การพัฒนาสูตรลิปบาล์มแบบแท่ง: การทำให้คงตัวและได้คุณสมบัติตามต้องการในเบสไร้น้ำ

ถามโดย: siwongkorn เมื่อ: June 15, 2015 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการทำลิปบำรุงปากแบบแท่งที่มีคุณสมบัติดังนี้:

  • บำรุงปากที่แห้งให้ชุ่มชื้น
  • ลดเลือนริ้วรอยบนริมฝีปาก
  • ทำให้ปากอิ่มมีเลือดฝาด

สูตรที่ลองทำเบื้องต้นมีส่วนผสมดังนี้:

  • Natural Oil: 50%
  • Microcrystalline Wax: 20%
  • Essential oil (ที่ละลายในน้ำมัน): 1%
  • Red iron oxides easy mixed: 3%
  • Vit E Acetate: 1%
  • Slim-Burn: 1.5%
  • WaterLock™ (Polyquaternium-51): 1%

เข้าใจว่าการใส่ส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ เช่น Slim-Burn และ WaterLock™ ลงในเบสน้ำมัน/แวกซ์แบบนี้โดยไม่มีตัวประสานที่เหมาะสม ทำให้สูตรไม่คงตัวและอาจแยกชั้นได้

เพื่อให้ได้ลิปบาล์มแบบแท่งที่คงตัว ควรปรับสูตรให้เป็นแบบไม่มีน้ำ (anhydrous) โดยใช้เฉพาะส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันเท่านั้น

จากข้อมูลนี้ มีคำถามเพิ่มเติมดังนี้:

  1. ควรปรับสูตรอย่างไรเพื่อให้เป็นสูตรไม่มีน้ำที่คงตัว และยังคงให้คุณสมบัติบำรุงปากให้ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และปากอิ่มได้ตามต้องการ
  2. ในสูตรที่ไม่มีน้ำ การใช้ Vit E Acetate เพียงพอแล้วหรือไม่ หรือควรใช้สารกันเสียอย่าง Nature Preserve แทน (เห็นมีการอ้างอิงถึง topic171.html ในประเด็นนี้)
  3. หลังจากตัดส่วนผสมที่ละลายน้ำออก เหลือพื้นที่ว่างในสูตร 25% ควรเพิ่มส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันชนิดใดเพื่อเสริมคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และทำให้ปากอิ่ม
  4. ส่วนผสมอย่าง Squalane และ Isododecane เหมาะสมกับสูตรลิปบาล์มแบบแท่งที่ไม่มีน้ำหรือไม่ และมีส่วนช่วยอย่างไร

คำตอบ

วัตถุประสงค์คือ ลิปบำรุงปากลดเลือนริ้วรอย บำรุงปากที่แห้งให้ชุ่มชื่น ทำให้ปากอิ่มมีเลือดฝาด ใส่เป็นลิปแท่ง

ตามที่เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลไป สูตรเดิมของคุณมีส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ (Slim-Burn และ WaterLock™ (Polyquaternium-51)) อยู่ในเบสน้ำมัน/แวกซ์ ซึ่งไม่มีอิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมสำหรับทำผลิตภัณฑ์รูปแบบแท่งที่คงตัว ลิปบาล์มแบบแท่งโดยทั่วไปเป็นสูตรที่ไม่มีน้ำ (anhydrous) การใส่ส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ลงในเบสน้ำมัน/แวกซ์โดยไม่มีตัวประสานที่ถูกต้อง จะทำให้สูตรแยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไป

เพื่อให้ได้ลิปบาล์มแบบแท่งที่คงตัว ควรปรับสูตรให้เป็นแบบไม่มีน้ำ โดยใช้เฉพาะส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันเท่านั้น ดังนั้น แนะนำให้ตัดส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ออก:

  • Slim-Burn (1.5%)
  • WaterLock™ (Polyquaternium-51) (1%)

เมื่อตัดส่วนผสมสองตัวนี้ออก ส่วนผสมที่คุณมีจะรวมกันได้:

  • Natural Oil: 50%
  • Microcrystalline Wax: 20%
  • Essential oil (ที่ละลายในน้ำมัน): 1% (หมายเหตุ: ในสูตรที่ไม่มีน้ำ ควรใช้น้ำมันหอมระเหยโดยตรง หรือเจือจางในตัวทำละลายที่ละลายในน้ำมัน ไม่ใช่ Dipropylene glycol ซึ่งละลายน้ำได้)
  • Red iron oxides easy mixed: 3%
  • Vit E Acetate: 1%
    รวมปัจจุบัน: 75%

ซึ่งจะเหลือพื้นที่ว่างในสูตร 25% (100% - 75% = 25%) คุณสามารถใช้ส่วนที่เหลือนี้เพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย และทำให้ปากอิ่ม โดยใช้ส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน

สำหรับคำถามเกี่ยวกับ Vitamin E Acetate เทียบกับสารกันเสีย: Vitamin E Acetate เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันน้ำมันในสูตรไม่ให้เหม็นหืน และยังมีคุณสมบัติบำรุงผิวด้วย ในผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำ (anhydrous) เช่น ลิปบาล์มแบบแท่ง เชื้อจุลินทรีย์ (แบคทีเรีย รา ยีสต์) ไม่สามารถเจริญเติบโตได้เนื่องจากต้องการน้ำ ดังนั้น โดยทั่วไปแล้วไม่จำเป็นต้องใช้สารกันเสียในลิปบาล์มแบบแท่งที่คงตัวและไม่มีน้ำ Vitamin E Acetate จึงเหมาะสมสำหรับคุณสมบัติ ต้านอนุมูลอิสระและบำรุงผิว

ในการเติมส่วนที่เหลือ 25% คุณสามารถเพิ่มส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันซึ่งช่วยเสริมคุณสมบัติที่คุณต้องการได้:

  • เพิ่มส่วนของน้ำมัน/บัตเตอร์: คุณสามารถเพิ่มส่วนของ Natural Oil ที่ใช้ หรือเพิ่มบัตเตอร์เฉพาะทางที่ให้ความชุ่มชื้นสูงและช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว เช่น Shea Butter หรือ Cocoa Butter สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความนุ่มลื่นและปรับปรุงเนื้อสัมผัสของลิปบาล์ม
  • เพิ่มสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมัน: มองหาสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมันซึ่งออกแบบมาสำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากโดยเฉพาะ โดยเน้นคุณสมบัติลดเลือนริ้วรอยและทำให้ปากอิ่ม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารออกฤทธิ์เหล่านั้นสามารถใช้กับริมฝีปากได้ และใช้ในอัตราส่วนที่ผู้จำหน่ายแนะนำ

สำหรับแนวคิดสูตรทางเลือกที่ใช้ Squalene และ Isododecane: Squalane (หรือ Squalane (Olive) ซึ่งมีความคงตัวกว่า) เป็น Emollient ที่ดี อย่างไรก็ตาม Isododecane เป็นตัวทำละลายที่ระเหยง่าย ให้ความรู้สึกเบา ไม่เหนอะหนะ มักใช้ในเครื่องสำอางที่ไม่ติดทน แม้จะใช้ในผลิตภัณฑ์ริมฝีปากได้ แต่โดยทั่วไปไม่ใช่ส่วนประกอบหลักในลิปบาล์มแบบแท่งที่เน้นการบำรุงให้ความชุ่มชื้น และการใช้ในปริมาณมากจะต้องมีการปรับสูตรอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาโครงสร้างของแท่ง การใช้เบสที่ไม่มีน้ำซึ่งประกอบด้วยน้ำมัน บัตเตอร์ และแวกซ์เป็นหลัก เป็นวิธีที่ดั้งเดิมกว่าและให้ความคงตัวที่ดีกว่าสำหรับลิปสติกที่ให้ความชุ่มชื้น

จากส่วนผสมที่คุณระบุและผลการค้นหา:

  • Microcrystalline Wax (เช่น Microcrystalline Wax (Melting Point 77C, Medium) หรือ Microcrystalline Wax (Melting Point 90C, Hard)) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการให้โครงสร้างและป้องกันการแยกตัวของน้ำมัน ("sweating") ในลิปสติก จุดหลอมเหลวจะส่งผลต่อความแข็งของแท่ง
  • Squalane (Olive) เป็น Emollient ที่เข้ากันได้ดีกับผิว ให้ความชุ่มชื้นและช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ เป็นส่วนผสมที่ดีที่จะเพิ่มในส่วนของน้ำมัน
  • Red Iron Oxides EasyMix™ เป็นเม็ดสีที่กระจายตัวในน้ำมันได้ดี เหมาะสำหรับให้สีลิปบาล์ม
  • Vitamin E (Tocopheryl Acetate) ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำหรับน้ำมันและเป็นสารปรับสภาพผิว
  • Isododecane, Dipropylene glycol, และ WaterLock™ (Polyquaternium-51) ไม่เหมาะสำหรับสูตรลิปบาล์มแบบแท่งที่ไม่มีน้ำ และควรตัดออก

แนวทางการเติมส่วนที่เหลือ 25%:

จัดสรรส่วน 25% ให้กับส่วนผสมของน้ำมัน/บัตเตอร์บำรุงผิวเพิ่มเติม และสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมันที่เน้นคุณสมบัติโดยเฉพาะ เช่น:

  • 15-20% น้ำมันธรรมชาติ / บัตเตอร์เพิ่มเติม
  • 5-10% สารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมันสำหรับลดริ้วรอยหรือทำให้ปากอิ่ม (ตรวจสอบอัตราการใช้สำหรับสารออกฤทธิ์แต่ละชนิด)

การปรับสูตรโดยใช้เฉพาะส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน จะช่วยให้คุณสร้างลิปบาล์มแบบแท่งที่คงตัวและให้ผลลัพธ์ในการให้ความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย และทำให้ปากอิ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Squalane (Olive)
Squalane (Olive)
เครื่องสำอาง
Isododecane (Germany)
Isododecane (Germany)
เครื่องสำอาง
WaterLock™ (Polyquaternium-51)
WaterLock™ (Polyquaternium-51)
เครื่องสำอาง
Red Iron Oxides EasyMix™
Red Iron Oxides EasyMix™
เครื่องสำอาง
Dipropylene glycol
Dipropylene glycol
เครื่องสำอาง
Microcrystalline Wax (Melting Point 77C, Medium)
Microcrystalline Wax (Melting Point 77C, Medium)
เครื่องสำอาง
Microcrystalline Wax (Melting Point 90C, Hard)
Microcrystalline Wax (Melting Point 90C, Hard)
เครื่องสำอาง