คำแนะนำการผสมสกินแคร์สำหรับผิวหน้ามัน มีรอยสิวและจุดด่างดำ

เป็นความคิดที่ดีมากค่ะที่จะทำสกินแคร์บำรุงผิวให้คุณแม่เป็นของขวัญ! จากสภาพผิวของคุณแม่ (ผิวมันมาก ขาดการบำรุง มีหลุมสิว กระ จุดด่างดำเล็กน้อย) และเป้าหมายของคุณ (อยากให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น หลุมสิวลดลง ผิวกระชับขึ้น) เรามาดูสูตรที่คุณเสนอมาทั้งสองสูตรกันค่ะ

สามารถทาทับกันได้ไหมคะ?

ทั้งสองสูตรนี้สามารถทาทับกันได้ค่ะ โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้ทาผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบากว่าก่อน ตามด้วยผลิตภัณฑ์ที่เนื้อหนักกว่า ดังนั้น โดยปกติแล้ว คุณจะทาเซรั่ม (สูตรที่ 1) ก่อนทาครีม (สูตรที่ 2) ค่ะ ไม่มีส่วนผสมใดที่ขัดแย้งกันจนไม่สามารถทาทับกันได้ หากมีการปรับค่า pH ของสูตรให้เหมาะสม

การประเมินสูตร

นี่คือการประเมินส่วนผสมและความเข้มข้นในแต่ละสูตรค่ะ:

สูตรที่ 1 (เซรั่ม)

• Copper 3%: แม้ว่าสารประกอบทองแดง เช่น Copper PCA จะมีประโยชน์สำหรับผิวมันและช่วยลดริ้วรอย แต่ความเข้มข้น 3% ถือว่าสูงกว่าอัตราการใช้ที่แนะนำอย่างมาก (โดยทั่วไป 0.5-1.0% สำหรับ Copper PCA) การใช้แร่ธาตุในความเข้มข้นที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ แนะนำให้ลดความเข้มข้นของ Copper ลง อาจใช้ Copper PCA ที่อัตรา 0.5-1.0% เพื่อให้ได้ประโยชน์ตามต้องการและปลอดภัยต่อผิว
• B5 (Panthenol) 3%: Panthenol เป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยมในการให้ความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิว ความเข้มข้น 3% เป็นอัตราที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
• B3 (Niacinamide) 7%: Niacinamide เป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมสำหรับผิวมัน ช่วยควบคุมความมัน ลดรอยแดงและจุดด่างดำ และปรับปรุงสภาพผิวให้เรียบเนียนและกระชับขึ้น ความเข้มข้น 7% อยู่ในช่วงที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับ Niacinamide ที่มีความบริสุทธิ์สูง เช่น Safe-B3™ หรือ Extreme-B3™
• B12 (Methylcobalamin) 2%: วิตามินบี 12 (Cyanocobalamin 1%) มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับรอยแผลเป็นจากสิว การใช้ 2% ของผลิตภัณฑ์ความเข้มข้น 1% (เทียบเท่า B12 บริสุทธิ์ 0.02%) อยู่ในช่วงที่แนะนำ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าวิตามินบี 12 ชนิดที่คุณใช้เหมาะสมสำหรับการใช้ในเครื่องสำอาง
• Matrixyl 3000 5%: เปปไทด์ผสมนี้ดีมากสำหรับการกระตุ้นคอลลาเจนและลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น และอาจช่วยปรับปรุงลักษณะของหลุมสิวได้ ความเข้มข้น 5% เป็นอัตราที่มีประสิทธิภาพ
• Silky Serum Base 10% & Water 70%: Silky Serum Base เหมาะสำหรับการทำเซรั่มเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว สำหรับผิวมัน สัดส่วนของเบสกับน้ำจะส่งผลต่อเนื้อสัมผัสสุดท้าย คำอธิบายของเบสแนะนำให้ค่อยๆ เติมน้ำลงในเบสทีละน้อยและคนให้เข้ากัน และแนะนำให้เติม 1% NaCl หรือ Magnesium Sulfate เพื่อช่วยเพิ่มความเสถียรของสูตร ซึ่งจะเป็นส่วนเสริมที่ดีสำหรับสูตรของคุณค่ะ

สูตรที่ 2 (ครีม)

• Squalane 10%: Squalane เป็น Emollient ที่ดี ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่รู้สึกหนัก เหมาะสำหรับผิวมัน ความเข้มข้น 10% เป็นอัตราที่เหมาะสม
• MOIST24 5%: Humectant ตัวนี้ช่วยให้ความชุ่มชื้นยาวนานและปรับปรุงเนื้อสัมผัสของครีมให้ดีขึ้น ความเข้มข้น 5% อยู่ในช่วงการใช้ที่แนะนำ
• Acetyl Hexapeptide-8 10%: หรือที่รู้จักในชื่อ Argireline เปปไทด์นี้ช่วยลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งช่วยลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า ความเข้มข้น 10% เป็นอัตราสูงสุดที่แนะนำเพื่อประสิทธิภาพในการลดริ้วรอย
• Pep-Coll 3%: เปปไทด์นี้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวกระชับและลดริ้วรอย และสามารถช่วยปรับปรุงหลุมสิวได้ ความเข้มข้น 3% เป็นอัตราที่แนะนำและมีประสิทธิภาพ
• TreMoisture™ 2%: Trehalose ให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิว ความเข้มข้น 2% อยู่ในช่วงที่แนะนำ
• Natural Moisturizing Amino Acids 3%: ส่วนผสมนี้เลียนแบบ NMF ของผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและสามารถช่วยในการสมานแผล ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับรอยแผลเป็นจากสิว ความเข้มข้น 3% อยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับการใช้กับผิว
• Satin Cream Maker 1% & Water 74%: Satin Cream Maker เป็น Emulsifier แบบไม่ต้องใช้ความร้อนที่สะดวก เหมาะสำหรับสูตรนี้ที่มีน้ำมัน 10% ความเข้มข้น 1% ควรเพียงพอที่จะสร้างเนื้อครีมที่คงตัวได้

ความยุ่งยากในการผสม

การผสมทั้งสองสูตรนี้สามารถทำได้ไม่ยาก หากคุณมีทักษะพื้นฐานในการทำสกินแคร์ DIY

• สำหรับเซรั่ม (สูตรที่ 1) ให้ละลายส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ในน้ำก่อน จากนั้นค่อยๆ เติมส่วนผสมน้ำลงใน Silky Serum Base ทีละน้อยพร้อมคนให้เข้ากัน การเติม 1% NaCl หรือ Magnesium Sulfate ในขั้นตอนสุดท้ายสามารถช่วยเพิ่มความเสถียรได้
• สำหรับครีม (สูตรที่ 2) ผสมส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ในส่วนน้ำ ผสม Squalane ในส่วนน้ำมัน เติม Satin Cream Maker ลงในส่วนน้ำ คนให้เข้ากัน จากนั้นนำส่วนน้ำมันมาผสมกับส่วนน้ำและคนจนได้เนื้อครีม

ปฏิบัติตามคำแนะนำการผสมเฉพาะของ Silky Serum Base และ Satin Cream Maker เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ

ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ

• สารกันเสีย: ไม่มีสารกันเสียในสูตรที่คุณให้มาทั้งสองสูตร สูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ จำเป็นต้อง มีสารกันเสียแบบ Broad-spectrum เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับความปลอดภัยและอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ที่คุณทำเอง ควรเติมสารกันเสียที่เหมาะสมตามอัตราการใช้ที่ผู้จำหน่ายแนะนำ
• การปรับค่า pH: ค่า pH ของสูตรสุดท้ายมีความสำคัญต่อความเสถียรของส่วนผสมและความเข้ากันได้กับผิว ควรปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิว (โดยทั่วไป 4.5-5.5) คุณอาจต้องปรับค่า pH โดยใช้กรด (เช่น Lactic Acid) หรือเบส (เช่น Sodium Hydroxide) ที่เหมาะสม และทดสอบด้วยกระดาษวัดค่า pH โปรดทราบช่วงค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมบางชนิด: Niacinamide (4.0-7.0), Vitamin B12 (4.0-6.5), Copper PCA (4.0-6.0)

สรุปคำแนะนำ

• ลดความเข้มข้นของ Copper ในสูตรที่ 1 และพิจารณาใช้ Copper PCA ที่อัตรา 0.5-1.0%.
• เพิ่มสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ลงในทั้งสองสูตร
• ปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์สุดท้ายให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิว (4.5-5.5)
• พิจารณาเติม 1% NaCl หรือ Magnesium Sulfate ลงในเซรั่ม (สูตรที่ 1) เพื่อเพิ่มความเสถียร
• การทาเซรั่มก่อนตามด้วยครีมเป็นลำดับที่เหมาะสม
• การผสมสามารถทำได้โดยปฏิบัติตามคำแนะนำสำหรับเบสแต่ละชนิด

การปรับเปลี่ยนเหล่านี้จะช่วยให้สูตรมีความปลอดภัย คงตัว และมีประสิทธิภาพสำหรับผิวคุณแม่ค่ะ