การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า: สารซักฟอก เนื้อสัมผัส และ อย.

ถามโดย: areeya_dd เมื่อ: May 14, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการคำแนะนำในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าค่ะ มี 2 สูตรที่กำลังทำอยู่:

1. สูตรสำหรับผิวมัน/ผิวผสม (คล้าย Acne Aid สีแดง):

ส่วนผสมและเปอร์เซ็นต์ที่เสนอคือ:

  • Disodium Laureth Sulfosuccinate 15%
  • Cocamidopropyl Betaine 7%
  • PEG-7 Glyceryl Cocoate 3%
  • Glycerin 5%
  • Sulfated Olive Oil 5%
  • Mineral Oil 5%
  • Myristic Acid (อาจใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)
  • ClearClean™ (Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer) 5%
  • emulPearl™ (Glycol Distearate)
  • Sodium Hydroxide (สำหรับปรับค่า pH)

รบกวนช่วยตรวจสอบเปอร์เซ็นต์เหล่านี้ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับสูตร โดยเฉพาะเรื่องปริมาณน้ำมันและปริมาณ Sodium Hydroxide ที่ต้องใช้ค่ะ

2. สูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย:

มีสูตรที่สองสำหรับผิวแพ้ง่ายด้วยค่ะ แต่ยังไม่ได้ระบุส่วนผสม รบกวนขอคำแนะนำในการพัฒนาสูตรนี้ด้วยค่ะ

คำถามเพิ่มเติม:

  • จะเพิ่มฟองในสูตรได้อย่างไรบ้างคะ เช่น การเติม BabyFoam™ (Sodium Cocoyl Isethionate)?
  • ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องเป็นอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อมีส่วนผสมของน้ำมัน?
  • ขั้นตอนการขอ อย. สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในประเทศไทยมีอะไรบ้างคะ?
  • หาก Cocamidopropyl Betaine สินค้าหมด มีสารซักฟอกตัวอื่นที่สามารถใช้ทดแทนได้ไหมคะ?

คำตอบ

การวิเคราะห์และคำแนะนำสำหรับสูตรผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าของคุณ

จากบทสนทนาที่ให้มา นี่คือสรุปการวิเคราะห์และคำแนะนำสำหรับสูตรผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าของคุณ โดยเน้นที่สูตรสำหรับผิวมัน/ผิวผสม และคำถามของคุณ

สูตรสำหรับผิวมัน/ผิวผสม (คล้าย Acne Aid สีแดง)

จากความคิดเห็นของทีมงาน นี่คือคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนและข้อควรพิจารณาสำหรับสูตรสำหรับผิวมัน/ผิวผสมของคุณ:

  • สารซักฟอก: ทีมงานแนะนำเปอร์เซ็นต์ต่อไปนี้สำหรับสารทำความสะอาดหลัก:
    • Disodium Laureth Sulfosuccinate: 15%
    • Cocamidopropyl Betaine: 7% (หมายเหตุ: ส่วนผสมนี้สินค้าหมดชั่วคราว คาดว่าจะเข้าประมาณเดือนหน้า ดูคำแนะนำสารทดแทนด้านล่างหากต้องการใช้เร็วกว่านั้น)
    • PEG-7 Glyceryl Cocoate: 3%
  • Glycerin: เปอร์เซ็นต์ที่แนะนำสำหรับ Glycerin คือ 5%.
  • น้ำมัน (Sulfated Olive Oil และ Mineral Oil): ทีมงานตั้งข้อสังเกตว่าการใช้น้ำมันรวมกัน 10% (อย่างละ 5%) ถือเป็นปริมาณที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประมาณ 5-6% ใน Acne Aid ต้นฉบับ พวกเขาแนะนำให้ทำการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าสูตรมีความคงตัวและไม่แยกชั้น
  • Sodium Hydroxide: ทีมงานอธิบายว่าปริมาณ Sodium Hydroxide ไม่ได้กำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ตายตัว แต่ใช้เพื่อปรับค่า pH ของสูตรสุดท้ายให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ ClearClean™ ในการสร้างความข้นหนืดได้อย่างมีประสิทธิภาพ (pH 6.5-6.8) คุณจะต้องวัดค่า pH ระหว่างการผสมและค่อยๆ เติม Sodium Hydroxide จนกว่าจะถึงช่วงค่า pH ดังกล่าว ปริมาณที่ต้องการน่าจะน้อยมาก อาจจะน้อยกว่า 0.5% คล้ายกับผลิตภัณฑ์ต้นฉบับ
  • Myristic Acid: ส่วนผสมนี้สามารถช่วยเพิ่มฟองได้ แต่ทีมงานรู้สึกว่าอาจไม่จำเป็นเนื่องจากสารซักฟอกอื่นๆ น่าจะให้ฟองเพียงพอ สามารถสั่งซื้อได้โดยตรงผ่านฝ่ายบริการลูกค้า
  • ส่วนผสมอื่นๆ: ทีมงานระบุว่าเปอร์เซ็นต์ที่คุณให้มาสำหรับส่วนผสมอื่นๆ นั้นเหมาะสมแล้ว
  • ClearClean™ (Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer): ใช้ที่ 5% เพื่อสร้างความข้นหนืด ต้องปรับค่า pH ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
  • emulPearl™ (Glycol Distearate): ใช้เพื่อให้เนื้อผลิตภัณฑ์มีลักษณะขาวมุก

สูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย

สูตรที่สองสำหรับผิวแพ้ง่ายถูกระบุไว้ แต่ไม่ได้ถูกวิเคราะห์หรือปรับเปลี่ยนโดยทีมงานโดยเฉพาะในบทสนทนาที่ให้มา

การเพิ่ม BabyFoam™ เพื่อเพิ่มฟอง

คุณสามารถเพิ่ม BabyFoam™ (Sodium Cocoyl Isethionate) เพื่อเพิ่มฟองได้ อย่างไรก็ตาม ทีมงานเชื่อว่าการผสมผสานสารซักฟอกในปัจจุบันน่าจะให้ฟองเพียงพอแล้ว หากคุณพบว่าฟองไม่เพียงพอ ทีมงานแนะนำว่าขั้นตอนแรกควรลดหรือตัดน้ำมัน (Sulfated Olive Oil และ Mineral Oil) ออกจากสูตร เนื่องจากน้ำมันสามารถลดการเกิดฟองได้

วิธีการผสม

วิธีการผสมโดยทั่วไปคือการเติมส่วนผสมต่างๆ ลงในน้ำ หากสูตรของคุณมีน้ำมัน ให้นำน้ำมันมาผสมกับสารซักฟอกให้เข้ากันดีก่อน แล้วจึงเติมส่วนผสมนี้ลงในน้ำ เมื่อผสมหรือกวน ให้ทำอย่างเบามือและใช้ความเร็วต่ำ โดยเฉพาะหลังจากเติมสารซักฟอก เพื่อป้องกันการเกิดฟองมากเกินไป การผสมหรือกวนด้วยความเร็วต่ำก็สามารถทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดีเช่นกัน แต่อาจต้องใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย

วิธีการขอ อย.

ในการขอ อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในประเทศไทย โดยทั่วไปคุณจะต้องดำเนินการดังนี้:

  1. จดแจ้งสถานที่ผลิต: คุณต้องจดแจ้งสถานที่ที่จะใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ก่อน
  2. จดแจ้งสูตร: หลังจากจดแจ้งสถานที่ผลิตแล้ว คุณจึงจะสามารถดำเนินการจดแจ้งสูตรผลิตภัณฑ์เฉพาะได้

ทีมงานแนะนำอย่างยิ่งให้ติดต่อ อย. โดยตรงเพื่อขอข้อมูลที่ถูกต้องและละเอียดที่สุดเกี่ยวกับข้อกำหนดและขั้นตอนสำหรับการจดแจ้งทั้งสถานที่ผลิตและสูตร

สารทดแทนสำหรับ Cocamidopropyl Betaine

Cocamidopropyl Betaine คาดว่าจะกลับมามีในสต็อกประมาณเดือนหน้า หากคุณต้องการสารทดแทนเร็วกว่านั้น ทีมงานแนะนำให้เปลี่ยนระบบสารซักฟอกหลัก ทั้งหมด เป็น:

  • Sulfate Free No-Tear Shampoo Base: 20%
  • PEG-7 Glyceryl Cocoate: 3%

การผสมผสานนี้จะทำหน้าที่เป็นฐานทำความสะอาดหลักแทนการผสมผสานเดิมของ Disodium Laureth Sulfosuccinate, Cocamidopropyl Betaine และ PEG-7 Glyceryl Cocoate

หวังว่าสรุปนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับกระบวนการพัฒนาสูตรของคุณค่ะ!

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Olive Oil (Extra Virgin)
Olive Oil (Extra Virgin)
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)
Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)
เครื่องสำอาง
Cocamidopropyl Betaine
Cocamidopropyl Betaine
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate)
Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate)
เครื่องสำอาง
emulPearl™ (Pearlizer, Dispersed Liquid)
emulPearl™ (Pearlizer, Dispersed Liquid)
เครื่องสำอาง
Sodium Hydroxide
Sodium Hydroxide
เครื่องสำอาง
Mineral Oil (Paraffinum Liquidum) Light (26cst)
Mineral Oil (Paraffinum Liquidum) Light (26cst)
เครื่องสำอาง
Sulfate Free Shampoo Base (pH 7, Clear, Foaming)
Sulfate Free Shampoo Base (pH 7, Clear, Foaming)
เครื่องสำอาง