การพัฒนาสูตรคลีนซิ่ง/ชาวเวอร์ออยล์: ส่วนผสม, การละลาย, การกันเสีย และการกระจายกลิ่นน้ำมันหอมระเหย

ถามโดย: autumn1902 เมื่อ: March 26, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

สนใจทำ Cleansing Oil / Shower Oil ที่มีคอนเซ็ปท์คล้ายแบรนด์ THREE ที่เน้นน้ำมันธรรมชาติและ Essential Oil โดยจะใช้สำหรับล้าง/เช็ดหน้า (เพื่อละลายเครื่องสำอาง) และใช้กับผิวกายด้วย

สูตรที่เสนอคือ:

  • Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate) 10%
  • น้ำมันออแกนิก 75% + เอสเซนเชียลออยล์ 10%
  • Licorice Extract (Licochalcone A 1.5%)

มีคำถามดังนี้ค่ะ:

  1. เกี่ยวกับส่วนผสมในสูตรที่เสนอ:
    • Coco Wash™ เหมาะสมหรือไม่?
    • สัดส่วนของน้ำมันออแกนิกและเอสเซนเชียลออยล์เหมาะสมหรือไม่?
    • สามารถใช้ Licorice Extract (Licochalcone A 1.5%) ในสูตรน้ำมันนี้ได้หรือไม่?
  2. Phenoxyethanol กับ Vitamin E ต่างกันอย่างไร และควรใช้อะไรในการกันเสีย?
  3. สามารถใช้ Polysorbate 80 ในสูตรนี้ได้หรือไม่?
  4. ขั้นตอนการผสมสำหรับสูตรลักษณะนี้ควรเป็นอย่างไร?
  5. อีกคำถามคือ การใช้ Cera Alba (White Beeswax) ละลายน้ำมันหอมระเหยบนเตา เป็นวิธีที่แนะนำสำหรับการกระจายกลิ่นหรือไม่? กังวลเรื่องสารพิษจากพาราฟินด้วยค่ะ

คำตอบ

คำแนะนำสำหรับออยล์ล้างหน้าและอาบน้ำ

จากคำถามและความสนใจในการทำออยล์ล้างหน้า/อาบน้ำที่คล้ายคลึงกับแบรนด์ Three ซึ่งเน้นส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติและเอสเซนเชียลออยล์ รวมถึงคำถามเกี่ยวกับส่วนผสมและขั้นตอนการผสม ขอให้ข้อมูลและคำแนะนำดังนี้ค่ะ

สูตรออยล์ล้างหน้า/อาบน้ำที่คุณเสนอ

สูตรที่คุณเสนอมาคือ:

  • Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate) 10%
  • น้ำมันออแกนิก 75% + เอสเซนเชียลออยล์ 10%
  • Licorice Extract (Licochalcone A 1.5%)

และมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Phenoxyethanol, Vitamin E, Polysorbate 80 และขั้นตอนการผสม

การวิเคราะห์ส่วนผสมและสูตร

  1. Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate): ส่วนผสมนี้ (รหัสสินค้า 196) เป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุ (non-ionic surfactant) ที่อ่อนโยน ได้มาจากน้ำมันมะพร้าว มีคุณสมบัติช่วยในการทำความสะอาดและทำให้สูตรน้ำมันสามารถผสมเข้ากับน้ำและล้างออกได้ง่ายโดยไม่ทิ้งความมันบนผิว การใช้ที่ 10% เหมาะสมสำหรับสูตร Cleansing Oil ที่ต้องการประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรก
  2. น้ำมันออแกนิก (75%) + เอสเซนเชียลออยล์ (10%): ส่วนผสมหลักในส่วนของน้ำมัน เช่น Jojoba Oil (รหัสสินค้า 87) เป็นเบสที่ดีสำหรับ Cleansing Oil เพราะช่วยละลายเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกได้ดี อย่างไรก็ตาม การใช้เอสเซนเชียลออยล์ในความเข้มข้นสูงถึง 10% ถือว่าค่อนข้างสูงมากสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้าหรือผิวกาย แม้ว่าแบรนด์ที่คุณกล่าวถึงจะเน้นเอสเซนเชียลออยล์ แต่โดยทั่วไปแล้ว ความเข้มข้นที่แนะนำสำหรับการใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ล้างออกคือ 1-3% เพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคืองหรือการแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเอสเซนเชียลออยล์บางชนิดที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย หากต้องการทำสูตรที่เน้นเอสเซนเชียลออยล์ ควรศึกษาข้อมูลความปลอดภัยของเอสเซนเชียลออยล์แต่ละชนิดอย่างละเอียดและอาจพิจารณาลดความเข้มข้นลง แล้วเพิ่มสัดส่วนของน้ำมันออแกนิกแทน
  3. Licorice Extract (Licochalcone A 1.5%): สารสกัดจากชะเอมเทศชนิด Licochalcone A ที่คุณกล่าวถึง (รหัสสินค้า 69) เป็นชนิดที่ ละลายในน้ำ ตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ การนำสารที่ละลายในน้ำไปผสมโดยตรงกับส่วนผสมหลักที่เป็นน้ำมันและสารลดแรงตึงผิวที่ละลายในน้ำมัน/น้ำ จะทำให้สารสกัดไม่ละลายเข้ากันและอาจแยกชั้นได้ หากต้องการใส่สารสกัดจากชะเอมเทศในสูตร Cleansing Oil ที่เป็นเบสน้ำมันทั้งหมด ควรเลือกใช้สารสกัดชะเอมเทศชนิดที่ ละลายในน้ำมัน เช่น Glycyrrhizic acid (Oil Soluble Licorice Extract) (รหัสสินค้า 127336) แทน หรือหากยืนยันจะใช้ชนิดที่ละลายในน้ำ คุณจะต้องปรับสูตรให้มีส่วนของน้ำและใช้ Emulsifier ที่เหมาะสมเพื่อเชื่อมส่วนน้ำและน้ำมันเข้าด้วยกัน ซึ่งจะทำให้สูตรซับซ้อนขึ้นและจำเป็นต้องใช้สารกันเสีย

Phenoxyethanol vs. Vitamin E

  • Phenoxyethanol (รหัสสินค้า 155) คือ สารกันเสีย มีหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์ จำเป็นต้องใช้ในสูตรที่มีส่วนผสมของน้ำ หรือมีโอกาสปนเปื้อนน้ำระหว่างการใช้งาน เพื่อป้องกันผลิตภัณฑ์เสื่อมสภาพและไม่ปลอดภัย
  • Vitamin E (เช่น dl-alpha tocopherol, รหัสสินค้า 135) คือ สารต้านอนุมูลอิสระ มีหน้าที่ช่วยชะลอการเหม็นหืนของน้ำมันในสูตร ช่วยยืดอายุของน้ำมัน แต่ ไม่สามารถ ป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้

ดังนั้น หากสูตรของคุณมีส่วนผสมของน้ำ (เช่น จากสารสกัด Licorice Extract ชนิดน้ำ) หรือคาดว่าจะมีการปนเปื้อนน้ำ (ซึ่งเป็นไปได้สูงสำหรับผลิตภัณฑ์อาบน้ำ/ล้างหน้า) คุณ จำเป็น ต้องใช้ Phenoxyethanol หรือสารกันเสียที่เหมาะสมอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ การใช้ Vitamin E เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอ ในการป้องกันการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์

Polysorbate 80 (Tween 80)

Polysorbate 80 (รหัสสินค้า 176) เป็นสารลดแรงตึงผิว/Solubilizer อีกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับ PEG-7 Glyceryl Cocoate (Coco Wash™) คือช่วยให้น้ำมันผสมเข้ากับน้ำและล้างออกได้ คุณสามารถใช้ Polysorbate 80 แทน หรือใช้ร่วมกับ Coco Wash™ ในสูตร Cleansing Oil ได้ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติการชะล้างและการล้างออกที่ต้องการ

ขั้นตอนการผสม

สำหรับสูตร Cleansing Oil ที่เป็นเบสน้ำมันและใช้สารลดแรงตึงผิวที่ละลายในน้ำมัน/น้ำได้ (เช่น Coco Wash™ หรือ Polysorbate 80) ขั้นตอนการผสมค่อนข้างง่าย โดยทั่วไปคือ:

  1. ผสมน้ำมันออแกนิกทั้งหมดเข้าด้วยกัน
  2. เติมสารลดแรงตึงผิว (Coco Wash™ หรือ Polysorbate 80) และ Vitamin E (ถ้าใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ) ลงในส่วนผสมน้ำมัน คนให้เข้ากันดี
  3. เติมเอสเซนเชียลออยล์ คนให้เข้ากัน
  4. หากใช้สารสกัดที่ละลายในน้ำมัน (เช่น Glycyrrhizic acid) ให้เติมในขั้นตอนนี้และคนให้ละลาย
  5. หากสูตรมีส่วนของน้ำและใช้สารกันเสีย (เช่น Phenoxyethanol) จะต้องผสมส่วนน้ำแยกต่างหาก แล้วค่อยๆ เทส่วนน้ำลงในส่วนน้ำมันพร้อมคนอย่างต่อเนื่อง หรือใช้ Emulsifier ที่เหมาะสมเพื่อเชื่อมทั้งสองส่วนเข้าด้วยกัน (ซึ่งจะซับซ้อนกว่าสูตรน้ำมันล้วน)

จากสูตรที่คุณเสนอ หากตัด Licorice Extract ชนิดน้ำออกไป สูตรจะเป็นน้ำมันล้วนผสมสารลดแรงตึงผิว การผสมก็จะเป็นการรวมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วคนให้เข้ากันดีค่ะ

คำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cera Alba (White Beeswax)

Cera Alba หรือ White Beeswax เป็นไขธรรมชาติที่ใช้เพิ่มความหนืดหรือทำให้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมันแข็งตัว เช่น บาล์ม หรือน้ำหอมแห้ง

การใช้ Beeswax เพื่อละลายน้ำมันหอมระเหยบนเตา ไม่ใช่วิธีที่แนะนำ สำหรับการกระจายกลิ่น (diffusion) ค่ะ น้ำมันหอมระเหยเป็นสารที่ระเหยได้ง่าย การนำไปให้ความร้อนสูงบนเตาพร้อมกับไขผึ้งจะทำให้น้ำมันหอมระเหยระเหยไปอย่างรวดเร็ว คุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยอาจเปลี่ยนแปลงไป และอาจมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยได้

วิธีการกระจายกลิ่นน้ำมันหอมระเหยที่เหมาะสมและปลอดภัยกว่า ได้แก่:

  • ใช้เครื่องพ่นไอน้ำ (Ultrasonic Diffuser)
  • ใช้เตาน้ำมันหอมระเหยแบบใช้เทียน (Ceramic Oil Burner) โดยผสมน้ำมันหอมระเหยกับน้ำเล็กน้อย
  • หยดลงบนวัสดุที่ดูดซับได้ เช่น สำลี หินภูเขาไฟ หรือก้านไม้กระจายกลิ่น

ส่วนเรื่องพาราฟินที่อาจก่อสารพิษนั้น พาราฟินแว็กซ์ที่ใช้ในเครื่องสำอางหรืออาหาร (Food-grade paraffin wax) โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้งานตามวัตถุประสงค์ แต่หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงพาราฟิน Beeswax เป็นทางเลือกจากธรรมชาติที่ดีสำหรับการเพิ่มความหนืดในผลิตภัณฑ์น้ำมัน แต่ไม่ใช่สำหรับการนำไปละลายบนเตาเพื่อกระจายกลิ่นค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามได้เลยค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
เครื่องสำอาง
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Polysorbate 80 (Tween 80)
Polysorbate 80 (Tween 80)
เครื่องสำอาง
Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate)
Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate)
เครื่องสำอาง
Glycyrrhizic acid (Oil Soluble Licorice Extract)
Glycyrrhizic acid (Oil Soluble Licorice Extract)
เครื่องสำอาง