การพัฒนาสูตรครีมมาส์กหน้าพร้อมสารออกฤทธิ์หลากหลายชนิด
คำถาม
ต้องการคำแนะนำในการพัฒนาสูตรครีมมาส์กหน้าโดยใช้ส่วนผสมดังต่อไปนี้ เพื่อให้ได้คุณสมบัติในการลดรอยสิว รอยดำ ให้ความชุ่มชื้น ต่อต้านอนุมูลอิสระ และลดการระคายเคือง:
- Sodium PCA
- Sodium Lactate
- WaterLock™
- Double Hyaluron Liquid
- Ethyl Ascorbic Acid
- Kojic Acid Dipalmitate
- Pure-Oryzanol™
- Astaxanthin
- Dipotassium Glycyrrhizate
- Allantoin
- Palmitamide MEA
- Oligopeptide-68
- Phenoxyethanol SA
- Disodium EDTA
มีแนวทางการผสมส่วนผสมเหล่านี้อย่างไรเพื่อให้ได้สูตรครีมมาส์กที่มีความคงตัวและมีประสิทธิภาพ?
คำตอบ
สวัสดีค่ะ
สำหรับการทำครีมมาส์กหน้าโดยใช้ส่วนผสมที่คุณลูกค้าเลือกมา ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดรอยสิว รอยดำ ให้ความชุ่มชื้น ต่อต้านอนุมูลอิสระ และลดการระคายเคือง สามารถทำได้ค่ะ ส่วนผสมที่คุณลูกค้าเลือกมานั้นมีประโยชน์ที่หลากหลายและตรงกับความต้องการค่ะ
คำแนะนำสำหรับการทำครีมมาส์กหน้า
ในการทำครีมมาส์กให้มีเนื้อครีม จะต้องใช้สารประสานเนื้อครีม (emulsifier) เพื่อรวมส่วนของน้ำและน้ำมันเข้าด้วยกัน เนื่องจากส่วนผสมที่คุณลูกค้าเลือกมีทั้งที่ละลายในน้ำและละลายในน้ำมัน จึงเหมาะกับการใช้สารประสานเนื้อครีมประเภท Oil-in-Water (O/W)
การเลือกสารประสานเนื้อครีม
สำหรับเนื้อครีมมาส์กที่ต้องการความคงตัวและเนื้อสัมผัสที่ดี สามารถพิจารณาสารประสานเนื้อครีมอย่าง Emulsifying Wax 1000 หรือ Sucrose Cream Maker ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการสร้างเนื้อครีม การเลือกสารประสานเนื้อครีมที่เฉพาะเจาะจงอาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัสและความคงตัวของมาส์กในขั้นสุดท้าย คุณลูกค้าอาจทดลองเพื่อหาสารที่ชอบที่สุดได้ค่ะ
ข้อควรพิจารณาสำหรับสารออกฤทธิ์ (Active Ingredients)
สารออกฤทธิ์ที่คุณลูกค้าเลือกมามีประโยชน์ที่หลากหลายตรงตามความต้องการค่ะ:
- ให้ความชุ่มชื้น: Sodium PCA, Sodium Lactate, WaterLock™, และ Double Hyaluron Liquid เป็นสาร Humectant และสารให้ความชุ่มชื้นที่ดีเยี่ยม จะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับมาส์กหน้า
- ลดรอยสิวและรอยดำ: Ethyl Ascorbic Acid (อนุพันธ์วิตามินซีที่มีความคงตัว) และ Kojic Acid Dipalmitate เป็นที่รู้จักกันดีในด้านคุณสมบัติช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดการสร้างเม็ดสี ซึ่งช่วยให้รอยดำและรอยสิวจางลง
- ต่อต้านอนุมูลอิสระ: Pure-Oryzanol™, Ethyl Ascorbic Acid, และ Astaxanthin ให้การปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
- ลดการระคายเคือง: Dipotassium Glycyrrhizate, Allantoin, และ Palmitamide MEA เป็นสารต้านการอักเสบและปลอบประโลมผิวที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยลดการระคายเคืองและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
ข้อควรทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารออกฤทธิ์:
- Oligopeptide-68: ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับเปปไทด์ชนิดนี้ในฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ ควรตรวจสอบข้อมูลการใช้งานและข้อกำหนดจากผู้จำหน่ายโดยตรง
- Dipotassium Glycyrrhizate: แม้จะเป็นสารลดการระคายเคืองที่ดี แต่ข้อมูลผลิตภัณฑ์ยืนยันว่า ไม่มี ผลในการทำให้ผิวขาวขึ้น
- การละลายและค่า pH: ควรให้ความสำคัญกับการละลายและค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับสารออกฤทธิ์แต่ละชนิด:
- Pure-Oryzanol™ และ Kojic Acid Dipalmitate ละลายในน้ำมัน ควรเติมในส่วนของน้ำมัน และอาจต้องใช้ความร้อนช่วยในการละลาย
- Palmitamide MEA ก็ละลายในน้ำมัน/ไกลคอลบางชนิดโดยใช้ความร้อน
- Ethyl Ascorbic Acid ละลายในน้ำ แต่ต้องการค่า pH ที่เฉพาะเจาะจง (3.5-6.0) และควรใช้ร่วมกับสารจับประจุ (chelating agent) เช่น Disodium EDTA ไม่ควรใช้ร่วมกับ Vitamin B3 หรือ Zinc PCA ในสูตรเดียวกันโดยตรง
- Allantoin ละลายในน้ำได้จำกัดที่อุณหภูมิห้อง การใช้ความร้อนหรือตัวทำละลายอย่าง Glycerin จะช่วยได้ ทำงานได้ดีในช่วง pH 3-8
- สารที่ละลายในน้ำส่วนใหญ่ เช่น Sodium PCA, Sodium Lactate, WaterLock™, Double Hyaluron Liquid, และ Dipotassium Glycyrrhizate สามารถเติมในส่วนของน้ำได้
ระบบสารกันเสีย
การใช้ทั้ง Phenoxyethanol SA และ Disodium EDTA เป็นแนวทางที่ดีค่ะ
- Phenoxyethanol SA เป็นสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันแบคทีเรีย ยีสต์ และเชื้อรา เหมาะสำหรับใช้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 60°C และในช่วง pH 2.0-6.0
- Disodium EDTA เป็นสารจับประจุที่ช่วยให้สูตรคงตัวโดยการจับกับไอออนของโลหะ และสามารถเสริมประสิทธิภาพของระบบสารกันเสียได้ แนะนำเป็นพิเศษเมื่อใช้ Ethyl Ascorbic Acid โดยทั่วไปใช้ในความเข้มข้นต่ำ (0.1-0.2%)
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายของมาส์กอยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับสารออกฤทธิ์และสารกันเสียของคุณ (โดยทั่วไปควรอยู่ระหว่าง 4.0-6.0 ซึ่งเหมาะสมกับ Ethyl Ascorbic Acid และ Allantoin ด้วย)
ขั้นตอนการเตรียมสูตรโดยทั่วไป
- เตรียมส่วนของน้ำมัน โดยรวมสารที่ละลายในน้ำมัน (Pure-Oryzanol™, Kojic Acid Dipalmitate, Palmitamide MEA, Astaxanthin ชนิดละลายในน้ำมันหากใช้) และสารประสานเนื้อครีมเข้าด้วยกัน ค่อยๆ ให้ความร้อนเพื่อช่วยละลายสารที่เป็นของแข็งหากจำเป็น (เช่น Kojic Acid Dipalmitate, Palmitamide MEA)
- เตรียมส่วนของน้ำ โดยรวมน้ำ, Disodium EDTA, และสารที่ละลายในน้ำ (Sodium PCA, Sodium Lactate, WaterLock™, Double Hyaluron Liquid, Dipotassium Glycyrrhizate, Ethyl Ascorbic Acid, Allantoin - ละลาย Allantoin ในน้ำร้อนหรือใช้ตัวทำละลายก่อนหากจำเป็น)
- รวมส่วนของน้ำมันและน้ำที่ให้ความร้อนเข้าด้วยกัน และปั่นให้เข้ากันจนได้เนื้อครีมที่คงตัว
- ปล่อยให้เนื้อครีมเย็นลง
- เมื่ออุณหภูมิเย็นลงต่ำกว่า 60°C ให้เติมสารที่ไวต่อความร้อนและสารกันเสีย (Phenoxyethanol SA)
- ปรับค่า pH หากจำเป็น ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับสารออกฤทธิ์และสารกันเสีย (โดยทั่วไปควรอยู่ระหว่าง 4.0-6.0)
ด้วยการพิจารณาคุณสมบัติและความเข้ากันได้ของส่วนผสมแต่ละชนิดอย่างรอบคอบ คุณจะสามารถสร้างครีมมาส์กหน้าที่มีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการของคุณได้ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Allantoin

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)

Kojic Acid Dipalmitate

Sodium PCA 50%

Disodium EDTA

WaterLock™ (Polyquaternium-51)

Double Hyaluron Liquid

Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)

Dipotassium Glycyrrhizate (DPG, High Purity)

Palmitamide MEA

Astaxanthin แอสตาแซนธิน (10% Algae Extract, น้ำมัน)

Sucrose Cream Maker™ (e.q. Emulgade Sucro Plus)
