การพัฒนาสูตรอิมัลชั่นเนื้อบางเบา (เนื้อเซรั่ม/โลชั่นน้ำนม)
คำถาม
ฉันมีผลิตภัณฑ์ที่มีรายการส่วนผสมดังนี้ และมีเนื้อสัมผัสเป็นน้ำนมเหลวๆ:
รายการส่วนผสม:
- WATER
- BUTYLENE GLYCOL
- HYDROGENATED POLY (C6-14 OLEFIN)
- OCTYLDODECYL MYRISTATE
- Water
- Glycerin
- Hydrogenated Poly (C6-12 Olefin)
- Caprylic/Capric Triglyceride
- PPG-10 Methyl Glucose Ether
- Behenyl Alcohol
- Carbomer
- Dimethicone
- Disodium EDTA
- Glyceryl Stearate
- Hydrolyzed Hyaluronic Acid
- Methylparaben
- PEG-20 Sorbitan Isostearate
- Phytosteryl/Octyldodecyl Lauroyl Glutamate
- Propylparaben
- Sodium Acetylated Hyaluronate
- Sodium Hyaluronate
- Stearyl Alcohol
- Triethanolamine
เนื้อสัมผัสเป็นน้ำนมเหลวๆ ค่ะ
ฉันอยากทราบว่าจะทำอย่างไรให้ได้เนื้อสัมผัสแบบน้ำนมเหลวๆ ที่บางเบา คล้ายเซรั่มหรือโลชั่นน้ำนม โดยใช้ส่วนผสมและเทคนิคที่เหมาะสม โดยเฉพาะอยากทราบว่าการใช้เบสสำเร็จรูปอย่าง "Light Cream, Satin moose" ในปริมาณ 0.5% จะมีส่วนช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสแบบนี้หรือไม่
คำตอบ
การทำอิมัลชั่นเนื้อบางเบา (เนื้อเซรั่ม/โลชั่นน้ำนม)
เพื่อให้ได้อิมัลชั่นเนื้อบางเบาที่มีเนื้อสัมผัสคล้ายเซรั่มหรือโลชั่นน้ำนม ซึ่งจะข้นกว่าน้ำแต่เหลวกว่าโลชั่นทั่วไป และใช้สำหรับกักเก็บความชุ่มชื้น จำเป็นต้องใช้ส่วนประกอบหลักหลายชนิดในสัดส่วนที่สมดุลกันในสูตรค่ะ รายการส่วนประกอบที่คุณลูกค้าให้มาเป็นตัวอย่างที่ดีของส่วนประกอบที่มักพบในอิมัลชั่นประเภท Oil-in-Water (O/W) ที่มีเนื้อสัมผัสแบบนี้
เนื้อสัมผัสที่ต้องการไม่ได้มาจากส่วนประกอบเพียงหนึ่งหรือสองชนิดเท่านั้น แต่มาจากการทำงานร่วมกันและสัดส่วนของส่วนประกอบทั้งหมดในสูตรค่ะ นี่คือกลุ่มส่วนประกอบหลักและบทบาทในการสร้างเนื้อสัมผัส:
สารทำอิมัลชั่น (Emulsifiers): มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้น้ำและน้ำมันเข้ากันได้ดีและคงตัวเป็นเนื้อเดียวกัน สำหรับอิมัลชั่น O/W เนื้อบางเบา ควรเลือกใช้สารทำอิมัลชั่นที่ช่วยกระจายหยดน้ำมันขนาดเล็กๆ ในเฟสน้ำได้ดี ตัวอย่างเช่น Ceteareth-10 หรือ Emulsifying Wax 1000
น้ำมันและสารให้ความนุ่มลื่น (Oils and Emollients): เป็นส่วนของเฟสน้ำมันที่ช่วยบำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้น และทำให้รู้สึกนุ่มลื่น เพื่อให้เนื้อสัมผัสบางเบา ควรใช้น้ำมันหรือเอสเทอร์ที่เบา ไม่เหนอะหนะ เช่น Caprylic/Capric Triglyceride และ Fractionated Coconut Oil เป็นตัวอย่างของสารให้ความนุ่มลื่นเนื้อบางเบาที่ซึมซาบเร็ว
สารเพิ่มความหนืดและสารช่วยคงตัว (Thickeners and Stabilizers): ส่วนประกอบเหล่านี้ช่วยเพิ่มความข้นหนืดให้กับสูตรและช่วยทำให้อิมัลชั่นคงตัว ไม่แยกชั้น สารแต่ละชนิดมีส่วนช่วยแตกต่างกันไป:
- คาร์โบเมอร์ (Carbomers) เช่น Carbomer 940 หรือ Carbomer U21 เป็นโพลิเมอร์ที่ช่วยเพิ่มความหนืดในเฟสน้ำ ทำให้เกิดโครงสร้างคล้ายเจลเมื่อปรับให้เป็นกลางด้วยด่าง ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเนื้อสัมผัสที่ "ข้นกว่าน้ำ"
- แฟตตี้แอลกอฮอล์ เช่น Cetyl Alcohol, Stearyl Alcohol, หรือ Cetearyl Alcohol มักใช้เป็นสารช่วยทำอิมัลชั่นร่วม (co-emulsifiers) และสารเพิ่มความหนืดในเฟสน้ำมัน ช่วยเพิ่มเนื้อและความคงตัวให้กับอิมัลชั่น ทำให้เนื้อข้นขึ้น (แต่หากต้องการเนื้อบางเบา จะใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าการทำครีม)
สารให้ความชุ่มชื้น (Humectants): ส่วนประกอบอย่าง Hyaluronic Acid (มีหลายขนาดโมเลกุล เช่น Hyaluronic Acid (Standard Molecule) หรือ Hyaluronic Acid (Small Molecule)) ช่วยดึงและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว และยังช่วยเพิ่มความหนืดให้กับเฟสน้ำได้เล็กน้อย
สำหรับคำถามเกี่ยวกับการใช้ "Light Cream, Satin moose" ประมาณ 0.5% นั้น การใช้ส่วนประกอบเพียงชนิดเดียวหรือเบสสำเร็จรูปในปริมาณน้อยๆ มักไม่เพียงพอที่จะกำหนดเนื้อสัมผัสโดยรวมของอิมัลชั่นที่ซับซ้อนได้ค่ะ เนื้อสัมผัสสุดท้ายขึ้นอยู่กับสูตรทั้งหมด รวมถึงสัดส่วนของน้ำต่อ น้ำมัน ระบบสารทำอิมัลชั่นที่ใช้ และชนิดและความเข้มข้นของสารเพิ่มความหนืดและสารช่วยคงตัว
ในการทำอิมัลชั่นเนื้อน้ำนมเหลวที่เทออกจากขวดได้ง่ายแต่ยังคงรู้สึกถึงเนื้อสัมผัส จะต้องใช้เฟสน้ำในสัดส่วนที่สูงกว่า ใช้น้ำมันเนื้อบางเบาในปริมาณปานกลาง เลือกระบบสารทำอิมัลชั่น O/W ที่เหมาะสม และใช้สารเพิ่มความหนืด (เช่น คาร์โบเมอร์ในเฟสน้ำ และอาจมีแฟตตี้แอลกอฮอล์เล็กน้อยในเฟสน้ำมัน) ในความเข้มข้นที่พอเหมาะเพื่อให้ได้ความหนืดตามที่ต้องการ โดยไม่ข้นจนเกินไปเหมือนเนื้อครีมค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

Hyaluronic Acid (Small Molecule)

Fractionated Coconut Oil

Cetyl Alcohol

Cetearyl Alcohol (50/50, e.q. Lanette O)

Carbomer 940 (EasyDisperse™, France)

Ceteareth-10

Stearyl Alcohol

Caprylic/Capric Triglyceride (e.q. Myritol 318)
