การพัฒนาสูตรครีมบำรุงผิวปราศจากซิลิโคนสำหรับเสริมเกราะป้องกันผิวและให้ความชุ่มชื้น

คำแนะนำสำหรับการทำครีมบำรุงผิวสูตรปราศจากซิลิโคน

จากอาการแพ้และระคายเคืองที่คุณพบในครีมสูตรแรก อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุตามที่ทีมงานได้แจ้งไปแล้ว ทั้งจากขั้นตอนการผสมที่ไม่ถูกต้อง (เช่น การละลายส่วนผสมบางอย่างไม่สมบูรณ์ หรือการไม่ใช้ความร้อนในการละลาย Shea Butter) หรืออาจเกิดจากการแพ้ส่วนผสมใดส่วนผสมหนึ่งในสูตรได้เช่นกันค่ะ

สำหรับคำถามที่ 2 เกี่ยวกับการทำครีมที่รวมคุณสมบัติของครีมที่คุณใช้ปัจจุบัน (Curel Intensive Moisture Care Intensive Moisture Cream, RESIST 10% Niacinamide Booster, และ RESIST Hyaluronic Acid Booster) โดยไม่ใช้ซิลิโคน สามารถทำได้ค่ะ โดยเน้นการใช้ส่วนผสมที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ให้ความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง และมีคุณสมบัติบำรุงผิวอื่นๆ ที่พบในผลิตภัณฑ์ที่คุณกล่าวถึง

ส่วนผสมหลักที่แนะนำ (ปราศจากซิลิโคน)

เพื่อสร้างครีมที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้ โดยเน้นการบำรุงและเสริมเกราะป้องกันผิว สามารถเลือกใช้ส่วนผสมเหล่านี้ได้ค่ะ:

• กลุ่มเสริมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier Repair):
  • Ceramide Complex หรือ Cera-Flux VX: เป็นเซราไมด์คอมเพล็กซ์ที่ช่วยฟื้นฟูและเสริมความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว
  • Cholesterol: ส่วนประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิว ทำงานร่วมกับเซราไมด์ได้ดี
  • Phytosphingosine: ส่วนประกอบตามธรรมชาติของผิว ช่วยเสริมเกราะป้องกันและมีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อบางชนิด
• กลุ่มให้ความชุ่มชื้น (Hydration/Humectant):
  • Hyaluronic Acid (Small Molecule): ช่วยเติมความชุ่มชื้นสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก
  • Sodium Hyaluronate: รูปแบบหนึ่งของ Hyaluronic Acid ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นบนผิว
  • Glycerin: สารให้ความชุ่มชื้นพื้นฐานที่ดี
  • Butylene Glycol: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำหน้าที่เป็นตัวทำละลาย
  • Panthenol (Vitamin B5): ช่วยให้ความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว และเสริมการฟื้นฟูผิว
• กลุ่มปลอบประโลม/ลดการระคายเคือง (Soothing/Anti-irritant):
  • Allantoin: ช่วยลดการระคายเคืองและส่งเสริมการซ่อมแซมผิว
  • Glycyrrhetinic Acid หรือ Dipotassium Glycyrrhizate: สารสกัดจากชะเอมเทศ ช่วยลดการอักเสบและระคายเคือง
• กลุ่มบำรุงผิวอื่นๆ:
  • Niacinamide (Safe-B3™): Vitamin B3 ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ลดรอยแดงรอยดำ ควบคุมความมัน และลดการอักเสบ
  • Acetyl Glucosamine (GlucoBright™): ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid ในผิวตามธรรมชาติ
  • Vitamin E (Tocopheryl Acetate): สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิว
• กลุ่มน้ำมัน/บัตเตอร์ (Emollients):
  • Shea Butter: ไขมันธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น
  • Squalane (Olive): น้ำมันที่คล้ายกับน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ซึมซาบง่าย ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่เหนอะหนะ
• สารสร้างเนื้อครีม (Cream Maker):
  • เนื่องจากสูตรมีส่วนผสมของน้ำมัน/บัตเตอร์ และต้องการเนื้อครีมที่บำรุงผิวได้ดี แนะนำให้ใช้สารสร้างเนื้อครีมที่สามารถผสานน้ำกับน้ำมันได้ดีและอาจต้องใช้ความร้อนในการผสม เช่น Butter Cream Maker หรือ Soft Cream Maker ซึ่งจะช่วยให้ Shea Butter ละลายและเข้ากับสูตรได้ดีกว่า Light Cream Maker ในบางกรณี
• สารกันเสีย (Preservative):
  • Mild Preserved Eco: สารที่ช่วยควบคุมเชื้อโดยไม่จัดเป็นสารกันเสียตามข้อกำหนดบางประเภท
  • 1,2-Hexanediol: สามารถใช้เป็นสารกันเสียเดี่ยวๆ ได้ที่ความเข้มข้นประมาณ 3% และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารกันเสียอื่นๆ รวมถึงช่วยนำพาสารสำคัญเข้าสู่ผิวได้ด้วยค่ะ

แนวทางการผสมครีม (สูตร Oil-in-Water)

1. ส่วนน้ำ (Water Phase): ผสมน้ำเข้ากับส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ทั้งหมด เช่น Glycerin, Butylene Glycol, Niacinamide, Hyaluronic Acid, Allantoin, Panthenol, Acetyl Glucosamine, Glycyrrhetinic Acid/Dipotassium Glycyrrhizate. คนหรือปั่นให้เข้ากันจนละลายหมด
2. ส่วนน้ำมัน (Oil Phase): ผสม Shea Butter, Squalane, Vitamin E, Ceramide Complex (ชนิดที่ละลาย/กระจายในน้ำมันได้) Cholesterol, Phytosphingosine เข้าด้วยกัน หากใช้ Butter Cream Maker หรือ Soft Cream Maker ให้เติมสารสร้างเนื้อครีมลงในส่วนน้ำมันนี้
3. ให้ความร้อน: นำส่วนน้ำและส่วนน้ำมันไปอุ่นให้ความร้อนประมาณ 70-80°C (ตามคำแนะนำของสารสร้างเนื้อครีมที่เลือกใช้) เพื่อช่วยให้ Shea Butter และส่วนผสมอื่นๆ ในส่วนน้ำมันละลายและเข้ากันได้ดี
4. ผสมรวม: ค่อยๆ เทส่วนน้ำมันลงในส่วนน้ำ (หรือกลับกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของสารสร้างเนื้อครีม) พร้อมกับคนหรือปั่นด้วยความเร็วปานกลางจนเนื้อเริ่มข้นเป็นครีม
5. เติมสารกันเสีย: เมื่อเนื้อครีมเย็นลง (ต่ำกว่า 40°C) ให้เติม Mild Preserved Eco หรือ 1,2-Hexanediol และคนให้เข้ากัน
6. ปรับเนื้อ (ถ้าจำเป็น): หากต้องการให้เนื้อครีมข้นขึ้น สามารถเพิ่มสารสร้างเนื้อครีมได้เล็กน้อย (ตามคำแนะนำของสารสร้างเนื้อครีมนั้นๆ) หรือใช้สารเพิ่มความหนืดอื่นๆ ที่เข้ากันได้

ข้อควรจำ:

• การทำครีมใช้เองต้องอาศัยความแม่นยำในการชั่งตวงและขั้นตอนการผสมที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้เนื้อครีมที่เสถียรและมีประสิทธิภาพ
• การไม่ใช้ซิลิโคนอาจทำให้เนื้อสัมผัสแตกต่างจากครีมสำเร็จรูปบางยี่ห้อที่นิยมใช้ซิลิโคนเพื่อให้ความรู้สึกนุ่มลื่นทันที
• ควรทดสอบผลิตภัณฑ์บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วใบหน้าเสมอ เพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือระคายเคืองหรือไม่

การใช้ 1,2-Hexanediol เป็นสารกันเสียเดี่ยวๆ

ตามที่ทีมงานได้แจ้งไปแล้ว 1,2-Hexanediol สามารถใช้เป็นสารกันเสียเดี่ยวๆ ในสูตรได้ที่ความเข้มข้นประมาณ 3% มีคุณสมบัติช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ได้ดี และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเป็นตัวนำพาสารสำคัญเข้าสู่ผิวได้ด้วยค่ะ

อย่างไรก็ตาม สารทุกชนิดมีโอกาสก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้ในแต่ละบุคคล แม้ว่า 1,2-Hexanediol จะถือว่ามีความอ่อนโยนกว่าสารกันเสียบางชนิด แต่ก็มีรายงานว่าบางคนอาจมีอาการแสบร้อนหรือระคายเคืองผิวได้เช่นกันค่ะ การทดสอบบนผิวของแต่ละบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการยืนยันว่าส่วนผสมนั้นๆ เหมาะกับผิวของคุณหรือไม่

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสูตรครีมของคุณนะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามได้เลยค่ะ