ตามสูตรน้ำมันธรรมชาติที่เน้นความชุ่มชื้นและต่อต้านริ้วรอยของคุณ มีคำแนะนำดังนี้ค่ะ

คำแนะนำการผสมสูตรน้ำมันธรรมชาติ

คุณต้องการสร้างสรรค์น้ำมันธรรมชาติสำหรับบำรุงผิวที่เน้นความชุ่มชื้นและต่อต้านริ้วรอย โดยต้องการให้ซึมไวและไม่ทิ้งความมันเงาบนผิว การที่น้ำมันบริสุทธิ์จะให้ความรู้สึกหนักและมันเงาเป็นเรื่องปกติค่ะ ตามที่ได้มีการแสดงความคิดเห็นในฟอรั่ม หัวใจสำคัญในการทำให้น้ำมันซึมไวขึ้นและไม่มันเงาคือการเลือกใช้น้ำมันหรือ Emollient ที่มีเนื้อบางเบา และอาจเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยให้เกลี่ยง่ายและซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น

1. ควรผสมตัวไหนดีที่จะทำให้ซึมไวไม่เหลือความมันเงาบนผิว?

เพื่อให้สูตรน้ำมันของคุณซึมไวขึ้นและรู้สึกไม่มันเงา ควรเพิ่มส่วนผสมที่เป็นน้ำมันหรือ Emollient ที่มีเนื้อบางเบาและให้สัมผัสแบบ Dry feel ค่ะ

• Squalane (Olive): เป็นตัวเลือกที่ดีมากและมีอยู่ในสูตรของคุณแล้ว มีโครงสร้างคล้ายกับน้ำมันตามธรรมชาติของผิว (Sebum) ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่เหนอะหนะ การเพิ่มเปอร์เซ็นต์ของ Squalane ในสูตรจะช่วยให้เนื้อสัมผัสดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• Fractionated Coconut Oil: เป็นน้ำมันที่มีเนื้อบางเบา ซึมง่าย ให้ความรู้สึกนุ่มลื่น ไม่เหนอะหนะ เป็นตัวเลือกที่ดีในการเพิ่มลงในสูตรหรือเพิ่มปริมาณขึ้น
• Hemisqualane (C13-15 Alkane): เป็น Squalane ที่สังเคราะห์ขึ้นจากอ้อย มีโครงสร้างโมเลกุลสั้นกว่า ทำให้มีเนื้อบางเบาและไม่เหนอะหน้ายิ่งขึ้น ให้สัมผัสที่นุ่มลื่นและซึมไวมากโดยไม่ทิ้งคราบ เป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมในการลดความมันเงา
• LipidSoft™ B (Dibutyl Adipate): แม้จะไม่ใช่น้ำมันธรรมชาติ แต่เป็น Emollient Ester ที่มีคุณสมบัติเด่นคือเนื้อบางเบา แห้งไว เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสที่นุ่มลื่น สามารถช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสของสูตรน้ำมันได้ดีมาก
• Dioctyl Adipate (DOA): เป็น Emollient Ester อีกชนิดที่ช่วยให้เนื้อสัมผัสบางเบาและเกลี่ยง่ายขึ้นในสูตรน้ำมัน

น้ำมันบางชนิด เช่น Jojoba Oil และ Rose Hip Oil แม้จะมีประโยชน์ต่อผิว แต่ก็อาจให้ความรู้สึกหนักกว่า โดยเฉพาะ Rose Hip Oil เนื่องจากมีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง การปรับสมดุลด้วยส่วนผสมที่เบาลงจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ

2. หากผสม Ethoxydiglycol จะช่วยได้ไหมคะ ผสมกี่ % ดีสำหรับผิวหน้าที่แพ้ง่าย?

Ethoxydiglycol เป็นหลักคือตัวทำละลาย (Solvent) และตัวนำพา (Carrier) ช่วยละลายส่วนผสมบางอย่างและช่วยนำพาส่วนผสมต่างๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น

• จะช่วยเรื่องเนื้อสัมผัสไหม? อาจช่วยให้สารออกฤทธิ์ซึมเข้าผิวได้เร็วขึ้นทางอ้อม แต่ไม่ได้ทำให้ตัวน้ำมันเองรู้สึกเบาลงหรือซึมไวขึ้นโดยตรงเหมือน Emollient เนื้อบางเบา หน้าที่หลักของมันคือการนำพาส่วนผสม
• เปอร์เซ็นต์สำหรับผิวแพ้ง่าย: Ethoxydiglycol สามารถเพิ่มการซึมผ่านของ ทุก ส่วนผสมในสูตร ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองสำหรับผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะหากมีสารออกฤทธิ์อื่นๆ อยู่ด้วย อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์ทาทิ้งไว้ (Leave-on) คือ ไม่เกิน 2.6% สำหรับผิวแพ้ง่าย ควรเริ่มใช้ในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำมาก (เช่น 0.5% - 1%) หรืออาจหลีกเลี่ยงไปเลยหากกังวลเรื่องการแพ้ และเน้นใช้ Emollient ที่ช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสโดยตรงแทนค่ะ

3. ต้องผสมสารกันเสียเพิ่มไหมคะ หากในน้ำมันธรรมชาติบางตัวมี Rosemary ผสมเป็น antioxidant ตามธรรมชาติมาอยู่แล้ว?

• ไม่จำเป็นต้องใส่สารกันเสียแบบดั้งเดิมในสูตรที่เป็นน้ำมันล้วนๆ ค่ะ
• น้ำมันธรรมชาติไม่มีส่วนประกอบของน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์เจริญเติบโตได้
• สารสกัดจาก Rosemary (Pure-Rosmarinic90™) ทำหน้าที่เป็น สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำมันในสูตรเหม็นหืน (Oxidation) ซึ่งเป็นการยืดอายุของน้ำมัน แต่ไม่ได้ป้องกันการปนเปื้อนจากจุลชีพ
• คุณจะต้องใส่สารกันเสียแบบ Broad-spectrum เช่น Mild Preserved™ COS ก็ต่อเมื่อสูตรของคุณมีส่วนประกอบของน้ำ หรือมีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปปนเปื้อนในระหว่างการใช้งาน (เช่น เก็บในที่ชื้น หรือน้ำสัมผัสกับผลิตภัณฑ์) สำหรับสูตรที่เป็นน้ำมันล้วนๆ สารต้านอนุมูลอิสระก็เพียงพอสำหรับการรักษาคุณภาพของน้ำมันไม่ให้เหม็นหืนค่ะ

4. แนะนำส่วนผสมตัวอย่างนี้หน่อยค่ะ (Jojoba 25%, Rosehip 50%, Squalane 25%) ต้องผสมตัวไหนเพื่อให้รู้สึกว่าเข้าสู่ผิวไว ไม่เหนอะหนะ ไม่ทิ้งความเงาบนผิวคะ แล้วกี่ %?

สูตรปัจจุบันของคุณใช้ Rose Hip Oil (50%) และ Jojoba Oil (25%) ในปริมาณค่อนข้างสูง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกหนักและมันเงาได้ Squalane (25%) เป็นส่วนผสมที่ดีที่ช่วยเรื่องการซึม แต่มีปริมาณน้อยกว่าน้ำมันที่เนื้อหนักกว่า

เพื่อให้สูตรนี้รู้สึกเบาขึ้นและซึมไวขึ้น ลองปรับเปลี่ยนเปอร์เซ็นต์และอาจเพิ่ม Emollient เนื้อบางเบาอื่นๆ เข้าไปค่ะ:

• เพิ่ม Squalane: เพิ่มเปอร์เซ็นต์ของ Squalane (Olive) เป็น 30-40% หรือมากกว่า
• ลดน้ำมันเนื้อหนัก: ลดเปอร์เซ็นต์ของ Rose Hip Oil และ/หรือ Jojoba Oil ลง
• เพิ่ม Emollient เนื้อบางเบา: พิจารณาเพิ่ม Fractionated Coconut Oil, Hemisqualane (C13-15 Alkane), LipidSoft™ B (Dibutyl Adipate), หรือ Dioctyl Adipate (DOA) เข้าไปในสูตร ส่วนผสมเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เนื้อสัมผัสที่บางเบาและไม่เหนอะหนะโดยเฉพาะ
• เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ: ใส่ Pure-Rosmarinic90™ (Rosemary Extract) ในปริมาณ 0.1-0.2% เพื่อช่วยป้องกันน้ำมันเหม็นหืน

ตัวอย่างแนวทางการปรับสูตร (เปอร์เซ็นต์เป็นเพียงข้อเสนอแนะ ควรทดลองปรับตามความต้องการ):

• Squalane (Olive): 30-40%
• Fractionated Coconut Oil หรือ Hemisqualane: 20-30%
• Jojoba Oil: 10-20%
• Rose Hip Oil: 20-30%
• LipidSoft™ B หรือ Dioctyl Adipate: 5-10% (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ เพื่อเพิ่มความบางเบา)
• Pure-Rosmarinic90™ (Rosemary Extract): 0.1-0.2% (สำหรับเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ)

การทดลองปรับเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมที่เบาลงเหล่านี้จะช่วยให้คุณหาสมดุลที่ให้ประโยชน์ด้านความชุ่มชื้นและต่อต้านริ้วรอยที่คุณต้องการ พร้อมกับเนื้อสัมผัสที่ซึมไวและไม่ทิ้งความมันเงาบนผิวค่ะ