ข้อมูลสูตรและขั้นตอนการผสม

นี่คือการตรวจสอบสูตรเครื่องสำอางทั้งสองสูตรของคุณ รวมถึงขั้นตอนการผสมที่ถูกต้อง ความเป็นไปได้ในการผสมด้วยมือ และความเข้ากันได้ของส่วนผสม

สูตร 1

วิธีการผสม: ขั้นตอนการผสมที่คุณเสนอจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตามคุณสมบัติการละลายและความไวต่อความร้อนของส่วนผสม

ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องสำหรับสูตร 1:

1. ส่วนน้ำ (ให้ความร้อน): รวมน้ำและส่วนผสมที่ละลายน้ำได้และทนความร้อนดังนี้: Niacinamide, Prebio-care, Glyceryl glucoside, Jojoba Ester (Water-Soluble), Acetamide MEA, และ Dimethyl Isosorbide (DMI) ให้ความร้อนส่วนนี้ถึงประมาณ 70-80°C
2. ส่วนน้ำมัน (ให้ความร้อน): รวม Ethoxydiglycol กับส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน: Ezerwax™, Silybum Marianum Extract, Natural Bisabolol, Ethyl Linoleate, และ Palmitamide MEA ให้ความร้อนส่วนนี้ถึง 70-80°C เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดละลาย โดยเฉพาะ Ezerwax™ และ Palmitamide MEA
3. การทำอิมัลชัน: เติม Satin Cream Maker™ ลงในส่วนน้ำที่ให้ความร้อนแล้วผสมให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆ เติมส่วนน้ำมันที่ให้ความร้อนลงในส่วนน้ำพร้อมกับผสมอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่องผสมกลไกจนได้เนื้อครีมที่เป็นเนื้อเดียวกัน หลีกเลี่ยงการผสมด้วยความเร็วสูง (>2500 รอบต่อนาที)
4. การทำให้เย็นและการเติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน: ปล่อยให้เนื้อครีมเย็นลงต่ำกว่า 40°C เมื่อเย็นลงแล้ว ให้เติมส่วนผสมที่ละลายน้ำได้และไวต่อความร้อนดังนี้: Natural Moisturizing Amino Acids, Beta Glucan, Ectoin, MOIST72™, Licorice Extract (Licochalcone A), Dipotassium Glycyrrhizate, Trehalose, L-Carnosine, Scutellaria Baicalensis root, และ Oat Avenanthramides ผสมเบาๆ จนเข้ากันดี
5. การเติมส่วนผสมที่กระจายตัว: เติม Centella Asiatica Extract (TECA95%) และปั่นเพื่อกระจายให้ทั่วเนื้อครีมอย่างสม่ำเสมอ ห้ามใช้ความร้อน
6. การเติมสารกันเสีย: เติม Mild Preserve Eco™ ในขั้นตอนสุดท้ายและผสมจนเข้ากันดี

ความเป็นไปได้ในการผสมด้วยมือ (สูตร 1):
การผสมให้ได้เนื้อครีมที่คงตัวและเนียนสม่ำเสมอสำหรับสูตรนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับส่วนผสมที่ต้องใช้ความร้อนในการละลายและการใช้ Satin Cream Maker จะทำได้ยากมากหากผสมด้วยมือเพียงอย่างเดียว แนะนำให้ใช้เครื่องผสมกลไกเพื่อให้ได้อิมัลชันที่ดีและเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อเดียวกัน

ความเข้ากันได้ของส่วนผสม (สูตร 1):
ส่วนผสมส่วนใหญ่เข้ากันได้ อย่างไรก็ตาม Dipotassium Glycyrrhizate และ Oat Avenanthramides อาจทำให้สีเปลี่ยนได้ แนะนำให้เติม ActiveProtec™ OX ที่ 1% เพื่อช่วยป้องกันปัญหานี้

สูตร 2

วิธีการผสม: ขั้นตอนการผสมที่คุณเสนอสำหรับสูตร 2 ก็จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเช่นกัน

ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องสำหรับสูตร 2:

1. ส่วนน้ำ (ให้ความร้อน): รวมน้ำและส่วนผสมที่ละลายน้ำได้และทนความร้อนดังนี้: Niacinamide, Betaine, GlucoBright™, Dimethyl Isosorbide (DMI), Calcium Pantothenate, Poly-Protect, 4MSK, และ ActiveProtec™ OX ให้ความร้อนส่วนนี้ถึงประมาณ 70-80°C
2. ส่วนไกลคอล/น้ำมัน (ให้ความร้อน): รวม Ethoxydiglycol กับส่วนผสมที่ต้องละลายในไกลคอล/น้ำมัน: TXC™ (Cetyl Tranexamate HCl), MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine), และ WhiteCumin™ powder ให้ความร้อนส่วนนี้ถึง 60-80°C เพื่อละลายส่วนผสม
3. การทำอิมัลชัน: เติม Satin Cream Maker™ ลงในส่วนน้ำที่ให้ความร้อนแล้วผสมให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆ เติมส่วนไกลคอล/น้ำมันที่ให้ความร้อนลงในส่วนน้ำพร้อมกับผสมอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่องผสมกลไกจนได้เนื้อครีมที่เป็นเนื้อเดียวกัน หลีกเลี่ยงการผสมด้วยความเร็วสูง (>2500 รอบต่อนาที)
4. การทำให้เย็นและการเติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน: ปล่อยให้เนื้อครีมเย็นลงต่ำกว่า 40°C เมื่อเย็นลงแล้ว ให้เติมส่วนผสมที่ละลายน้ำได้และไวต่อความร้อนดังนี้: Ume Extract, Alpha-Arbutin, Licorice Extract (Glabridin 4.5%), และ EGT-Max™ ผสมเบาๆ จนเข้ากันดี
5. การเติมสารกันเสีย: เติม Mild Preserved Eco™ ในขั้นตอนสุดท้ายและผสมจนเข้ากันดี

ความเป็นไปได้ในการผสมด้วยมือ (สูตร 2):
เช่นเดียวกับสูตร 1 การผสมให้ได้อิมัลชันเนื้อครีมที่คงตัวและเนียนสม่ำเสมอจะทำได้ยากหากผสมด้วยมือเพียงอย่างเดียว แนะนำให้ใช้เครื่องผสมกลไก

ความเข้ากันได้ของส่วนผสม (สูตร 2):
ส่วนผสมโดยทั่วไปเข้ากันได้ ควรควบคุมค่า pH ให้อยู่ระหว่าง 3.5 ถึง 7.0 เพื่อประสิทธิภาพและความคงตัวสูงสุดของสารไวท์เทนนิ่งหลายชนิด 4MSK และ ActiveProtec™ OX เป็นอิเล็กโทรไลต์และอาจส่งผลต่อความหนืดที่ได้จาก Satin Cream Maker™

เกี่ยวกับการทำให้สูตร 2 เป็นเนื้อเหลว:
Satin Cream Maker™ เป็นสารอิมัลชันและสารเพิ่มความหนืดที่ทำให้เกิดเนื้อครีม การนำออกจะทำให้ส่วนน้ำและส่วนน้ำมัน/ไกลคอลแยกชั้นกัน ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่คงตัวและไม่เป็นเนื้อเดียวกัน หากต้องการให้ได้เนื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว (เช่น เซรั่มหรือโทนเนอร์) คุณจะต้องปรับปรุงสูตรอย่างมาก ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการสร้างสูตรที่เป็นน้ำโดยใช้เฉพาะส่วนผสมที่ละลายน้ำได้และอาจใช้สารเพิ่มความหนืดที่ละลายน้ำได้หากต้องการให้เป็นเซรั่มที่มีความหนืดเล็กน้อย หรือใช้วิธีการทำอิมัลชัน/โซลูบิไลซ์ที่แตกต่างกันซึ่งเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว

การนำสารอิมัลชันออกจากสูตรครีมนี้เพียงอย่างเดียวจะไม่ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวที่คงตัวและเป็นเนื้อเดียวกัน