การพัฒนาสูตรครีม: การเพิ่มความข้น, ความเข้ากันได้ของส่วนผสม, การผสม และปัญหาเนื้อสัมผัส

ถามโดย: patsuma เมื่อ: July 10, 2018 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีคำถามหลายข้อเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรครีมค่ะ:

  • จะเพิ่มความข้นให้กับเนื้อครีมที่ใช้ Satin Cream Maker ได้อย่างไร โดยเฉพาะเมื่อผสมกับน้ำมันธรรมชาติ เช่น Moringa Oil, Evening Primrose Oil, Jojoba Oil, และ Sweet Almond Oil? มีน้ำมันหรือ Emollient เนื้อหนักทางเลือกอื่นใดที่สามารถให้เนื้อสัมผัสที่ข้นขึ้นหรือเคลือบผิวได้ดีขึ้นบ้างคะ?
  • จะสังเกตได้อย่างไรว่าสารตัวไหนเป็น Chelating Agent? Copper Peptide เข้ากันได้กับส่วนผสมเหล่านี้หรือไม่: Aloe Vera Extract, Cucumber Extract, Natural Betaine, Allantoin, Vitamin B5, Vitamin B12, MOIST72, WaterLock, Ceramide, Wakame Extract, และ Evening Primrose Oil?
  • อุณหภูมิที่ถูกต้องในการผสมสำหรับ Emulsifier แบบใช้ความร้อนและไม่ใช้ความร้อนแตกต่างกันอย่างไร? เมื่อใช้ Emulsifier แบบไม่ใช้ความร้อน เช่น Satin Cream Maker ควรนำ Ceramide 2 (ซึ่งต้องใช้อุณหภูมิประมาณ 70°C ในการละลาย) มาผสมอย่างไร?
  • สามารถใช้ Natural Beeswax ในสูตรที่ใช้ Satin Cream Maker ได้หรือไม่? หากได้ กระบวนการจะแตกต่างกันอย่างไร? หากไม่ได้ มีสารทางเลือกอื่นใดแทน Beeswax ที่จะช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่ข้นและเคลือบผิวได้ดีคล้าย Butter Cream เมื่อใช้ Satin Cream Maker โดยไม่ต้องใช้ความร้อน?
  • จะวัดอุณหภูมิสำหรับการละลายส่วนผสม เช่น Ceramide 2 ในน้ำมันหรือ Glycol ได้อย่างไร หากไม่มีเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรด?
  • การให้ความร้อนกับน้ำมันธรรมชาติ เช่น Evening Primrose Oil และ Moringa Oil ถึง 70°C เพื่อละลาย Ceramide 2 มีผลอย่างไร? มีตัวทำละลายที่ดีกว่าสำหรับ Ceramide 2 ที่สามารถทนอุณหภูมินี้ได้หรือไม่?
  • สีชมพูเข้มที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ Vitamin B12 5% เป็นเรื่องปกติหรือไม่? จะลดความเข้มของสีได้อย่างไร?
  • มีลิงก์สินค้าสำหรับสูตร Copper Peptide Serum สำเร็จรูปหรือไม่?
  • วิธีที่ดีที่สุดในการทำความสะอาดอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการ เช่น บิ๊กเกอร์ หลอดหยด และแท่งแก้วคนสาร คืออะไร? น้ำยาล้างจานทั่วไปเพียงพอหรือไม่ หรือจำเป็นต้องใช้น้ำร้อนต้ม?
  • อะไรคือสาเหตุของการเกิดคราบไคล (Pilling) ในครีมเนื้อเจล? ทำไมปัญหานี้จึงไม่เกิดขึ้นเมื่อใช้ Satin Cream Maker?
  • การมีน้ำกลั่นน้อยเกินไปในสูตรมีผลอย่างไร? มีคำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำของน้ำในครีมกลางวันและกลางคืนหรือไม่?

คำตอบ

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการผสมครีมค่ะ

  • การเพิ่มความข้นเนื้อครีมด้วยน้ำมันและ Satin Cream Maker: ความข้นของเนื้อครีมเมื่อใช้ Satin Cream Maker ขึ้นอยู่กับปริมาณของ Satin Cream Maker เป็นหลัก การเพิ่มปริมาณขึ้น 0.5-1% สามารถช่วยให้เนื้อข้นขึ้นได้ค่ะ แม้น้ำมันที่คุณระบุมา (Moringa Oil, Evening Primrose Oil, Jojoba Oil, Sweet Almond Oil) จะเป็นน้ำมันธรรมชาติ แต่ความหนืดของน้ำมันเองไม่ได้มีผลทำให้เนื้อครีมข้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับตัวประสาน หากต้องการเนื้อสัมผัสที่ข้นขึ้นหรือเคลือบผิวได้ดีขึ้น นอกจากการปรับความเข้มข้นของ Satin Cream Maker แล้ว อาจพิจารณาใช้น้ำมันสังเคราะห์เนื้อหนัก เช่น LipidSoft Film หรือ LipidSoft Heavy หรือน้ำมันธรรมชาติเนื้อหนัก เช่น Jojoba Oil หรือ Olive Oil เพิ่มเติมในสูตรได้ค่ะ

  • วิธีสังเกต Chelating Agent และความเข้ากันได้ของ Copper Peptide: สารจับประจุในน้ำที่นิยมใช้คือ Disodium EDTA ค่ะ สำหรับความเข้ากันได้ของ Copper Peptide กับส่วนผสมที่คุณระบุมา (Aloe Vera Extract, Cucumber Extract, Natural Betaine, Allantoin, Vitamin B5, Vitamin B12, MOIST72, WaterLock, Ceramide, Wakame Extract, Evening Primrose Oil) นั้น Copper Peptide อาจมีความไวต่อค่า pH และส่วนผสมบางชนิด แม้จะไม่สามารถตรวจสอบความเข้ากันได้ทั้งหมดได้โดยไม่ต้องทดสอบ แต่สูตรตัวอย่างที่ให้มามีส่วนผสมที่ละลายน้ำได้หลายชนิด โดยทั่วไป การรักษาค่า pH ที่แนะนำสำหรับ Copper Peptide เป็นสิ่งสำคัญต่อความเสถียรและประสิทธิภาพค่ะ

  • อุณหภูมิในการผสมสำหรับ Emulsifier แบบใช้ความร้อนและไม่ใช้ความร้อน และ Ceramide 2: ความเข้าใจของคุณถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ค่ะ สำหรับ Emulsifier ที่ต้องใช้ความร้อน ทั้งส่วนของน้ำและน้ำมันจะต้องถูกทำให้อุณหภูมิเท่ากันและสูงตามที่กำหนด แล้วจึงนำมาผสมกันขณะร้อน อย่างไรก็ตาม หากใช้ Emulsifier ที่ไม่ใช้ความร้อน เช่น Satin Cream Maker คุณสามารถนำ Ceramide 2 (ซึ่งต้องใช้อุณหภูมิประมาณ 70°C ในการละลาย) ไปอุ่นละลายในน้ำมันหรือกลุ่ม Glycol (เช่น Butylene Glycol หรือ Ethoxydiglycol) แยกต่างหาก เมื่อละลายแล้ว สามารถรอให้ส่วนผสมนี้เย็นลง (ต่ำกว่า 40°C) ก่อนนำไปผสมกับส่วนของน้ำมันหลักในสูตรของคุณได้ค่ะ ข้อควรระวังคือ หากส่วนผสม Ceramide 2 กลับมาแข็งตัวหรือตกตะกอนเมื่อเย็นลง ก็จำเป็นต้องนำไปผสมในขณะที่สูตรหลักยังอุ่นพอที่จะทำให้ Ceramide 2 ละลายอยู่ค่ะ

  • การใช้ Natural Beeswax กับ Satin Cream Maker: Natural Beeswax ต้องใช้ความร้อนในการละลายและเข้ากันได้ดีในสูตร แม้ Satin Cream Maker จะสามารถใช้ในกระบวนการร้อนได้ แต่การใช้ Beeswax จะทำให้คุณจำเป็นต้องทำความร้อนทั้งส่วนของน้ำและน้ำมันให้มีอุณหภูมิสูงพอ (ประมาณ 70°C หรือสูงกว่า ขึ้นอยู่กับจุดหลอมเหลวของ Beeswax) และผสมขณะร้อน ซึ่งคล้ายกับการใช้ Emulsifier แบบใช้ความร้อนทั่วไป เช่น Butter Cream Maker หรือ Soft Cream Maker หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงความร้อนและต้องการผลลัพธ์ที่ข้นขึ้นและเคลือบผิวได้ดีคล้าย Butter Cream โดยใช้ Satin Cream Maker คุณจะไม่สามารถใช้ Beeswax ได้ค่ะ แนะนำให้พิจารณาใช้ LipidSoft Film หรือ Emollient เนื้อหนักอื่นๆ ที่เป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้องแทนค่ะ

  • การวัดอุณหภูมิโดยไม่มี IR Thermometer: หากคุณยังไม่ต้องการลงทุนซื้อ IR Thermometer เทคนิคง่ายๆ ในการละลายส่วนผสมอย่าง Ceramide 2 ในน้ำมัน/Glycol คือการให้ความร้อนอย่างช้าๆ จนกว่าคุณจะเห็นด้วยตาเปล่าว่าผงทั้งหมดละลายหมดแล้ว จากนั้นจึงหยุดให้ความร้อนและปล่อยให้เย็นลงก่อนนำไปใช้ในขั้นตอนการผสมสูตรต่อไปค่ะ แม้จะไม่แม่นยำเท่าการใช้เทอร์โมมิเตอร์ แต่การสังเกตด้วยตาเปล่านี้ก็สามารถใช้ได้สำหรับการละลายส่วนผสมง่ายๆ ค่ะ

  • ผลของความร้อนต่อน้ำมันและการละลาย Ceramide 2: การให้ความร้อนกับน้ำมันธรรมชาติอย่าง Evening Primrose Oil และ Moringa Oil ถึง 70°C (อุณหภูมิที่จำเป็นในการละลาย Ceramide 2) อาจทำให้คุณภาพเสื่อมลงได้ เนื่องจากน้ำมันเหล่านี้โดยทั่วไปทนความร้อนได้ไม่สูงนัก (Moringa Oil ทนได้ถึง 60°C) แนะนำให้ละลาย Ceramide 2 ในกลุ่ม Glycol (เช่น Butylene Glycol หรือ Ethoxydiglycol) แทน ซึ่งสามารถทนอุณหภูมิที่ต้องการได้โดยไม่เสื่อมคุณภาพ เมื่อละลาย Ceramide 2 ในส่วนของน้ำมัน/Glycol แล้ว การปล่อยให้เย็นลงก่อนนำไปผสมกับส่วนของน้ำก็สามารถทำได้ค่ะ โดยมีข้อแม้ว่า Ceramide 2 จะต้องยังคงละลายอยู่เมื่อเย็นลงค่ะ

  • ความเข้มของสี Vitamin B12: ใช่ค่ะ สีชมพูเข้มจากการใช้ Vitamin B12 5% เป็นเรื่องปกติและเป็นคุณสมบัติของส่วนผสมนี้ วิธีหลักในการลดความเข้มของสีคือการลดปริมาณการใช้ลงค่ะ การใช้ Vitamin B12 ที่ 1-2% มักจะให้สีชมพูอ่อนลงค่ะ

  • ลิงก์สูตร Copper Peptide Serum: ไม่พบหน้าสินค้าสำหรับ Copper Peptide Serum ที่เป็นสูตรสำเร็จรูป แต่มีสูตรตัวอย่างให้ค่ะ:

    • น้ำกลั่น: 93%
    • Hyaluronic Standard: 0.5%
    • Hyaluronic Nano: 0.5%
    • Copper Peptide: 3%
    • Laurocapram: 2%
    • Phenoxyethanol SA: 1%
      (หมายเหตุ: นี่คือสูตรตัวอย่าง ไม่ใช่ลิงก์ไปยังหน้าสินค้าค่ะ)
  • การทำความสะอาดอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการ: การล้างบิ๊กเกอร์ หลอดหยด และแท่งแก้วคนสารด้วยน้ำยาล้างจานทั่วไปมีประสิทธิภาพในการขจัดคราบต่างๆ และเป็นวิธีที่นิยมใช้ค่ะ การล้างด้วยน้ำสะอาดตามให้ทั่วถึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อขจัดคราบสบู่ออกไป การต้มน้ำร้อนก็สามารถใช้เพื่อฆ่าเชื้อได้ แต่เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการขจัดคราบน้ำมันหรือไขมัน การล้างด้วยน้ำยาล้างจานตามด้วยการล้างน้ำสะอาดให้ทั่วถึงก็เพียงพอสำหรับการผสมสูตรทั่วไปค่ะ

  • ปัญหาการเกิดคราบไคลในครีมเนื้อเจล: ปัญหาการเกิดคราบไคล (Pilling) ในครีมเนื้อเจลมักเกิดจากโพลิเมอร์ที่ใช้สร้างเนื้อเจลไม่ได้รับการกระจายตัวหรือไฮเดรตอย่างเหมาะสมระหว่างการผสม หรือเกิดจากการใช้ความเร็วหรือระยะเวลาในการปั่นที่ไม่ถูกต้องค่ะ นอกจากนี้ยังอาจเกิดขึ้นได้หากมีการเพิ่มส่วนผสมที่รบกวนโครงสร้างของเจลมากเกินไป การปฏิบัติตามคำแนะนำการผสมเฉพาะสำหรับสารสร้างเนื้อเจลที่คุณใช้ รวมถึงความเร็วและเวลาในการปั่นที่แนะนำ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการเกิดคราบไคลค่ะ การที่คุณไม่พบปัญหานี้เมื่อใช้ Satin Cream Maker (ซึ่งสร้างเนื้อครีมอิมัลชัน ไม่ใช่เนื้อเจล) บ่งชี้ว่าปัญหาเกี่ยวข้องกับส่วนผสมที่สร้างเนื้อเจลและกระบวนการผสมของส่วนผสมเหล่านั้น ไม่ใช่ลักษณะปกติของเนื้อเจลทุกชนิดค่ะ

  • ผลของการมีน้ำกลั่นน้อยเกินไปในสูตร: การมีน้ำกลั่นน้อยเกินไปในสูตรอาจทำให้เนื้อสูตรเหนียว เหนอะหนะ ทำให้ไม่น่าใช้ค่ะ แม้จะไม่มีเปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำที่ตายตัวสำหรับทุกสูตร แต่คำแนะนำทั่วไปคือ เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่สบายผิว ครีมบำรุงกลางวันไม่ควรมีน้ำกลั่นน้อยกว่า 70% และครีมบำรุงกลางคืนไม่ควรน้อยกว่า 60% ค่ะ นอกจากนี้ ปริมาณของส่วนน้ำมันในสูตรถูกจำกัดด้วยความสามารถของ Emulsifier ที่ใช้ หากเปอร์เซ็นต์ของน้ำต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับเปอร์เซ็นต์ของน้ำมัน คุณอาจใช้ปริมาณน้ำมันเกินกว่าที่ Emulsifier จะรับได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การแยกชั้นของสูตรได้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Ceramide Complex (CeraTouch™, Cream)
Ceramide Complex (CeraTouch™, Cream)
เครื่องสำอาง
Allantoin
Allantoin
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
เครื่องสำอาง
Olive Oil (Extra Virgin)
Olive Oil (Extra Virgin)
เครื่องสำอาง
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Small Molecule)
Hyaluronic Acid (Small Molecule)
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
NaturalProfile™ Sweet Almond Oil (Cold-Pressed)
NaturalProfile™ Sweet Almond Oil (Cold-Pressed)
เครื่องสำอาง
Evening Primrose Oil (Refined, 9% GLA)
Evening Primrose Oil (Refined, 9% GLA)
เครื่องสำอาง
Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)
Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)
เครื่องสำอาง
Natural Betaine (Crystal)
Natural Betaine (Crystal)
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Natural White Beeswax (USA, Melting 62C, Deodorized)
Natural White Beeswax (USA, Melting 62C, Deodorized)
เครื่องสำอาง
Cucumber Extract (France)
Cucumber Extract (France)
เครื่องสำอาง
Satin Cream Maker™
Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง
MOIST72™
MOIST72™
เครื่องสำอาง
WaterLock™ (Polyquaternium-51)
WaterLock™ (Polyquaternium-51)
เครื่องสำอาง
Butylene Glycol
Butylene Glycol
เครื่องสำอาง
Moringa Oil (Refined)
Moringa Oil (Refined)
เครื่องสำอาง
Soft Cream Maker™
Soft Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง
Butter Cream Maker™
Butter Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Wakame Extract (Brown Sea Weed)
Wakame Extract (Brown Sea Weed)
เครื่องสำอาง
Laurocapram (Water Soluble)
Laurocapram (Water Soluble)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Film (Tridecyl Trimellitate)
LipidSoft™ Film (Tridecyl Trimellitate)
เครื่องสำอาง
Ceramide 2 (Ceramide NG)
Ceramide 2 (Ceramide NG)
เครื่องสำอาง