การพัฒนาสูตรเครื่องสำอาง: การใช้งานส่วนผสม การผสม และการดูแลรอยแผลเป็น
คำถาม
ฉันกำลังพัฒนาสูตรเครื่องสำอางและมีคำถามเกี่ยวกับการใช้งานและการผสมส่วนผสมบางอย่างค่ะ
- ฉันวางแผนจะใช้ Shea Butter และได้คำนวณปริมาณโดยอ้างอิงจากกระทู้ก่อนหน้าที่ใช้ 100 กรัม แต่ฉันต้องการทำเพียง 50 กรัม การคำนวณของฉันถูกต้องหรือไม่คะ?
- เมื่อผสมส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ เช่น Quercetin และ N-acetyl glucosamine ควรใช้น้ำกลั่นใช่ไหมคะ?
- น้ำมันสำหรับเครื่องสำอางสามารถนำมานวดตัวได้โดยตรงเลยหรือไม่คะ?
- ขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการผสมส่วนน้ำมันและส่วนน้ำ การทำงานของสารประสานเนื้อครีม เช่น Light Cream Maker และอัตราส่วนการใช้งานที่เหมาะสมของส่วนผสมต่างๆ เช่น Cetrimonium Chloride (CTAC), Sea Kelp Extract และ Lactic Acid (AHA) 90% Deodorized ในสูตรเครื่องสำอาง โดยเฉพาะสำหรับการลดรอยแผลเป็นค่ะ
คำตอบ
คู่มือการผสมส่วนผสมเครื่องสำอางและการลดรอยแผลเป็น
ยินดีต้อนรับสู่โลกของการทำเครื่องสำอางค่ะ! เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณสนใจที่จะลองทำผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เรามาดูคำถามของคุณทีละข้อนะคะ
หลักการผสมเบื้องต้น
ส่วนผสมต่างๆ โดยทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็นส่วนที่ละลายในน้ำ (water phase) และส่วนที่ละลายในน้ำมัน (oil phase) หากต้องการผสมส่วนผสมทั้งสองส่วนเข้าด้วยกันให้เป็นเนื้อครีมหรือโลชั่นที่คงตัว จะต้องใช้สารประสานเนื้อครีม (emulsifier) เช่น Light Cream Maker
- Shea Butter (Ultra Soft): เป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน เข้ากันได้ดีกับน้ำมันอื่นๆ แต่ไม่ละลายในน้ำโดยตรง
- Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™): เป็นสารสกัดที่ละลายในน้ำ เข้ากันได้ดีกับน้ำและส่วนผสมอื่นๆ ที่ละลายในน้ำ
- Sodium Lactate (60% Liquid, Natural): เป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำเช่นกัน เข้ากันได้ดีกับน้ำและส่วนผสมอื่นๆ ที่ละลายในน้ำ
ดังนั้น คุณไม่สามารถนำ Shea Butter มาผสมกับ Aloe Vera Extract และ Sodium Lactate โดยตรงโดยไม่มีสารประสานเนื้อครีม หากต้องการให้ส่วนผสมเข้ากันและคงตัวเป็นเนื้อครีมหรือโลชั่น คุณจะต้องแบ่งส่วนผสมเป็นส่วนน้ำมัน (Shea Butter, Safflower Seed Oil ถ้าใช้) และส่วนน้ำ (น้ำ, Aloe Vera Extract, Sodium Lactate, Acetyl Glucosamine, Quercetin ถ้าเป็นชนิดละลายน้ำ) จากนั้นจึงนำมารวมกันโดยใช้สารประสานเนื้อครีม เช่น Light Cream Maker
การใช้งานส่วนผสมแต่ละชนิด
Cetrimonium Chloride (CTAC): ส่วนผสมนี้ใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม เพื่อลดไฟฟ้าสถิต ทำให้ผมนุ่มลื่น หวีง่าย ไม่ได้มีไว้สำหรับฉีดผมโดยตรงเพียงอย่างเดียว ต้องนำไปผสมในแชมพูหรือครีมนวดผมตามอัตราส่วนที่แนะนำ (0.5-2.0% สำหรับผลิตภัณฑ์เส้นผม)
Sea Kelp Extract: สารสกัดนี้ละลายในน้ำ มีลักษณะเป็นเนื้อเจลเหลว สามารถใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้หลากหลายรูปแบบ เช่น เจล เซรั่ม โลชั่น หรือครีม จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ระบุอัตราการใช้ที่ 1-10% (แนะนำ 1-3% สำหรับผิว) สามารถทาผิวหน้าและผิวกายได้ และสามารถใช้ร่วมกับเครื่องนวดได้ หากใช้ในอัตราที่สูงมาก อาจมีกลิ่นคาวจากน้ำทะเลได้ ควรระมัดระวัง
Lactic Acid (AHA) 90% Deodorized: เป็นกรดผลไม้ (AHA) ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและให้ความชุ่มชื้น ละลายในน้ำได้ คุณสามารถผสมกับน้ำได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องใช้อัตราส่วนที่แนะนำ (1-10% สำหรับผู้บริโภค ไม่เกิน 10%) และควบคุมค่า pH ของผลิตภัณฑ์สุดท้ายไม่ให้ต่ำกว่า 3.5 การใช้ AHA จะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดเสมอ คุณสามารถใช้ Lactic Acid ที่ผสมตามสัดส่วนที่ถูกต้องร่วมกับเครื่องนวดได้ แต่ควรสังเกตปฏิกิริยาของผิวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นมือใหม่
การลดรอยแผลเป็นและสูตรที่คุณเสนอ
สำหรับการลดรอยแผลเป็น โดยเฉพาะที่ขา ส่วนผสมที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวและช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนจะให้ผลดี Quercetin โดยเฉพาะชนิดสารสกัดจากหัวหอม (Hi-Quercetin®) มีคุณสมบัติช่วยสมานแผลและลดโอกาสการเกิดแผลเป็น ใหม่ แต่จะเห็นผลน้อยกับแผลเป็นเก่า Acetyl Glucosamine (GlucoBright™) สามารถช่วยให้ผิวกระจ่างใสและปรับปรุงสภาพผิว ซึ่งอาจช่วยให้รอยแผลเป็นดูจางลงเมื่อใช้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Niacinamide (วิตามินบี 3)
แนวคิดสูตรที่คุณเสนอโดยใช้ Shea Butter, Safflower Seed Oil, Quercetin, Acetyl Glucosamine, Light Cream Maker, Phenoxyethanol และน้ำ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับครีมบำรุงผิวที่เน้นการให้ความชุ่มชื้น ปรับปรุงสภาพผิว และอาจช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นใหม่ได้
ลำดับการผสม: หลักการทั่วไปในการทำครีมโดยใช้ Light Cream Maker คือการผสมส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน (Shea Butter, Safflower Seed Oil) ในส่วนหนึ่ง (อาจมีการให้ความร้อนเล็กน้อยเพื่อละลายบัตเตอร์) และส่วนผสมที่ละลายในน้ำ (น้ำ, Aloe Vera Extract, Sodium Lactate, Acetyl Glucosamine, Quercetin ถ้าใช้ชนิดสารสกัดละลายน้ำ) ในอีกส่วนหนึ่ง โดยทั่วไปจะเติม Light Cream Maker ลงในส่วนน้ำมัน จากนั้นจึงค่อยๆ เติมส่วนน้ำลงในส่วนน้ำมันพร้อมคน หรือสลับกัน ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของสารประสานเนื้อครีมชนิดนั้นๆ ส่วนผสมที่ไวต่อความร้อนหรือเป็นอิเล็กโทรไลต์ (เช่น Sodium Lactate, Aloe Vera Extract และสารสกัด Quercetin) ควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากส่วนผสมเย็นลง หรือค่อยๆ เติมอย่างระมัดระวังตามคำแนะนำของ Light Cream Maker เพื่อป้องกันเนื้อครีมเหลว
ชนิดของน้ำ: ใช่ค่ะ แนะนำให้ใช้น้ำกลั่นในการผสมเครื่องสำอาง เพื่อให้มั่นใจในความบริสุทธิ์และหลีกเลี่ยงการนำแร่ธาตุหรือสิ่งปนเปื้อนที่อาจส่งผลต่อความคงตัวหรือประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
สถานะสินค้า Quercetin: ดิฉันไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะสินค้าได้ค่ะ กรุณาตรวจสอบที่หน้าเว็บไซต์โดยตรงสำหรับข้อมูลสินค้าคงคลังปัจจุบัน
การใช้น้ำมันและน้ำโดยตรง
น้ำมันสำหรับนวดตัว: ใช่ค่ะ น้ำมันบริสุทธิ์เกรดเครื่องสำอางหลายชนิด เช่น Safflower Seed Oil สามารถนำมาใช้ทาผิวนวดตัวได้โดยตรง ควรตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์สำหรับคำแนะนำการใช้งานเฉพาะ
การผสมส่วนผสมเดี่ยวกับน้ำ: ส่วนผสมบางชนิดที่ละลายน้ำได้สามารถนำมาผสมกับน้ำเพื่อใช้ทาได้โดยตรง (เช่น Lactic Acid ในความเข้มข้นและ pH ที่เหมาะสม) แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับส่วนผสมนั้นๆ และคำแนะนำการใช้งานที่ระบุไว้ในข้อมูลผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่ส่วนผสมเดี่ยวทุกชนิดที่ปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพเมื่อผสมกับน้ำเปล่าแล้วนำมาใช้โดยตรง
การทา Shea Butter โดยตรง: ใช่ค่ะ Shea Butter สามารถนำมาทาผิวโดยตรงเพื่อบำรุงให้ความชุ่มชื้นได้ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ Shea Butter (Ultra Soft) ระบุว่าสามารถใช้ได้ในอัตรา 1-100% และทาโดยตรงได้ค่ะ
โปรดจำไว้ว่าควรเริ่มต้นจากการทำในปริมาณน้อยๆ เสมอ ปฏิบัติตามอัตราส่วนการใช้งานที่แนะนำ และทดสอบกับผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้กับพื้นที่กว้าง โดยเฉพาะหากคุณมีผิวแพ้ง่ายค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)

Sea Kelp Extract

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

NaturalProfile™ Safflower Seed Oil (Cold-Pressed)

Light Cream Maker™

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Cetrimonium Chloride (CTAC)

Shea Butter (Ultra Soft)

Pure-Quercetin™ (98% Purity, Powder)
