การพัฒนาสูตรน้ำมันนวดแบบเจล: ความเหมาะสมและความคงตัวของส่วนผสม
คำถาม
อยากทำ Massage oil ในรูปแบบเจลและบำรุงผิวได้ค่ะ จึงจะขอรบกวนสอบถามว่า RM ที่เตรียมไว้เหมาะสมต่อการทำหรือไม่ค่ะ หากตัวไหนควรเปลี่ยนหรือเพิ่ม รบกวนทีมงานด้วยนะคะ
ส่วนที่ 1 - น้ำมันธรรมชาติ (ประมาณ 80-85% ในสูตร)
ส่วนที่ 2 - Active Ingredients: White Cumin, Vitamin C, E
ส่วนที่ 3 - Solvent ใช้ น้ำกลั่น ประมาณ 10% ในสูตร
ส่วนที่ 4 - เพิ่ม moisturizer โดยใช้ กลีเซอรีน เล็กน้อย
ส่วนที่ 5 - สารก่อเจลในน้ำมัน โดยใช้ Sugar Gel
ส่วนที่ 6 - Fragrance และ Flora Fix ตรึงกลิ่นให้ติดผิว
ส่วนที่ 7 - Preservative: Mild Preserved Eco
จากการดูข้อมูล RM ก้อนตัดสินใจซื้อ Sugar Gel สามารถสร้างเนื้อเจลใสและช่วยประสานน้ำเข้ากับสูตรได้ใช่ไหมคะ หรือว่าควรใช้ตัวประสานใดๆ เพิ่ม จำเป็นต้องมี Protec OX หรือ EDTA ในสูตรไหมคะ
คำตอบ
ข้อเสนอแนะสำหรับสูตรน้ำมันนวดในรูปแบบเจล
จากรายการวัตถุดิบที่คุณเตรียมไว้สำหรับทำน้ำมันนวดในรูปแบบเจลที่มีคุณสมบัติบำรุงผิว นี่คือการประเมินและข้อเสนอแนะ:
โครงสร้างสูตรและเนื้อเจล
สูตรของคุณมีส่วนของน้ำมันค่อนข้างสูง (80-85%) และมีส่วนของน้ำ (น้ำกลั่น 10%) รวมถึงสารสำคัญที่ละลายน้ำได้ เช่น กลีเซอรีน และวิตามินซี (L-Ascorbic Acid) การทำผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งส่วนของน้ำมันและน้ำในปริมาณมากให้คงตัวจำเป็นต้องมีระบบอิมัลชันที่เหมาะสม
คุณวางแผนจะใช้ Sugar Gel (Sucrose Stearate/Sucrose Palmitate) เป็นสารก่อเจลในน้ำมัน และอาจช่วยรวมส่วนของน้ำเข้าด้วยกัน จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ Sugar Gel เป็นสารก่อเจลในน้ำมันเป็นหลัก และสามารถทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ชนิด W/O (Water-in-Oil) ช่วยกระจายน้ำปริมาณเล็กน้อยในเฟสน้ำมันได้ สามารถสร้างเนื้อเจลในส่วนของน้ำมันได้ อย่างไรก็ตาม Sugar Gel จะไม่สามารถสร้างเนื้อเจลที่ ใส ได้เมื่อมีส่วนของน้ำอยู่ในสูตร ผลิตภัณฑ์ที่ได้มักจะเป็นเจลอิมัลชัน (W/O) ที่มีลักษณะขุ่นหรือโปร่งแสง หากต้องการเนื้อเจลที่ใสจริงๆ โดยทั่วไปจะไม่สามารถทำได้เมื่อมีเฟสน้ำกระจายอยู่ในเจลน้ำมัน
วิธีการผสม Sugar Gel โดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับการให้ความร้อนทั้งเฟสน้ำมัน และส่วนผสมของ Sugar Gel, กลีเซอรีน และน้ำ ให้ได้อุณหภูมิประมาณ 70-80°C แล้วค่อยๆ เทเฟสน้ำมันที่ร้อนลงในส่วนผสมแรกพร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง
สารสำคัญและการคงตัว
- White Cumin (Tetrahydrodiferuloylmethane) และ Vitamin E (dl-alpha tocopherol) เป็นสารสำคัญที่ละลายได้ในน้ำมันหรือกระจายตัวในน้ำมันได้ดี ให้คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและบำรุงผิวในเฟสน้ำมัน
- Vitamin C (L-Ascorbic Acid) เป็นสารสำคัญที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ ไม่คงตัวอย่างยิ่งในสูตรที่มีน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง pH ทั่วไปของเครื่องสำอาง การใส่น้ำกลั่น 10% และ L-Ascorbic Acid ในโครงสร้างสูตรนี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการเก็บสั้นลงและประสิทธิภาพลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเกิดออกซิเดชัน ซึ่งอาจทำให้สีเปลี่ยนได้ด้วย
- ข้อแนะนำ: หากวิตามินซีเป็นสารสำคัญหลักที่ต้องการเน้น ควรพิจารณาใช้ Vitamin C อนุพันธ์ที่คงตัวกว่าและละลายในน้ำมันได้ดี เช่น Ascorbyl Tetraisopalmitate หรือปรับสูตรให้เป็นแบบ Anhydrous (ไม่มีน้ำ) เพื่อรักษาความคงตัวของ L-Ascorbic Acid หากยังคงใช้ L-Ascorbic Acid และมีเฟสน้ำ ควรแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงข้อจำกัดด้านความคงตัวและแนะนำวิธีการเก็บรักษาที่เหมาะสม (เช่น เก็บในตู้เย็น หรือที่เย็นและพ้นแสง)
ส่วนประกอบอื่นๆ
- น้ำมันธรรมชาติ: เป็นส่วนประกอบหลักของน้ำมันนวด ให้คุณสมบัติหล่อลื่นสำหรับการนวดและบำรุงผิว
- น้ำกลั่น: ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายสำหรับส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ เช่น กลีเซอรีน และ L-Ascorbic Acid แต่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เนื้อเจลไม่ใสและวิตามินซีไม่คงตัว
- กลีเซอรีน: เป็น Humectant ที่ดี ช่วยดึงและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว และช่วยในการละลาย Sugar Gel และสารสำคัญที่ละลายน้ำได้
- Fragrance และ Flora Fix: สามารถใส่เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและช่วยให้กลิ่นติดทนขึ้น ควรตรวจสอบว่าน้ำหอมเข้ากันได้กับเบสน้ำมัน
- Mild Preserved Eco: เป็นสารกันเสียที่เหมาะสมสำหรับสูตรนี้ ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเฟสน้ำอยู่ สามารถผสมได้ตามคำแนะนำของผู้จำหน่าย
ความจำเป็นของ Protec OX และ EDTA
ใช่, แนะนำอย่างยิ่งให้เพิ่มทั้ง Protec OX และ EDTA ในสูตรของคุณเพื่อเพิ่มความคงตัว:
- Protec OX (Pentaerythrityl tetra-di-t-butyl hydroxyhydrocinnamate) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำมัน มีประสิทธิภาพสูง มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันน้ำมันธรรมชาติในสูตรไม่ให้เกิดออกซิเดชัน (เหม็นหืน) และยังช่วยปกป้องสารสำคัญที่ละลายในน้ำมัน เช่น Vitamin E และ White Cumin
- EDTA (Disodium EDTA) เป็นสาร Cheating Agent ที่ละลายน้ำได้ ทำงานโดยการจับกับไอออนของโลหะที่อาจปนเปื้อนมาในน้ำหรือวัตถุดิบอื่นๆ ไอออนของโลหะเหล่านี้สามารถเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งส่งผลเสียอย่างมากต่อความคงตัวของวิตามินซี และอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนสีได้ เนื่องจากสูตรของคุณมีเฟสน้ำและใช้วิตามินซี การใส่ EDTA จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยรักษาความคงตัว
สรุป
วัตถุดิบที่คุณเสนอมาสามารถนำมาทำเป็นน้ำมันนวดในรูปแบบเจลที่มีคุณสมบัติบำรุงผิวได้ Sugar Gel เหมาะสำหรับการก่อเจลในเฟสน้ำมันและช่วยรวมส่วนของน้ำเล็กน้อย ทำให้ได้เนื้อเจลอิมัลชันที่ขุ่น/โปร่งแสง ความท้าทายหลักคือความคงตัวของ L-Ascorbic Acid ในสูตรที่มีน้ำ แนะนำอย่างยิ่งให้เพิ่ม Protec OX และ EDTA เพื่อช่วยปกป้องน้ำมัน สารสำคัญ และเพิ่มความคงตัวโดยรวมของผลิตภัณฑ์ หากความใสและประสิทธิภาพสูงสุดของวิตามินซีเป็นสิ่งสำคัญ ควรพิจารณาใช้วิตามินซีอนุพันธ์ที่คงตัวกว่า หรือปรับสูตรเป็นแบบไม่มีน้ำ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Vitamin E (dl-alpha tocopherol)

Glycerin (USP/Food Grade)

Disodium EDTA

Sugar Gel (สร้างเนื้อเจลน้ำมัน / Oil Gellant)

WhiteCumin™ (Tetrahydrodiferuloylmethane)
