การพัฒนาสูตรครีมทาผิวกาย: ความเข้ากันได้, ค่า pH, การละลาย Retinal และการนำพาสาร

ถามโดย: best_singnontad เมื่อ: January 16, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังพัฒนาสูตรครีมทาผิวกายที่เน้นคุณสมบัติลดเลือนริ้วรอย ปรับผิวกระจ่างใส และให้ความชุ่มชื้น โดยต้องการเนื้อสัมผัสที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ สูตรมีส่วนผสมของ Retinal, GlucoBright, Safe-B3, Sym-White, ODA-White Plus, Hyaluronic Acid, MOIST24, LipidSoft Dry และใช้ Satin Cream Maker เป็นสารประสานเนื้อครีม

มีคำถามดังนี้ค่ะ:

  1. ไม่มั่นใจว่าสารทุกตัวเข้ากันได้ไหมค่ะ
  2. สูตรนี้ควรกังวลเรื่องค่า pH ไหมค่ะ ถ้าผสมออกมาแล้วมันน่าจะมีค่า pH อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่่ค่ะ
  3. จำเป็นไหมที่ต้องใช้ความร้อนไม่เกิน 60 องศา เพื่อให้ Retinal ละลายอย่างสมบูรณ์ ทั้งๆที่ใช้ FloraSolve ช่วยทำละลายอยู่แล้ว
  4. Fractionated Coconut Oil 1% ผสมเปอร์เซ็นต์ต่ำไปไหมค่ะ ไม่ต้องการในเรื่องของความชุ่มชื้น เพราะไม่ชอบความชุ่มชื้นในแบบน้ำมัน และมีตัวอื่นให้ความชุ่มชื้นแทนแล้ว แต่ผสมเพื่อช่วยในการนำพาสาร active ที่ละลายในน้ำมันลงสู่ผิวเท่านั้น
  5. ถ้าผสม Cyclomethicone ลงไปด้วยในครีมสูตรนี้ จะช่วยนำพาสาร active ได้ดีขึ้นอีกไหมค่ะ และควรผสมในขั้นตอนใด

คำตอบ

การประเมินสูตรและข้อแนะนำ

สูตรครีมทาผิวกายของคุณมีเป้าหมายเพื่อรวมส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย (Retinal) ทำให้ผิวกระจ่างใส (GlucoBright, Safe-B3, Sym-White, ODA-White Plus) และให้ความชุ่มชื้น (Hyaluronic Acid, MOIST24, Fractionated Coconut Oil) พร้อมให้ความรู้สึกที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ นี่เป็นการผสมผสานส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ดี

จากส่วนผสมและคุณสมบัติของส่วนผสม:

  • ผิวกระจ่างใสและลดเลือนริ้วรอย: การผสมผสานระหว่าง Retinal, GlucoBright, Safe-B3, Sym-White และ ODA-White Plus ช่วยดูแลปัญหาผิวหมองคล้ำและริ้วรอยในหลายกลไก การทำงานร่วมกันระหว่าง Safe-B3 และ GlucoBright มีข้อมูลสนับสนุนว่าช่วยเรื่องความกระจ่างใส และ Safe-B3 ยังช่วยให้ผิวทนต่อ Retinal ได้ดีขึ้น
  • ความชุ่มชื้นและเนื้อสัมผัส: Hyaluronic Acid, MOIST24 และ LipidSoft Dry ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและให้เนื้อสัมผัสตามที่ต้องการ MOIST24 มีคุณสมบัติเด่นในการให้ความชุ่มชื้นโดยไม่เหนียวเหนอะหนะและช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสของสูตร LipidSoft Dry ช่วยลดความมัน
  • สารประสานเนื้อครีม: Satin Cream Maker เป็นสารประสานเนื้อครีมที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการผลิตแบบไม่ใช้ความร้อน

การตอบคำถามของคุณ

  1. ความเข้ากันได้ของสารทุกตัว:
    ส่วนผสมส่วนใหญ่ที่คุณเลือกเข้ากันได้ดีในการทำเครื่องสำอาง อย่างไรก็ตาม ตามที่ทีมงานได้กล่าวไว้ ปริมาณรวมของส่วนของน้ำมันในสูตรของคุณ (ประมาณ 23.7%) ใกล้เคียงกับปริมาณน้ำมันสูงสุด (25%) ที่แนะนำสำหรับ Satin Cream Maker ที่ความเข้มข้น 1% ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงที่สูตรจะแยกชั้นได้

  2. ควรคำนึงถึงค่า pH ไหม และค่า pH จะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่:
    ทีมงานได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องว่าสูตรของคุณซึ่งไม่มีส่วนผสมที่เป็นกรดหรือด่างสูง จะมีค่า pH เป็นกลางถึงเป็นกรดเล็กน้อย ซึ่งเหมาะสมกับผิวแล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพสูงสุดของส่วนผสมสำคัญ เช่น Retinal (ต้องการ pH 3.5-6.5) และ Phenylethyl Resorcinol (ต้องการ pH 4-5 เพื่อความเสถียร) ค่า pH สุดท้ายของสูตรควรปรับให้อยู่ในช่วง 4.0-5.0 ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับ Safe-B3 (4.0-7.0) และ GlucoBright (3-7) ด้วย คุณควรวัดค่า pH ของสูตรที่ผสมเสร็จแล้วและปรับหากจำเป็นโดยใช้กรด (เช่น Lactic Acid หรือ Citric Acid) หรือด่าง (เช่น Triethanolamine) ที่เหมาะสม

  3. จำเป็นต้องใช้ความร้อนไม่เกิน 60 องศา เพื่อให้ Retinal ละลายอย่างสมบูรณ์ ทั้งๆ ที่ใช้ FloraSolve ช่วยทำละลายอยู่แล้ว:
    Retinal เป็นสารที่ไวต่อความร้อนและแสง แม้ว่า FloraSolve จะช่วยละลายส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันได้ แต่การให้ความร้อน Retinal ถึง 60°C แม้เพียงช่วงสั้นๆ ควรหลีกเลี่ยงหากทำได้ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ Retinal แนะนำให้เติมในขั้นตอนสุดท้ายของการผสมโดยไม่ใช้ความร้อน หากกระบวนการหลักใช้ความร้อน เนื่องจากคุณใช้ Satin Cream Maker ซึ่งเป็นสารประสานเนื้อครีมแบบไม่ใช้ความร้อน คุณสามารถละลาย Retinal และส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันอื่นๆ (Sym-White, ODA-White Plus, Vitamin E Acetate) ในส่วนของน้ำมัน (ส่วน B) ด้วย FloraSolve ที่อุณหภูมิห้อง หรือใช้ความร้อนต่ำๆ อย่างนุ่มนวล (ต่ำกว่า 50°C) เฉพาะเมื่อจำเป็นต่อการละลายเท่านั้น และใช้เวลาสั้นๆ หลีกเลี่ยงการให้ความร้อนเป็นเวลานาน

  4. Fractionated Coconut Oil 1% ผสมเปอร์เซ็นต์ต่ำไปไหม เพื่อช่วยในการนำพาสาร active ที่ละลายในน้ำมันลงสู่ผิว:
    ตามที่ทีมงานได้ให้คำแนะนำไว้ Fractionated Coconut Oil ที่ 1% ไม่จำเป็นสำหรับการช่วยนำพาสาร และจะไม่ช่วยเพิ่มการดูดซึมของส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมันในสูตรนี้ หน้าที่หลักของมันคือเป็น Emollient เนื้อบางเบาที่ให้ความรู้สึกนุ่มลื่น หากคุณชอบเนื้อสัมผัสที่ได้ก็สามารถคงไว้ได้ แต่ไม่ต้องพึ่งพาคุณสมบัติในการช่วยนำพาสาร

  5. ถ้าผสม Cyclomethicone ลงไปด้วยในครีมสูตรนี้ จะช่วยนำพาสาร active ได้ดีขึ้นอีกไหม และควรผสมในขั้นตอนใด:
    เช่นเดียวกับ Fractionated Coconut Oil ทีมงานยืนยันว่า Cyclomethicone ส่วนใหญ่ช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสของสูตร ทำให้รู้สึกนุ่มลื่นและไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ไม่ได้ช่วยเพิ่มการซึมผ่านของส่วนผสมออกฤทธิ์อย่างมีนัยสำคัญ หากคุณต้องการใส่ Cyclomethicone เพื่อประโยชน์ด้านเนื้อสัมผัส ควรผสมในส่วนของน้ำมัน (ส่วน B) ของสูตร

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

  • ความเสถียรของสูตร (Satin Cream Maker): เพื่อให้แน่ใจว่าครีมของคุณมีความเสถียรและไม่แยกชั้น ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของทีมงาน โดยเพิ่มความเข้มข้นของ Satin Cream Maker เป็น 1.3-1.5% หรือลดปริมาณรวมของส่วนผสมในส่วนของน้ำมันลงเล็กน้อย (ต่ำกว่า 23.7%) เพื่อความเสถียรที่ดีขึ้น
  • ความเสถียรของ Retinal: Retinal ไม่เสถียรอย่างยิ่งเมื่อสัมผัสกับแสงและอากาศ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใส่สารต้านอนุมูลอิสระที่แนะนำสำหรับความเสถียรของ Retinal โดยเฉพาะ เช่น ActiveProtec™ OX ในอัตรา 1% ในสูตรของคุณ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ต้อง บรรจุในภาชนะทึบแสงและป้องกันอากาศ (เช่น ขวดปั๊มสุญญากาศทึบแสง) และควรเก็บไว้ในตู้เย็นเสมอเพื่อรักษาประสิทธิภาพในระยะยาว
  • ความเสถียรของ Phenylethyl Resorcinol: Phenylethyl Resorcinol ก็ไวต่อแสงและค่า pH เช่นกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายอยู่ในช่วง 4-5 และใช้บรรจุภัณฑ์ทึบแสง แนะนำให้เก็บในตู้เย็นสำหรับการเก็บรักษาในระยะยาว
  • ขั้นตอนการผสม: ขั้นตอนการผสมที่คุณเสนอ (A: ส่วนของน้ำ, B: ส่วนของน้ำมัน, เติม Satin Cream Maker ลงใน A, จากนั้นรวม A+B) เหมาะสมสำหรับการใช้ Satin Cream Maker ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดในแต่ละส่วนละลายหรือกระจายตัวอย่างสมบูรณ์ก่อนนำมารวมกัน เติม Retinal และ Phenylethyl Resorcinol ลงในส่วนของน้ำมัน (B) โดยใช้ความร้อนน้อยที่สุด เท่าที่จำเป็นเพื่อให้ละลาย ก่อนนำไปรวมกับส่วนของน้ำ และหลีกเลี่ยงการให้ความร้อนเป็นเวลานาน

การปรับเปลี่ยนเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของความเข้มข้นของ Satin Cream Maker การเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระสำหรับ Retinal การปรับค่า pH และการใช้บรรจุภัณฑ์และการเก็บรักษาที่เหมาะสม จะช่วยปรับปรุงความเสถียรและประสิทธิภาพของสูตรครีมทาผิวกายของคุณได้

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Fractionated Coconut Oil
Fractionated Coconut Oil
เครื่องสำอาง
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
เครื่องสำอาง
Satin Cream Maker™
Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Double Hyaluron Liquid
Double Hyaluron Liquid
เครื่องสำอาง
1,2-Hexanediol (Super-Purified, Odorless)
1,2-Hexanediol (Super-Purified, Odorless)
เครื่องสำอาง
Phenylethyl Resorcinol (e.q. SymWhite 377)
Phenylethyl Resorcinol (e.q. SymWhite 377)
เครื่องสำอาง
ODA-White Plus™
ODA-White Plus™
เครื่องสำอาง
Retinal (Retinaldehyde)
Retinal (Retinaldehyde)
เครื่องสำอาง
MOIST24
MOIST24
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Dry II (Dicaprylyl Carbonate)
LipidSoft™ Dry II (Dicaprylyl Carbonate)
เครื่องสำอาง
Pea Peptide (Pea Protein ละลายน้ำใส)
Pea Peptide (Pea Protein ละลายน้ำใส)
เครื่องสำอาง