การพัฒนาสูตรชาวเวอร์เจลอ่อนโยนให้ความชุ่มชื้นสำหรับผิวแพ้ง่าย

ถามโดย: kitamorn เมื่อ: April 24, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังพัฒนาสูตรชาวเวอร์เจลที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวแห้งมากๆ มีคำถามเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรดังนี้ค่ะ:

  1. ส่วนผสมสารลดแรงตึงผิว (Lauryl Glucoside, Coco-Betaine, Creamy Foamer™, และ Coco Glucoside + PCA Glyceryl Oleate) เหมาะสมกับการทำชาวเวอร์เจลสำหรับผิวแพ้ง่ายหรือไม่? และมีลำดับการผสมที่แนะนำอย่างไร?
  2. Creamy Foamer™ ทำงานได้ดีที่สุดที่ pH 6.3 หากปรับ pH ของชาวเวอร์เจลไปที่ 5.5 ประสิทธิภาพของ Creamy Foamer™ จะยังคงดีอยู่หรือไม่?
  3. วางแผนจะเพิ่ม Glycerin, Propylene Glycol, Panthenol, Poly-Conditioner Pro, และ EasyThick เข้าไปในสูตร ส่วนผสมเหล่านี้เหมาะสมและไม่ซ้ำซ้อนกันใช่ไหมคะ? และมีอัตราการใช้ที่แนะนำเท่าไหร่?
  4. ต้องการใส่น้ำผึ้งดิบลงในสูตร สามารถทำได้หรือไม่? มีปัญหาอะไรบ้าง และมีอัตราการใช้ที่แนะนำหรือมีสารอื่นที่ใช้แทนได้ไหม?
  5. มีขั้นตอนการผสมที่แนะนำสำหรับส่วนผสมทั้งหมดอย่างไรบ้าง รวมถึงส่วนของน้ำ ส่วนของสารลดแรงตึงผิว สารเพิ่มความข้น และส่วนผสมอื่นๆ?
  6. Phenoxyethanol เพียงพอที่จะใช้เป็นสารกันเสียสำหรับสูตรนี้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างน้ำผึ้ง?
  7. จำเป็นต้องใช้สารช่วยละลาย (Solubilizer) เช่น Flora Solve Clear เพื่อผสมน้ำมันหอมระเหยหรือไม่? หากจำเป็น ต้องใช้อย่างไรและในอัตราส่วนเท่าไหร่?

คำตอบ

คำแนะนำสำหรับการผสมชาวเวอร์เจลที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้น

ขอบคุณที่สอบถามเข้ามาค่ะ การที่คุณตั้งใจจะผสมชาวเวอร์เจลที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวแห้งมากๆ เป็นความคิดที่ดีค่ะ เรามาดูสูตรที่คุณเสนอและคำถามต่างๆ กันนะคะ

1. ความเหมาะสมของส่วนผสมสารลดแรงตึงผิว

ส่วนผสมสารลดแรงตึงผิวที่คุณเสนอ ได้แก่ Lauryl Glucoside (ไม่มีประจุ), Coco-Betaine (แอมโฟเทอริก), Creamy Foamer™ (ประจุลบ), และ Coco Glucoside + PCA Glyceryl Oleate (ไม่มีประจุ/สารปรับสภาพผิว) ถือเป็นส่วนผสมที่เหมาะสมและสมดุลสำหรับการทำชาวเวอร์เจลที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้น การผสมสารลดแรงตึงผิวประเภทต่างๆ (ประจุลบ, ไม่มีประจุ, แอมโฟเทอริก) มักจะช่วยให้สูตรมีความอ่อนโยนมากขึ้น ให้ฟองที่ดีขึ้น และมีความคงตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้สารลดแรงตึงผิวเพียงชนิดเดียว ปริมาณสารออกฤทธิ์รวม (ASM) ประมาณ 17% ถือว่าเหมาะสมสำหรับชาวเวอร์เจล

ลำดับการผสม: โดยทั่วไปแล้ว จะเตรียมส่วนของน้ำก่อน โดยผสมส่วนผสมที่ละลายน้ำและสารเพิ่มความข้น จากนั้นจึงนำสารลดแรงตึงผิวมาผสมรวมกันเบาๆ ในภาชนะแยกต่างหาก เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดฟองมากเกินไป สุดท้ายจึงค่อยๆ เติมส่วนผสมสารลดแรงตึงผิวที่ผสมแล้วลงในส่วนของน้ำ พร้อมกับคนเบาๆ ขั้นตอนการผสมโดยละเอียดจะอธิบายในข้อ 5

2. ประสิทธิภาพของ CreamyFoamer™ ที่ pH 5.5

Creamy Foamer™ ระบุว่าให้ฟองดีที่สุดที่ pH 6.3 การปรับลด pH ลงมาที่ 5.5 อาจทำให้ประสิทธิภาพในการให้ฟองของ Creamy Foamer™ ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่า pH ที่เหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ตาม ส่วนผสมสารลดแรงตึงผิวโดยรวมที่คุณเลือกมานั้นถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกัน Lauryl Glucoside และ Coco-Betaine จะช่วยเสริมการสร้างฟองและความคงตัวของฟองได้อย่างดี คุณยังคงจะได้ฟองในระดับที่น่าพอใจจากส่วนผสมที่คุณเสนอที่ pH 5.5 ซึ่งเป็นค่า pH ที่เหมาะสมกับผิว

3. ส่วนผสมเสริมอื่นๆ และคำแนะนำ

ส่วนผสมเสริมที่คุณเลือกมานั้นเหมาะสมสำหรับการทำชาวเวอร์เจลที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้น:

  • Glycerin และ Propylene Glycol: ทั้งสองเป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ดีเยี่ยม ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว ลดความแห้งตึงจากสารลดแรงตึงผิว และยังเป็นตัวทำละลายด้วย คุณสามารถใช้ร่วมกันได้ เช่น Glycerin 5-10% และ Propylene Glycol 3-5% โดยปรับตามความรู้สึกที่ต้องการและความใสของสูตร
  • Panthenol: โปรวิตามินบี 5 เป็นส่วนผสมที่ดีมากสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวแห้ง ช่วยปลอบประโลมผิว ให้ความชุ่มชื้น เสริมเกราะป้องกันผิว และช่วยสมานผิว แนะนำให้ใช้ในอัตรา 1-3% เพื่อประโยชน์ต่อผิวในผลิตภัณฑ์ล้างออก
  • Poly-Conditioner Pro: สารปรับสภาพผิวชนิดนี้ช่วยให้ผิวรู้สึกนุ่มลื่นหลังล้างออก ลดความรู้สึกแห้งตึงที่มักเกิดจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว อัตราการใช้ทั่วไปอยู่ที่ 0.2-0.5%
  • EasyThick: เป็นสารเพิ่มความข้นที่เหมาะสมกับระบบสารลดแรงตึงผิวของคุณ เพื่อให้ได้เนื้อเจลตามที่ต้องการ อัตราการใช้จะขึ้นอยู่กับความหนืดที่ต้องการ โดยทั่วไปอยู่ในช่วง 3-15%

ส่วนผสมเหล่านี้ไม่ได้ซ้ำซ้อนกัน และทำงานเสริมกันได้ดีเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้น

4. การผสมน้ำผึ้งดิบ

แม้ว่าน้ำผึ้งดิบจะมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ แต่การนำมาใช้ในสูตรเครื่องสำอางที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เช่น ชาวเวอร์เจล ไม่แนะนำ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง:

  • การปนเปื้อนจุลินทรีย์: น้ำผึ้งดิบไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อและอาจมีแบคทีเรียและสปอร์ที่สามารถเจริญเติบโตได้ง่ายในสูตรที่มีน้ำ ทำให้ผลิตภัณฑ์เสียและอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ แม้จะใส่สารกันเสียแล้วก็ตาม
  • ความไม่คงตัว: ส่วนผสมจากธรรมชาติอาจไม่คงตัวและส่งผลต่อความคงตัวโดยรวมของสูตร (ความหนืด ความใส สี กลิ่น)
  • ความท้าทายในการกันเสีย: การกันเสียสูตรที่มีน้ำผึ้งดิบเป็นเรื่องที่ท้าทายและอาจต้องใช้สารกันเสียในปริมาณสูงขึ้นหรือใช้สารกันเสียหลายชนิดร่วมกัน Phenoxyethanol เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ

เพื่อความปลอดภัยและความคงตัว แนะนำอย่างยิ่งให้ใช้ Honey Extract (ชนิดละลายน้ำ) เกรดเครื่องสำอาง แทนน้ำผึ้งดิบ หากคุณเลือกใช้สารสกัด อัตราการใช้ทั่วไปอาจอยู่ที่ 0.5-2% หากคุณยังคงต้องการใช้น้ำผึ้งดิบ แม้จะมีความเสี่ยง ควรนำไปพาสเจอร์ไรส์ก่อน (แม้ว่าจะลดคุณสมบัติบางอย่างลง) และใช้ในปริมาณที่ต่ำมาก (เช่น ไม่เกิน 1-2%) ร่วมกับระบบสารกันเสียที่มีประสิทธิภาพสูง และจำเป็นต้องทำการทดสอบ Challenge Test เพื่อยืนยันความคงตัวทางจุลินทรีย์ การใช้ส่วนผสมอาหารดิบในสูตรเครื่องสำอางโดยทั่วไปไม่แนะนำเนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัยและความคงตัว

5. การแยกส่วนผสมตามเฟส

นี่คือขั้นตอนการผสมที่แนะนำ:

  1. ส่วนของน้ำ (Water Phase): ในภาชนะ ให้ใส่น้ำ หากใช้ EasyThick หรือ Poly-Conditioner Pro ให้กระจายผงลงในน้ำพร้อมคนหรือปั่นอย่างต่อเนื่อง (บางชนิดอาจต้องใช้ความร้อนหรือมีวิธีการกระจายผงเฉพาะ) เมื่อผงกระจายตัว/ละลายแล้ว ให้เติม Glycerin, Propylene Glycol, และ Panthenol คนจนส่วนผสมที่ละลายน้ำทั้งหมดละลายเข้ากัน หากใช้ความร้อนในการละลาย ให้รอจนเย็นลง
  2. ส่วนของสารลดแรงตึงผิว (Surfactant Phase): ในภาชนะแยกต่างหาก ค่อยๆ ผสม Lauryl Glucoside, Coco-Betaine, Creamy Foamer™, และ Coco Glucoside + PCA Glyceryl Oleate เข้าด้วยกันอย่างเบามือ หลีกเลี่ยงการคนแรงๆ ที่จะทำให้เกิดฟอง
  3. รวมส่วนผสม: ค่อยๆ เทส่วนผสมสารลดแรงตึงผิวลงในส่วนของน้ำ พร้อมกับคนเบาๆ คนต่อไปจนส่วนผสมเข้ากันดีและเริ่มมีความหนืดตามที่ต้องการ (EasyThick จะช่วยเพิ่มความหนืด)
  4. เติมส่วนผสมที่เหลือ: เติมสารกันเสีย (Phenoxyethanol) หากใช้น้ำมันหอมระเหย ให้เติมส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยที่ผสมกับ Flora Solve Clear ไว้แล้ว (ดูข้อ 7) หากใช้ Honey Extract ให้เติมในขั้นตอนนี้
  5. ปรับ pH: วัดค่า pH ของส่วนผสม ค่อยๆ เติมสารละลาย Citric Acid หรือ Lactic Acid แบบเจือจางลงไปทีละน้อย พร้อมกับคนเบาๆ จนกระทั่งได้ค่า pH ที่ 5.5
  6. ขั้นตอนสุดท้าย: คนเบาๆ อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมเข้ากันดี ปล่อยผลิตภัณฑ์ทิ้งไว้หลายชั่วโมงหรือข้ามคืน เพื่อให้ฟองอากาศที่ติดอยู่ลอยขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความใสขึ้น

6. ความเหมาะสมของสารกันเสีย

Phenoxyethanol เป็นสารกันเสียที่นิยมใช้และโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ตามคำอธิบายของผลิตภัณฑ์ ระบุว่ามีประสิทธิภาพหลักในการยับยั้งแบคทีเรีย แต่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าในการยับยั้งเชื้อรา (ยีสต์และรา) สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้ง ซึ่งอาจมีปริมาณจุลินทรีย์เริ่มต้นสูง การใช้ Phenoxyethanol เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการให้การป้องกันที่ครอบคลุมต่อจุลินทรีย์ทุกชนิด ควรพิจารณาใช้สารกันเสียที่เป็น Broad-spectrum หรือใช้ Phenoxyethanol ร่วมกับสารกันเสียอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อรา หรือเลือกใช้สารกันเสีย Broad-spectrum เช่น Mild Preserved Eco™ หรือ Phenoxyethanol SA เพื่อความคงตัวทางจุลินทรีย์ที่ดีขึ้นโดยรวม ควรทำการทดสอบ Challenge Test กับสูตรสุดท้ายของคุณเสมอ เพื่อยืนยันว่าระบบสารกันเสียมีประสิทธิภาพเพียงพอ

7. การละลายน้ำมันหอมระเหย

ใช่ คุณ ต้อง ใช้สารช่วยละลาย (Solubilizer) เช่น Flora Solve Clear เพื่อผสมน้ำมันหอมระเหยเข้ากับสูตรชาวเวอร์เจลที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ น้ำมันหอมระเหยไม่ละลายน้ำและจะแยกชั้นหากไม่ใช้สารช่วยละลาย ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่คงตัวและอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวจากหยดน้ำมันที่ไม่เจือจางได้ คำอธิบายของ Flora Solve Clear ยืนยันว่าใช้สำหรับละลายน้ำมันหอมระเหยในผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ

วิธีใช้ Flora Solve Clear:
ผสมน้ำมันหอมระเหยกับ Flora Solve Clear ในภาชนะแยกต่างหากก่อน อัตราส่วนที่แนะนำโดยทั่วไปคือ Flora Solve Clear 2-5 ส่วน ต่อน้ำมันหอมระเหย 1 ส่วน ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมัน คนหรือปั่นส่วนผสมนี้จนใสเข้ากันดี ก่อนนำไปเติมลงในสูตรชาวเวอร์เจลหลักในขั้นตอนท้ายๆ ค่อยๆ เติมส่วนผสมน้ำมันที่ละลายแล้วลงในสูตรหลัก พร้อมกับคนเบาๆ

แผนการของคุณในการสร้างชาวเวอร์เจลที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นนั้นได้รับการพิจารณามาอย่างดี ด้วยการเลือกส่วนผสมอย่างรอบคอบและปฏิบัติตามเทคนิคการผสมที่ถูกต้อง คุณจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวแพ้ง่ายและผิวแห้งได้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
Propylene Glycol
Propylene Glycol
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Lauryl Glucoside
Lauryl Glucoside
เครื่องสำอาง
Coco Glucoside
Coco Glucoside
เครื่องสำอาง
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
เครื่องสำอาง
EasyThick ™ (viscous in shampoo/liquid soap)
EasyThick ™ (viscous in shampoo/liquid soap)
เครื่องสำอาง
Poly-Conditioner Pro (400 mPa.s)
Poly-Conditioner Pro (400 mPa.s)
เครื่องสำอาง
PCA Glyceryl Oleate
PCA Glyceryl Oleate
เครื่องสำอาง
Coco-Betaine (e.q. Dehyton AB30)
Coco-Betaine (e.q. Dehyton AB30)
เครื่องสำอาง