนในปริมาณที่น้อยกว่า (1-30%)

นอกจากนี้ เปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมที่คุณระบุในสูตรที่คุณเสนอมามีผลรวมเกิน 100% คุณจะต้องปรับลดสัดส่วนของส่วนผสมทั้งหมด รวมถึงน้ำและ Emulsifier ใดๆ ที่เพิ่มเข้าไป ให้มีผลรวมเท่ากับ 100%

3. ข้อดีและข้อเสียของสารกันแดดแต่ละชนิด

การเลือกระหว่างสารกันแดดแบบ Physical และ Chemical ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพที่ต้องการ เนื้อสัมผัส และความไวของผิว:

  • สารกันแดดแบบ Physical (Zinc Oxide, Titanium Dioxide):
    • ข้อดี: โดยทั่วไปถือว่าอ่อนโยนและมีโอกาสน้อยที่จะระคายเคืองผิว ให้การปกป้องแบบ Broad-spectrum (UVA และ UVB) เมื่อใช้ร่วมกัน ทำงานโดยการเคลือบอยู่บนผิวและสะท้อนรังสี UV
    • ข้อเสีย: อาจทำให้เกิดคราบขาว (โดยเฉพาะ Titanium Dioxide) อาจมีเนื้อสัมผัสที่หนักหรือเหนอะหนะกว่า และอาจผสมให้เข้ากับสูตรได้ยากกว่าเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ดี
  • สารกันแดดแบบ Chemical (Avobenzone, Octisalate, Octocrylene):
    • ข้อดี: มักมีเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่า ไม่ทิ้งคราบขาว สามารถให้ค่า SPF/PA สูงได้โดยใช้ปริมาณน้อยกว่า ผสมเข้ากับสูตรต่างๆ ได้ง่ายกว่า
    • ข้อเสีย: บางคนอาจมีอาการแพ้หรือระคายเคืองผิวได้ มีข้อกังวลเกี่ยวกับการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ทำงานโดยการดูดซับรังสี UV และเปลี่ยนเป็นความร้อน Avobenzone อาจไม่คงตัวและต้องใช้สารช่วยให้คงตัว เช่น Octocrylene

4. การผสมบีบีครีมช่วยแก้ปัญหาคราบขาววอกได้หรือไม่

ได้ค่ะ การใส่ส่วนผสมของบีบีครีม เช่น สี (Iron Oxides) และผงแป้ง (BB Micro Silk) ลงในสูตรครีมกันแดดสามารถช่วยลดหรือปกปิดคราบขาวที่เกิดจากสารกันแดดแบบ Physical ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เม็ดสีจะช่วยปรับสีของเนื้อครีมให้เข้ากับสีผิว ทำให้คราบขาวดูกลืนไปกับผิวและให้ความเป็นธรรมชาติมากขึ้น

5. การเลือกใช้สารกันแดดเพื่อป้องกัน UVA/UVB

สารกันแดดทั้งสองกลุ่มสามารถให้การปกป้องแบบ Broad-spectrum (UVA/UVB) ได้เมื่อผสมในปริมาณที่เหมาะสม:

  • Zinc Oxide + Titanium Dioxide (Physical): ให้การปกป้องแบบ Broad-spectrum ที่ดีเยี่ยม Zinc Oxide เหมาะสำหรับการป้องกัน UVA ส่วน Titanium Dioxide ครอบคลุม UVB และ UVA ช่วงคลื่นสั้น ความท้าทายหลักในการทำเป็นสูตรบีบีคือการจัดการปัญหาคราบขาว ซึ่งเม็ดสีของบีบีจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
  • Avobenzone + Octisalate + Octocrylene (Chemical): สารกันแดดกลุ่มนี้ให้การปกป้องแบบ Broad-spectrum พร้อมเนื้อสัมผัสที่บางเบาและไม่ทิ้งคราบขาว Octocrylene ช่วยให้ Avobenzone คงตัว ซึ่งสำคัญต่อการคงประสิทธิภาพการป้องกัน UVA วิธีนี้เป็นที่นิยมในบีบี/ซีซีครีมเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสและฟินิชที่ดี บางครั้งอาจมีการเติม Zinc Oxide เล็กน้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน Broad-spectrum โดยไม่ทำให้เกิดคราบขาวมากนัก

ท้ายที่สุด การเลือกขึ้นอยู่กับเนื้อสัมผัสที่ต้องการ ความรู้สึกเมื่อทา และระดับการปกปิดคราบขาวที่ทำได้ด้วยส่วนผสมของบีบี สำหรับเนื้อบางเบาและไม่วอก มักนิยมใช้สารกันแดดแบบ Chemical และอาจเสริมด้วย Zinc Oxide หากใช้สารกันแดดแบบ Physical สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่ามีการกระจายตัวที่ดีและมีปริมาณเม็ดสีจากส่วนผสมบีบีเพียงพอเพื่อลดคราบขาว

วิธีการผสมครีมกันแดดบีบีที่มีซิลิโคนสูง (อิมัลชันแบบ Water-in-Silicone)

จากโครงสร้างสูตรที่คุณเสนอมาซึ่งมีส่วนผสมของซิลิโคนในปริมาณสูง โดยทั่วไปแล้วจะต้องทำเป็นอิมัลชันแบบ Water-in-Silicone โดยใช้ Emulsifier ที่เหมาะสมสำหรับซิลิโคนปริมาณมาก เช่น Warp Cream Maker ทั้งนี้ คุณจะต้องปรับสัดส่วนของส่วนผสมทั้งหมดให้รวมกันได้ 100% นี่คือวิธีการผสมโดยทั่วไป:

  1. ส่วนของซิลิโคน/น้ำมัน (Silicone/Oil Phase): รวมส่วนผสมซิลิโคนทั้งหมด (Cyclomethicone, Dimethicone, Silicone Gel), LipidSoft, AminoSilk, BB Micro Silk, Red และ Yellow Iron Oxides และ Emulsifier (เช่น Warp Cream Maker) เข้าด้วยกัน ผสมและกระจายผงแป้ง (Zinc Oxide, Titanium Dioxide, BB Micro Silk, Iron Oxides) ในส่วนนี้ให้เข้ากันดีจนเนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียว แนะนำให้ใช้เครื่องผสมแบบ High-shear เพื่อช่วยในการกระจายตัวของผงแป้งให้สมบูรณ์
  2. ส่วนของน้ำ (Water Phase): รวมน้ำและส่วนผสมอื่นๆ ที่ละลายน้ำเข้าด้วยกัน
  3. การทำอิมัลชัน (Emulsification): ขณะที่กำลังผสมส่วนของซิลิโคน/น้ำมันอย่างต่อเนื่อง ให้ค่อยๆ เติมส่วนของน้ำลงไปทีละน้อย หรือเป็นสายเล็กๆ ผสมต่อไปจนได้เนื้ออิมัลชันที่เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผสมเข้ากันดีเพื่อให้สูตรคงตัว
  4. การปรับสุดท้าย: เมื่อได้เนื้ออิมัลชันแล้ว สามารถปรับสีได้ตามต้องการโดยการเติม Iron Oxides เพิ่มเติมได้ โดยต้องแน่ใจว่ากระจายตัวเข้ากันดีแล้ว

อย่าลืมปรับสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมทั้งหมดให้รวมกันได้ 100% ก่อนเริ่มผสม ความเร็วและเวลาในการผสมอาจต้องปรับให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใช้และขนาดของสูตร เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่คงตัวและเรียบเนียน

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Light Cream Maker™
Light Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
เครื่องสำอาง
Dimethicone (Medium/350, Low-Odor)
Dimethicone (Medium/350, Low-Odor)
เครื่องสำอาง
Silicone Gel (Ultra Clear, Super Silky)
Silicone Gel (Ultra Clear, Super Silky)
เครื่องสำอาง
Pro Polymer™ (Gel Maker)
Pro Polymer™ (Gel Maker)
เครื่องสำอาง
Satin Cream Maker™
Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™
Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™
เครื่องสำอาง
BB Micro Silk™
BB Micro Silk™
เครื่องสำอาง
Avobenzone (Butyl Methoxydibenzoylmethane)
Avobenzone (Butyl Methoxydibenzoylmethane)
เครื่องสำอาง
Octocrylene
Octocrylene
เครื่องสำอาง
Octisalate / Ethylhexyl Salicylate / Octyl Salicylate
Octisalate / Ethylhexyl Salicylate / Octyl Salicylate
เครื่องสำอาง
Yellow Iron Oxides EasyMix™
Yellow Iron Oxides EasyMix™
เครื่องสำอาง
Red Iron Oxides EasyMix™
Red Iron Oxides EasyMix™
เครื่องสำอาง
Warp Cream Maker™ (e.q. Nikkomulese wo)
Warp Cream Maker™ (e.q. Nikkomulese wo)
เครื่องสำอาง
AminoSilk™ (Lauroyl lysine)
AminoSilk™ (Lauroyl lysine)
เครื่องสำอาง
SiliSolve™ (PEG-10 Dimethicone, Odorless)
SiliSolve™ (PEG-10 Dimethicone, Odorless)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ CC (Cetyl Ethylhexanoate)
LipidSoft™ CC (Cetyl Ethylhexanoate)
เครื่องสำอาง
WaterGuard™ Spray
WaterGuard™ Spray
เครื่องสำอาง