การพัฒนาสูตรครีม Anti-Aging: ค่า pH, ปริมาณสารออกฤทธิ์, ปริมาณน้ำ และความคงตัว
คำถาม
กำลังพัฒนาสูตรครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับลดเลือนริ้วรอย (anti-aging) โดยใช้สารออกฤทธิ์หลายชนิด มีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำสูตรดังนี้ค่ะ:
- ค่า pH ควรวัดได้ที่ pH 4.0-7.0 หลังทำครีมเสร็จแล้วใช่หรือไม่?
- ปริมาณสาร active ละลายในน้ำ รวมกันแล้วจะต้องไม่ควรเกินกี่%คะ?
- ปริมาณน้ำ Distilled Water ที่ต้องใช้ในสูตรครีมต้องใช้อย่างน้อยกี่%คะ?
- ใช้เครื่องตวง Digital สำหรับทำ bakery มาชั่งส่วนผสมเครื่องสำอางได้มั้ยคะ?
สูตรที่ใช้มีปริมาณสารออกฤทธิ์รวมค่อนข้างสูง ต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและการปรับสูตรค่ะ
คำตอบ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณสำหรับสูตรครีม anti-aging ที่แชร์มานะคะ ดิฉันได้ตรวจสอบส่วนผสมต่างๆ ในสูตรเบื้องต้นแล้วค่ะ สูตรนี้มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ (active ingredients) จำนวนมาก ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวในหลายด้าน ทั้งการลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใส และให้ความชุ่มชื้นค่ะ
อย่างไรก็ตาม การผสมสารออกฤทธิ์หลายชนิดในความเข้มข้นสูงเช่นนี้ อาจมีความท้าทายในเรื่องความเข้ากันได้ของส่วนผสม (compatibility) ความคงตัวของสูตร (stability) และอาจเพิ่มโอกาสในการระคายเคืองผิวได้ค่ะ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย
ดิฉันขอตอบคำถามที่คุณลูกค้าสอบถามมาก่อนนะคะ
คำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำสูตรครีมบำรุงหน้า
ค่า pH ควรวัดได้ที่ pH 4.0-7.0 หลังทำครีมเสร็จแล้ว?
ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 4.0-7.0 ค่ะ อย่างไรก็ตาม สำหรับสูตรที่มีสารออกฤทธิ์หลายชนิด การควบคุม pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับสารแต่ละตัวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สารออกฤทธิ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคงตัว จากส่วนผสมในสูตรของคุณลูกค้า ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับสารออกฤทธิ์ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงประมาณ 4-6 ค่ะ ดังนั้น การตั้งเป้า pH ในช่วง 4.0-6.0 อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเพื่อให้สารออกฤทธิ์ทำงานได้เต็มที่และลดโอกาสการระคายเคืองที่อาจเกิดจาก pH ที่สูงหรือต่ำเกินไปค่ะปริมาณสาร active ละลายในน้ำ รวมกันแล้วจะต้องไม่ควรเกินกี่%คะ?
ไม่มีข้อกำหนดตายตัวว่าปริมาณสาร active ที่ละลายในน้ำรวมกันแล้วจะต้องไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ค่ะ แต่การใช้สารออกฤทธิ์ในความเข้มข้นสูงเกินไป (เช่น 41% ในสูตรส่วนที่ 1 ของคุณลูกค้า) อาจทำให้สูตรไม่คงตัว แยกชั้น หรือทำให้เนื้อสัมผัสไม่ดี นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงในการระคายเคืองผิวอย่างมากค่ะ โดยทั่วไปแล้วในสูตรเครื่องสำอาง ปริมาณสารออกฤทธิ์รวมมักจะอยู่ในช่วงที่ต่ำกว่านี้มาก การใช้สารออกฤทธิ์หลายชนิดร่วมกันควรพิจารณาถึงความเข้มข้นที่แนะนำสำหรับสารแต่ละตัว และผลรวมเมื่อใช้ร่วมกันค่ะปริมาณน้ำ Distilled Water ที่ต้องใช้ในสูตรครีมต้องใช้อย่างน้อยกี่%คะ?
ไม่มีปริมาณขั้นต่ำที่ตายตัวสำหรับน้ำกลั่นในสูตรครีมค่ะ ปริมาณน้ำที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับปริมาณรวมของส่วนผสมอื่นๆ ในสูตร และประเภทของเนื้อครีมที่ต้องการ (เช่น เนื้อหนักหรือเนื้อเบา) น้ำเป็นส่วนประกอบหลักของวัฏภาคที่เป็นน้ำ (water phase) ซึ่งจำเป็นต่อการละลายสารที่ละลายน้ำได้และการสร้างอิมัลชันค่ะ สิ่งสำคัญคือควรใช้น้ำกลั่น (Distilled Water) หรือน้ำ Deionized Water ที่มีความบริสุทธิ์สูง เพื่อป้องกันไอออนในน้ำประปาไปรบกวนความคงตัวของสูตรค่ะใช้เครื่องตวง Digital สำหรับทำ bakery ได้มั้ยคะ?
สามารถใช้เครื่องชั่งดิจิทัลสำหรับทำเบเกอรี่ได้ค่ะ แต่ควรเลือกเครื่องชั่งที่มีความละเอียดเพียงพอสำหรับการชั่งส่วนผสมเครื่องสำอาง ซึ่งมักใช้ในปริมาณน้อยๆ โดยเฉพาะสารออกฤทธิ์ที่ใช้ในอัตราส่วนต่ำๆ แนะนำให้ใช้เครื่องชั่งที่สามารถวัดได้ละเอียดถึงทศนิยม 2 ตำแหน่ง (0.01 กรัม) เพื่อให้ได้ปริมาณส่วนผสมที่แม่นยำค่ะ
การประเมินและปรับสูตร
สูตรที่คุณลูกค้าให้มามีส่วนผสมที่ดีหลายชนิดที่มีคุณสมบัติ anti-aging และช่วยเรื่องความกระจ่างใสค่ะ อย่างไรก็ตาม ด้วยปริมาณสารออกฤทธิ์ที่รวมกันค่อนข้างสูง (ประมาณ 66% ของสูตร) อาจทำให้เกิดปัญหาดังที่กล่าวไปข้างต้นได้ค่ะ
หากต้องการปรับสูตรโดยเน้น Centella Asiatica Extract (Madecassoside) และยังคงคุณสมบัติ anti-aging และ brightening ดิฉันขอแนะนำให้พิจารณาปรับลดปริมาณสารออกฤทธิ์บางชนิดลง และเลือกใช้สารออกฤทธิ์ที่มีคุณสมบัติเสริมกัน เพื่อให้สูตรมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และคงตัวมากขึ้นค่ะ
ข้อเสนอแนะในการปรับสูตร (ตัวอย่าง):
- ลดปริมาณสารออกฤทธิ์รวม: พิจารณาเลือกใช้สารออกฤทธิ์หลักๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณลูกค้าจริงๆ และลดปริมาณสารอื่นๆ ที่อาจมีคุณสมบัติซ้ำซ้อนกัน หรือใช้ในปริมาณที่ต่ำลงตามช่วงที่แนะนำของแต่ละสาร
- ตรวจสอบความเข้ากันได้และ pH: สารออกฤทธิ์บางชนิดมีช่วง pH ที่ทำงานได้ดีแตกต่างกัน การรวมสารหลายชนิดอาจทำให้ยากต่อการควบคุม pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับทุกตัว ควรตรวจสอบข้อมูลของสารแต่ละชนิดและปรับ pH ของสูตรให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสารออกฤทธิ์หลักที่ต้องการเน้นค่ะ
- ขั้นตอนการผสม: สารออกฤทธิ์บางชนิด เช่น Resveratrol และ Oxyresveratrol เป็นผงที่ต้องละลายในตัวทำละลายเฉพาะก่อนนำไปผสมในสูตรน้ำ ควรปรับขั้นตอนการผสมให้ถูกต้องตามคำแนะนำของสารแต่ละชนิด นอกจากนี้ Coenzyme Q10 และ Full & Lift เป็นสารที่ละลายในน้ำมันและอาจต้องใช้ความร้อนในการละลาย ควรปรับขั้นตอนการผสมวัฏภาคน้ำมันให้เหมาะสมกับการละลายสารเหล่านี้ค่ะ
- ระบบกันเสีย: Phenoxyethanol SA (Optiphen Plus) ที่ใช้ 0.5% อาจไม่เพียงพอสำหรับการป้องกันเชื้อในสูตรที่มีส่วนผสมหลากหลายและอยู่ในบรรจุภัณฑ์แบบกระปุก (ซึ่งมีการเปิด-ปิดบ่อย) แนะนำให้เพิ่มปริมาณเป็น 1.0-1.25% หรือพิจารณาระบบกันเสียอื่นๆ ที่เหมาะสม และ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการทดสอบ Challenge Test เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของระบบกันเสียในสูตรสำเร็จรูปค่ะ
- สูตร Night Cream: การเปลี่ยนน้ำเป็น Rose Water และเพิ่ม Evening Primrose Oil สามารถทำได้ค่ะ แต่ต้องคำนวณปริมาณวัฏภาคน้ำและน้ำมันใหม่ และตรวจสอบว่าปริมาณวัฏภาคน้ำมันรวมยังอยู่ในช่วงที่ Satin Cream Maker สามารถทำอิมัลชันได้ (ไม่เกิน 25%)
ตัวอย่างการปรับสูตร (เพื่อลดความซับซ้อนและปริมาณ Active รวม):
หากเน้น Centella Asiatica Extract (Madecassoside) เป็นหลัก อาจพิจารณาสูตรที่เรียบง่ายขึ้น เช่น:
- Centella Asiatica Extract (Madecassoside): 1-2% (ตามที่คุณลูกค้าต้องการ)
- สารออกฤทธิ์ Anti-aging/Brightening อื่นๆ ที่เสริมฤทธิ์กันและเข้ากันได้ดี (เลือก 2-3 ชนิด): เช่น Safe-B3™ (Niacinamide) 3-5%, Acetyl Hexapeptide-8 (Argireline) 3-5%, หรือ Tranexamic Acid 3%
- สารให้ความชุ่มชื้น/ลดการระคายเคือง: Allantoin 0.5%, น้ำมันบำรุงผิว (เช่น Argan Oil, Rose Hip Oil, Avocado Oil) รวม 5-10%
- Cream Maker: Satin Cream Maker 1-2% (ปรับตามปริมาณน้ำมันที่ใช้)
- สารกันเสีย: Phenoxyethanol SA (Optiphen Plus) 1.0-1.25%
- Disodium EDTA: 0.2%
- น้ำกลั่น หรือ Rose Water (สำหรับ Night Cream): ส่วนที่เหลือ
สูตรนี้เป็นเพียงตัวอย่างแนวทางในการปรับลดความซับซ้อนและปริมาณสารออกฤทธิ์รวมค่ะ การปรับสูตรจริงควรพิจารณาจากผลลัพธ์ที่ต้องการ ลักษณะผิวของผู้ใช้ และทำการทดสอบความคงตัวและประสิทธิภาพของสูตรอย่างละเอียดค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสูตรของคุณลูกค้านะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Alpha Arbutin (Switzerland)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Allantoin

Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)

Rose Hip Oil (Extra Virgin Organic)

Argan Oil (Organic - Virgin - Deodorized)

Avocado Oil (Refined)

Vitamin E (dl-alpha tocopherol)

Disodium EDTA

Azelaic Acid (Liquid Azelaic™, e.q. Azeloglicina)

Satin Cream Maker™

DMAE (SkinTight MD™) Liquid

Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)

Coenzyme Q10 (98%, Powder, Oil-Soluble)

Dipalmitoyl Hydroxyproline (DPHP)

AcneBee™ Extra สารสกัดนมผึ้ง
