การพัฒนาสูตรสกินแคร์สำหรับผิวมัน มีจุดด่างดำ: ปรับผิวขาวใส ควบคุมความมัน และปรับเนื้อสัมผัส
คำถาม
กำลังพัฒนาสูตรสกินแคร์สำหรับผู้ที่มีผิวมัน มีจุดด่างดำ และต้องการปรับผิวให้ขาวใส ควบคุมความมัน และลดการระคายเคือง โดยมีสูตรเริ่มต้นดังนี้:
- Alpha arbutin 2%
- Licorice extract 1%
- Vitamin E ( Tocopheryl Acetate ) 1%
- Bisabolol 1%
- Light cream maker 1%
- phenoxyethanol 0.5%
- water ส่วนที่เหลือ
จากสูตรนี้ มีคำถามดังนี้ค่ะ:
- ควรปรับเปลี่ยนสูตรอย่างไรเพื่อให้เหมาะกับผิวมันมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการควบคุมความมันและลดการระคายเคือง?
- จำเป็นต้องปรับค่า pH ของส่วนผสมแต่ละตัวก่อนผสมหรือไม่ หรือสามารถปรับ pH ในขั้นตอนสุดท้ายของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปได้เลย?
- อุณหภูมิที่เหมาะสมในการผสม Alpha Arbutin เพื่อรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพของสารควรเป็นเท่าใด?
- หากต้องการเพิ่ม Vitamin B6 (Pyridoxine Hydrochloride) หรือ Zinc PCA ลงในสูตรเพื่อช่วยควบคุมความมันและกระชับรูขุมขน ควรมีวิธีการผสมอย่างไร โดยคำนึงถึงค่า pH ที่ต่ำและคุณสมบัติเป็นอิเล็กโทรไลต์ของสารเหล่านี้ และสารเหล่านี้จะส่งผลต่อเนื้อผลิตภัณฑ์ (เช่น ทำให้เหลวลง) อย่างไรบ้าง?
คำตอบ
สรุปการพูดคุยเรื่องสูตรครีมสำหรับผิวมัน มีจุดด่างดำ และปรับผิวขาวใส
การพูดคุยนี้เกี่ยวกับสูตรครีมสำหรับผู้ที่มีผิวมัน มีจุดด่างดำ และต้องการปรับผิวให้ขาวใส ควบคุมความมัน และลดการระคายเคือง
สูตรเริ่มต้นที่ผู้ใช้เสนอ:
- Alpha arbutin 2%
- Licorice extract 1%
- Vitamin E ( Tocopheryl Acetate ) 1%
- Bisabolol 1%
- Light cream maker 1%
- phenoxyethanol 0.5%
- water ส่วนที่เหลือ
คำแนะนำในการปรับปรุงสำหรับผิวมัน:
เพื่อให้เหมาะกับความต้องการลดความมันและลดการระคายเคือง มีคำแนะนำในการปรับสูตรดังนี้:
- ตัดออก: Vitamin E ( Tocopheryl Acetate ) และ Bisabolol เนื่องจากอาจหนักเกินไปสำหรับผิวมัน
- เพิ่มสารควบคุมความมันและคุณสมบัติอื่นๆ: พิจารณาเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมัน เช่น MSM, Vitamin B3 (Niacinamide) หรือ Zinc PCA ซึ่งจะช่วยควบคุมความมัน ลดการอักเสบ และเสริมประสิทธิภาพการปรับผิวให้ขาวใส (Vitamin B3)
- เปลี่ยนเนื้อผลิตภัณฑ์: พิจารณาเปลี่ยนจากเนื้อครีมที่ใช้ Light Cream Maker เป็นเนื้อเจลที่ใช้ Pro Polymer ซึ่งโดยทั่วไปจะให้ความรู้สึกบางเบาและเหมาะกับผิวมันมากกว่า
คำถามทางเทคนิคและคำตอบ:
- การปรับค่า pH: โดยทั่วไปแนะนำให้ปรับค่า pH ในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดแล้ว ส่วนผสมส่วนใหญ่ในสูตรเริ่มต้นและสูตรที่แนะนำมีค่า pH เป็นกลางหรือเป็นกรดเล็กน้อย ซึ่งเหมาะสมกับผิวอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องปรับ pH ทีละส่วนผสม
- อุณหภูมิสำหรับ Alpha Arbutin: Alpha Arbutin สามารถผสมในห้องที่มีอุณหภูมิเกิน 30°C ได้ในขั้นตอนการเตรียมเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนสุดท้ายของการผสมที่ใส่ Alpha Arbutin อุณหภูมิของเบสเครื่องสำอางควรต่ำกว่า 30°C เพื่อรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพของสาร และควรเก็บผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในที่เย็น หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
- การเพิ่ม Vitamin B6: สามารถเพิ่ม Vitamin B6 (Pyridoxine Hydrochloride) ลงในสูตรได้ เพื่อช่วยควบคุมความมันและกระชับรูขุมขน (โดยเฉพาะในผิวมัน) และลดการอักเสบ อย่างไรก็ตาม Vitamin B6 มีค่า pH ต่ำ (2-3) และเป็นสารกลุ่มอิเล็กโทรไลต์ การเพิ่ม Vitamin B6 (หรือสารอิเล็กโทรไลต์อื่นๆ เช่น Zinc PCA) อาจทำให้เนื้อเจลหรือครีมเหลวลงได้ หากต้องการเพิ่ม ควรค่อยๆ เติมทีละน้อยในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากขึ้นเนื้อแล้ว และอาจต้องเพิ่มปริมาณสารสร้างเนื้อ (Light Cream Maker หรือ Pro Polymer) เพื่อให้เนื้อกลับมาข้นตามที่ต้องการ
โดยสรุป การพูดคุยแนะนำให้ปรับสูตรสำหรับผิวมันโดยการตัดส่วนผสมที่หนักออก เพิ่มสารออกฤทธิ์ที่ช่วยควบคุมความมัน พิจารณาเปลี่ยนเป็นเบสเจล และเพิ่มสารอิเล็กโทรไลต์อย่าง Vitamin B6 หรือ Zinc PCA อย่างระมัดระวังในขั้นตอนสุดท้าย โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของเนื้อผลิตภัณฑ์และปรับปริมาณสารสร้างเนื้อตามความเหมาะสม การปรับ pH มักทำครั้งเดียวในตอนท้าย และ Alpha Arbutin ต้องการอุณหภูมิในการผสมขั้นตอนสุดท้ายต่ำกว่า 30°C
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Alpha Arbutin (Switzerland)

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)

Light Cream Maker™

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)

Pro Polymer™ (Gel Maker)

Zinc PCA
