การพัฒนาสูตรครีมกันแดด: ส่วนผสม การผสมแบบไม่ใช้ความร้อน และค่า SPF

หัวข้อ: Re: ขอสอบถามสูตรและการผสมค่ะ

เรียน ท่านลูกค้า,

ขอบคุณสำหรับคำถามเกี่ยวกับสูตรครีมกันแดดของท่านค่ะ เรายินดีที่ท่านได้ให้รายละเอียดคุณสมบัติที่ต้องการและส่วนผสมที่เลือกมาค่ะ

นี่คือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสูตรของท่านค่ะ:

1. ความเหมาะสมของส่วนผสมที่เลือก:
ส่วนผสมที่ท่านเลือกมาโดยรวมถือว่าเหมาะสมสำหรับการบรรลุคุณสมบัติตามที่ท่านต้องการค่ะ:

• การป้องกันแสงแดด (SPF 30 PA+++, กันน้ำ, เนื้อบางเบา): Zinc Oxide และ Titanium Dioxide เป็นสารกันแดดแบบ Physical ที่มีประสิทธิภาพ ส่วน Cyclomethicone และ SiliSolve Plus เหมาะสำหรับการสร้างเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ และช่วยให้สูตรกันน้ำได้ค่ะ
• ลดริ้วรอย, ลดรอยแดง/ดำ, ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ, ผิวขาวกระจ่างใส: Activated Resorcinol, GlucoBright, Niacinamide, Licorice Extract และ Vitamin E เป็นสารออกฤทธิ์ที่เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคุณสมบัติเหล่านี้ค่ะ
• ลดอาการแพ้และลดการเกิดสิว: Bisabolol, Licorice Extract และ Niacinamide มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมและลดการอักเสบ ซึ่งสามารถช่วยลดอาการแพ้และรอยแดงที่เกี่ยวข้องกับสิวได้ค่ะ
• ให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและช่วยลดริ้วรอย: น้ำมันมะกอกและ Vitamin E เป็น Emollients ที่ดี Niacinamide และ GlucoBright ยังช่วยเสริมการทำงานของเกราะป้องกันผิวและความชุ่มชื้น ซึ่งช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ทางอ้อมค่ะ

โดยรวมแล้ว การผสมผสานส่วนผสมเหล่านี้ตอบโจทย์คุณสมบัติที่ท่านต้องการได้อย่างครอบคลุมค่ะ

2. การผสมโดยไม่ใช้ความร้อน:
เป็นไปได้ที่จะผสมสูตรนี้โดยไม่ใช้ความร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจาก Zinc Oxide และ Titanium Dioxide เป็นเกรด "EasyDisperse™" และ SiliSolve Plus น่าจะเป็น Emulsifier ที่สามารถใช้ในกระบวนการเย็นได้ อย่างไรก็ตาม การทำให้ได้อิมัลชันที่คงตัวและเป็นเนื้อเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสารกันแดดที่เป็นของแข็งกระจายตัวอยู่เป็นปริมาณมาก จะทำได้ง่ายกว่าและคงตัวกว่ามากเมื่อมีการให้ความร้อนกับเฟสใดเฟสหนึ่งเล็กน้อย และใช้เครื่องผสมแบบ High-shear ในระหว่างการทำอิมัลชันค่ะ การทำกระบวนการเย็นอาจต้องใช้เครื่องมือผสมแบบ High-shear โดยเฉพาะเพื่อให้แน่ใจว่าการกระจายตัวและการคงตัวของอิมัลชันเป็นไปอย่างเหมาะสม หากท่านเลือกทำกระบวนการเย็น โปรดสังเกตความคงตัวของผลิตภัณฑ์อย่างใกล้ชิดเมื่อเวลาผ่านไป (เช่น การแยกชั้นหรือการตกตะกอน)

3. ความเข้ากันได้ของส่วนผสม:
ส่วนผสมที่ท่านเลือกมาโดยทั่วไปเข้ากันได้ดีและนิยมใช้ร่วมกันในสูตรเครื่องสำอางค่ะ ไม่มีปัญหาความไม่เข้ากันที่สำคัญซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีที่จะก่อให้เกิดปัญหาภายใต้สภาวะการผสมปกติ โดยสมมติว่าใช้ส่วนผสมเกรดเครื่องสำอางมาตรฐาน และค่า pH สุดท้ายอยู่ในช่วงที่เหมาะสม (โดยทั่วไปคือ 5-7 สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว) ความท้าทายหลักคือความคงตัวทางกายภาพเนื่องจากปริมาณของแข็งที่กระจายตัวอยู่สูงและกระบวนการทำอิมัลชันเองค่ะ

4. วิธีการและลำดับในการผสม (ข้อเสนอแนะสำหรับกระบวนการเย็น):
สูตรนี้ดูเหมือนจะเป็นอิมัลชันแบบ Water-in-Silicone หรือ Silicone-in-Water วิธีการผสมแบบกระบวนการเย็นที่แนะนำคือ:

• เฟส A (เฟสน้ำมัน/ซิลิโคน): รวม Cyclomethicone, น้ำมันมะกอก, Vitamin E, Activated Resorcinol, Bisabolol, Licorice Extract, Phenoxyethanol และ SiliSolve Plus ผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
• เฟส B (การกระจายตัวของของแข็ง): เติม Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ลงในเฟส A ผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึงเพื่อให้ผงกระจายตัวสม่ำเสมอ การใช้เครื่องผสมแบบ High-shear (เช่น Homogenizer หรือ High-speed disperser) ในขั้นตอนนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อนและให้แน่ใจว่าสารกันแดดมีประสิทธิภาพสูงสุด
• เฟส C (เฟสน้ำ): ในภาชนะแยกต่างหาก รวม น้ำ, Disodium EDTA, GlucoBright และ Niacinamide ผสมจนผงทั้งหมดละลายจนหมด
• การทำอิมัลชัน: ค่อยๆ เติมเฟส C ลงในเฟส B พร้อมกับผสมอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นด้วยความเร็วปานกลางและค่อยๆ เพิ่มความเร็วเมื่ออิมัลชันเริ่มก่อตัว ผสมต่อไปจนได้เนื้อครีมที่เรียบเนียนและเป็นเนื้อเดียวกัน

• การตรวจสอบขั้นสุดท้าย: เมื่ออิมัลชันก่อตัวแล้ว ให้ผสมต่ออีกสองสามนาที ตรวจสอบลักษณะของเนื้อครีมว่าสม่ำเสมอหรือไม่

• หมายเหตุ: หากไม่ใช้ความร้อน การกระจายตัวของสารกันแดดที่เป็นของแข็งให้ละเอียดและคงตัว รวมถึงการทำอิมัลชันให้คงตัว อาจเป็นเรื่องท้าทายหากใช้เครื่องมือผสมพื้นฐาน*

5. ระดับ SPF โดยประมาณ:
จากปริมาณของ Zinc Oxide (15%) และ Titanium Dioxide (7.5%) การผสมผสานนี้ มีแนวโน้ม ที่จะให้การป้องกันรังสี UV แบบ Broad-spectrum เทียบเท่า SPF 30 หรือสูงกว่า และ PA+++ หรือ PA++++ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นเกรด Nano ที่ออกแบบมาเพื่อความโปร่งใสและประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถคำนวณค่า SPF และ PA ที่แน่นอนได้ หากไม่ได้ทำการทดสอบตามมาตรฐานทั้งแบบ in vitro หรือ in vivo กับผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ระดับการป้องกันจริงขึ้นอยู่กับคุณภาพของการกระจายตัวของอนุภาคสารกันแดดอย่างมาก ฟิล์มที่เกิดขึ้นบนผิว และปฏิกิริยากับส่วนผสมอื่นๆ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับกระบวนการพัฒนาสูตรของท่านค่ะ

ขอแสดงความนับถือ
[ชื่อ/ทีมงานของท่าน]