การพัฒนาสูตรมาส์กโคลนเนื้อข้น: คำถามเกี่ยวกับค่า pH และวิธีการผสม

ถามโดย: justployyy เมื่อ: July 23, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังพัฒนาสูตรมาส์กเนื้อข้น และได้เปลี่ยนจาก Satin Cream Maker (ซึ่งเนื้อเบาไป) มาใช้ Rich Cream Maker เพื่อให้ได้เนื้อมาส์กที่หนาขึ้นค่ะ

ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องค่า pH เยอะมากถ้าใช้ Glycolic Acid

มีข้อสงสัยเกี่ยวกับค่า pH ของสูตรเล็กน้อยค่ะ คือถ้าข้อมูลบอกว่า ค่า pH ของสูตรควรเป็น 4 หมายถึงก่อนใส่สารออกฤทธิ์ใช่ไหมคะ พอใส่ไปแล้วค่าก็เปลี่ยนไม่เป็นไรใช่หรือเปล่า

ตอนนี้ได้ปรับสูตรเป็น:

  • Water: ส่วนที่เหลือ
  • Rich Cream Maker: 5%
  • Propylene Glycol: 5%
  • Salicylic Acid: 2%
  • Bentonite Clay: 10%
  • Papaya Enzyme: 1%
  • Disodium EDTA: 0.2%
  • Methylsulfonymethane: 5%
  • Phenoxyethanol SA: 0.8%
  • Vanilla Flavor: 1%

การผสมตามที่เข้าใจคือ:

  1. รวม Water, Propylene Glycol, Salicylic Acid, Bentonite Clay, Papaya Enzyme, Disodium EDTA, Methylsulfonymethane, Phenoxyethanol SA, และ Vanilla Flavor
  2. อุ่น Rich Cream Maker ที่ความร้อน 60°C
  3. เติม Rich Cream Maker ที่อุ่นแล้วลงในส่วนผสมจากข้อ 1 ทิ้งไว้จนอุณหภูมิห้อง
  4. นำส่วนของน้ำและส่วนของน้ำมันที่เป็นครีมแล้วมาผสมกัน

วิธีการผสมแบบนี้ถูกต้องไหมคะ ค่า pH ยังมีปัญหาอยู่หรือเปล่า?

คำตอบ

การทำความเข้าใจค่า pH และวิธีการผสมสำหรับมาส์กโคลนคาร์บอน

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรมาส์กโคลนคาร์บอนที่คุณปรับปรุงใหม่โดยใช้ Rich Cream Maker ค่ะ คุณมีคำถามเกี่ยวกับค่า pH และกระบวนการผสม รวมถึงความเข้มข้นโดยรวมของสูตร

สำหรับคำถามแรกของคุณเกี่ยวกับ PVP-K90 ทางทีมงานยังคงรวบรวมข้อมูลการใช้งานเฉพาะสำหรับมาส์ก ดังนั้นจึงยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์และความเหมาะสมของการผสมแบบแห้งในขณะนี้ค่ะ

มาดูที่คำถามของคุณเกี่ยวกับสูตรที่คุณปรับปรุงใหม่กันนะคะ:

ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับค่า pH

ถูกต้องค่ะ การเติมส่วนผสมที่เป็นกรดอย่าง Salicylic Acid จะทำให้ค่า pH ของสูตรเปลี่ยนไป ค่า pH ที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหมายถึง ค่า pH สุดท้าย ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป หลังจากที่เติมส่วนผสมทั้งหมดและสูตรสมบูรณ์แล้ว

ทั้ง Salicylic Acid และ Papaya Enzyme มีความไวต่อค่า pH:

  • Salicylic Acid: ทำงานได้ดีที่สุดสำหรับการผลัดเซลล์ผิวที่ค่า pH ที่เป็นกรด โดยทั่วไปคือ pH 3-4
  • Papaya Enzyme (Papain): มีความคงตัวและออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดในช่วงที่เป็นกรดเล็กน้อยถึงเป็นกลาง โดยทั่วไปคือ pH 5.5-7.0 นอกจากนี้ยังต้องการ Disodium EDTA เพื่อความคงตัวด้วย

สิ่งนี้ทำให้เกิดความขัดแย้งในสูตรของคุณ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการผลัดเซลล์ผิวจาก Salicylic Acid 2% คุณจะต้องตั้งเป้าค่า pH สุดท้ายที่ประมาณ 3.5-4 อย่างไรก็ตาม ค่า pH นี้ต่ำเกินไปสำหรับประสิทธิภาพและความคงตัวสูงสุดของ Papaya Enzyme คุณจะต้องวัดค่า pH ของส่วนผสมสุดท้ายและปรับให้อยู่ในช่วงที่คุณต้องการโดยใช้สารปรับค่า pH (เช่น สารละลาย Citric Acid หรือ Sodium Hydroxide)

วิธีการผสม

วิธีการผสมที่คุณเสนอไม่ใช่วิธีมาตรฐานในการสร้างเนื้อมาส์กแบบอิมัลชันที่คงตัวด้วย Rich Cream Maker Rich Cream Maker เป็นสารสร้างเนื้อครีมที่ออกแบบมาเพื่อรวมส่วนน้ำและส่วนน้ำมัน วิธีมาตรฐานกว่าคือ:

  1. ส่วนน้ำ (Water Phase): รวมน้ำ, Disodium EDTA, Propylene Glycol และ Methylsulfonymethane กระจาย Bentonite Clay, Activated Carbon และ RiceSorb ในส่วนนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมเหล่านี้กระจายตัวและดูดซับน้ำได้เต็มที่
  2. Salicylic Acid: ละลาย Salicylic Acid ชนิดผงใน Propylene Glycol เล็กน้อยก่อนที่จะเติมลงในส่วนน้ำ
  3. ส่วนน้ำมัน (Oil Phase): เตรียม Rich Cream Maker ในภาชนะแยกต่างหาก ทำตามคำแนะนำของผู้จำหน่ายเกี่ยวกับความร้อน (สารสร้างเนื้อครีมบางชนิดต้องใช้ความร้อน บางชนิดเป็นกระบวนการเย็น)
  4. การสร้างเนื้อครีม (Emulsification): หากต้องใช้ความร้อน ให้ให้ความร้อนทั้งส่วนน้ำและส่วนน้ำมันจนถึงอุณหภูมิที่แนะนำ นำส่วนที่ให้ความร้อนแล้วมารวมกันและผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึง (เช่น ด้วยเครื่องปั่นมือถือ) เพื่อสร้างเนื้อครีม หากเป็นกระบวนการเย็น ให้รวมส่วนผสมที่อุณหภูมิห้องและผสม
  5. การทำให้เย็น: หากมีการให้ความร้อน ให้ปล่อยให้เนื้อครีมเย็นลงในขณะที่ยังคงผสมอย่างอ่อนโยน
  6. การเติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน: เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 40°C ให้เติม Papaya Enzyme เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 60°C ให้เติม Phenoxyethanol SA เติม Vanilla Flavor
  7. การปรับค่า pH: วัดค่า pH สุดท้ายและปรับให้อยู่ในช่วงที่คุณต้องการ

ความเข้มข้นของสูตร

สูตรของคุณมีส่วนผสมที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว (Salicylic Acid 2%, Papaya Enzyme) และดูดซับความมัน (Bentonite Clay, Activated Carbon, RiceSorb) ในความเข้มข้นที่ค่อนข้างสูง แม้ว่าส่วนผสมเหล่านี้จะใช้กันทั่วไปในมาส์ก แต่ความเข้มข้นของ Salicylic Acid เป็นความเข้มข้นสูงสุดที่อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์แบบทาทิ้งไว้ และเมื่อรวมกับส่วนผสมออกฤทธิ์อื่นๆ อาจมีความเข้มข้นสูง ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ทดสอบผลิตภัณฑ์บนผิวหนังบริเวณเล็กๆ ก่อนนำไปใช้ทั่วใบหน้า เพื่อตรวจสอบการแพ้หรือระคายเคือง

สารกันเสีย

ใช่ค่ะ จำเป็นต้องมีสารกันเสียสำหรับผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่มีน้ำ เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ สูตรของคุณมี Phenoxyethanol SA ซึ่งทำหน้าที่นี้ โดยมีเงื่อนไขว่าค่า pH สุดท้ายอยู่ในช่วงที่สารกันเสียนี้มีประสิทธิภาพ (pH 2.0-6.0)

การปฏิบัติตามขั้นตอนการผสมแบบมาตรฐานและการควบคุมค่า pH สุดท้ายอย่างระมัดระวัง จะช่วยให้คุณสร้างมาส์กที่มีความคงตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ แม้ว่าคุณจะต้องพิจารณาข้อจำกัดด้านค่า pH สำหรับประสิทธิภาพของ Papaya Enzyme เมื่อให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของ Salicylic Acid

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Propylene Glycol
Propylene Glycol
เครื่องสำอาง
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)
Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง
Papaya Enzyme (Papain)
Papaya Enzyme (Papain)
เครื่องสำอาง
Vanilla Flavor (Water Soluble Powder)
Vanilla Flavor (Water Soluble Powder)
เครื่องสำอาง