การพัฒนาสูตรเจลทาหน้าสำหรับสิว ริ้วรอย และความกระจ่างใส: การปรับส่วนผสมและลำดับการผสม

สวัสดีค่ะ

ได้ตรวจสอบสูตรเจลทาหน้าที่คุณต้องการทำเพื่อช่วยเรื่องริ้วรอย (ยังไม่มาก) สิวอุดตัน รอยสิว ผิวเนียนใส สำหรับผิวผสม พร้อมคำถามและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่แล้วค่ะ

ขอตอบคำถามของคุณดังนี้ค่ะ:

1. เจลจะหนืดไปไหม / น้ำน้อยไปไหม: ในสูตรเดิมที่คุณใช้ Pro Polymer 2% นั้น อาจทำให้เนื้อเจลมีความหนืดค่อนข้างมาก ซึ่งอาจจะหนืดเกินไปสำหรับเจลทาหน้า โดยเฉพาะผิวผสมค่ะ คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ให้ลองลด Pro Polymer ลงเหลือ 1% เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีค่ะ คุณสามารถปรับเพิ่มหรือลดปริมาณ Pro Polymer ได้ตามความชอบของเนื้อเจลที่ต้องการค่ะ ปริมาณน้ำจะถูกปรับตามส่วนผสมอื่นๆ เพื่อให้รวมกันครบ 100% ค่ะ
2. มีสารตัวไหนไม่จำเป็น หรือผสมในสูตรเดียวกันไม่ได้บ้างไหม:
   • จากเป้าหมายของคุณและสภาพผิวผสม คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ให้ตัด Tea Tree Oil (Australian - Water Soluble) ออกนั้นเหมาะสมค่ะ เนื่องจาก Tea Tree Oil มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเหมาะกับสิวอักเสบมากกว่าสิวอุดตันที่คุณกังวลเป็นหลักค่ะ
   • สำหรับผิวผสม การใช้ Double Hyaluron Liquid อาจให้ความชุ่มชื้นมากเกินไปในบริเวณ T-zone ค่ะ คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ให้เลือกใช้ส่วนผสมที่ช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้นแทนจึงเหมาะสมกว่าค่ะ
   • ส่วนผสมอื่นๆ ในสูตรของคุณโดยทั่วไปสามารถเข้ากันได้ในสูตรเจลที่ใช้น้ำเป็นเบสค่ะ อย่างไรก็ตาม ปริมาณ Phenoxyethanol ในสูตรเดิมของคุณ (0.15%) น้อยกว่าปริมาณที่แนะนำโดยทั่วไป (0.5-1.0%) สำหรับการเป็นสารกันเสียที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยและความคงตัวของผลิตภัณฑ์ การเพิ่มปริมาณ Phenoxyethanol ให้ได้อย่างน้อย 0.5% เป็นสิ่งจำเป็นค่ะ
3. Adenosine ต้องใส่ทีหลังหลังจากเกิดเนื้อเจลแล้วใช่ไหม เพราะจะทำให้เจลเหลวขึ้น: คำอธิบายของเจ้าหน้าที่ถูกต้องค่ะ การใส่ Adenosine Complex หลังจากที่สร้างเนื้อเจลแล้วจะช่วยให้ผสมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะหากไม่มีเครื่องปั่นความเร็วสูง เพราะจะช่วยให้สารสร้างเนื้อเจล (Pro Polymer) ดูดซับน้ำและขึ้นเนื้อได้เต็มที่ก่อนค่ะ แม้ว่า Adenosine อาจทำให้เนื้อเจลเหลวลงเล็กน้อย แต่สามารถปรับแก้ได้โดยการเพิ่มหรือลดปริมาณ Pro Polymer ค่ะ หากใช้ความร้อนในกระบวนการผลิต ควรใส่ Adenosine Complex หลังจากที่สูตรเย็นลงแล้วค่ะ
4. ระหว่างสารกันเสียและ Adenosine ตัวไหนควรใส่หลังสุดจริงๆ: ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หากสูตรมีการใช้ความร้อน ควรใส่ส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน เช่น Phenoxyethanol (หลีกเลี่ยงความร้อนเกิน 80°C) และ Adenosine Complex (แนะนำให้เก็บในตู้เย็น อาจบ่งชี้ว่าไวต่อความร้อน) หลังจากที่สูตรเย็นลงแล้วค่ะ หากสูตรไม่ได้ใช้ความร้อน ลำดับการใส่ระหว่างสองตัวนี้ไม่ต่างกันมากนักค่ะ สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าส่วนผสมละลายหรือกระจายตัวเข้ากับเนื้อเจลได้ดีค่ะ

สูตรที่ปรับปรุงแนะนำ:

พิจารณาจากเป้าหมายของคุณ สภาพผิวผสม และคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ ขอเสนอสูตรที่ปรับปรุงแล้วเพื่อให้มีประสิทธิภาพและความคงตัวที่ดีขึ้นดังนี้ค่ะ:

• Repair Activator™: 10%
• Matrixyl™ 3000: 6%
• Galactomyces Ferment Filtrate (Pitera): 4%
• GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine): 4%
• Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): 5%
• Adenosine Complex: 1.5%
• Pro Polymer™: 1%
• Phenoxyethanol: 0.5%
• น้ำ (Water): 68%

สูตรที่ปรับปรุงนี้ได้ตัดส่วนผสมที่อาจไม่ตรงกับความกังวลเรื่องสิวอุดตันและสภาพผิวผสมออกไป เพิ่มปริมาณส่วนผสมหลักที่มีประโยชน์หลายด้าน (Safe-B3™) ปรับสารสร้างเนื้อเจลเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่เหมาะสมขึ้น และปรับปริมาณสารกันเสียเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยและคงตัวค่ะ