การพัฒนาสูตรเจลล้างหน้า: การเพิ่ม BHA และปรับสูตรสำหรับผิวมัน

ถามโดย: jamejirack เมื่อ: February 21, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังพัฒนาสูตรเจลล้างหน้าสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมันเล็กน้อย โดยเน้นเรื่องความสะอาดและการควบคุมความมัน สูตรเริ่มต้นที่คิดไว้มีการใช้สารชะล้างกลุ่มอ่อนโยน สารเพิ่มฟอง และสารบำรุงผิวหลายชนิด มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรดังนี้ค่ะ:

  1. ประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์ล้างออก: ใน Phase B ของสูตรมี Vitamin B5, Allantoin, MSM, Vitamin B3, และ Zinc PCA อยากทราบว่าสารเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหนเมื่อใช้ในผลิตภัณฑ์แบบ Wash-off อย่างเจลล้างหน้า เนื่องจากมีระยะเวลาสัมผัสผิวสั้น?
  2. การใส่น้ำมัน (Phase C): สูตรเริ่มต้นมีการใช้ Phase C ที่มี Fractionated Coconut Oil และ Tween การใส่น้ำมันในเจลล้างหน้าที่เน้นควบคุมความมันเหมาะสมหรือไม่? สูตรที่เจ้าหน้าที่แนะนำได้ตัดส่วนนี้ออกไป อยากทราบเหตุผลและผลกระทบของการใส่น้ำมันค่ะ
  3. ขั้นตอนการผสม: ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องสำหรับสูตรแบบนี้ควรเป็นอย่างไร เปรียบเทียบกับขั้นตอนที่คิดไว้กับที่เจ้าหน้าที่แนะนำ?
  4. การเพิ่ม BHA (Salicylic Acid): ต้องการเพิ่ม BHA (Salicylic Acid) เข้าไปในสูตรเพื่อช่วยควบคุมความมันและผลัดเซลล์ผิว ควรผสม Salicylic Acid เข้าไปในสูตรเจลล้างหน้าเบสน้ำนี้อย่างไรให้ถูกต้อง? ต้องใช้ Polysorbate 20 (Tween 20) ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์เพื่อช่วยในการละลาย และการเติม BHA จะส่งผลต่อการปรับค่า pH อย่างไร?
  5. ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์ที่คาดหวัง: จากสูตรที่เจ้าหน้าที่แนะนำซึ่งมีการใช้สารสร้างเนื้อเจลและ Creamy Foamer™ เนื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้ควรมีลักษณะเป็นอย่างไร?

ต้องการทำสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองและแฟน (ผิวธรรมดาถึงผิวมันเล็กน้อย) และต้องการให้แน่ใจว่าสูตรถูกต้องและมีประสิทธิภาพค่ะ

คำตอบ

การทำเจลล้างหน้าสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมันเล็กน้อย

การประเมินสูตรและข้อเสนอแนะ

สูตรที่คุณคิดขึ้นมาเริ่มต้นได้ดีค่ะ โดยใช้สารชะล้างกลุ่มอ่อนโยนอย่าง Lauryl Glucoside และ Coco Wash™ ร่วมกับ Creamy Foamer™ เพื่อเพิ่มฟอง ซึ่งเป็นแนวทางที่เหมาะสมสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมันเล็กน้อยที่ต้องการความสะอาดและการควบคุมความมัน

สำหรับส่วนผสมบำรุงผิวใน Phase B เช่น Vitamin B5, Allantoin, MSM, Vitamin B3, และ Zinc PCA ตามที่เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อเสนอแนะไว้ว่า สารเหล่านี้มีประโยชน์ต่อผิวมากเมื่ออยู่ในผลิตภัณฑ์แบบ Leave-on (ทาทิ้งไว้บนผิว) แต่ในผลิตภัณฑ์แบบ Wash-off (ล้างออก) ระยะเวลาที่สารสัมผัสผิวจะสั้นมาก ทำให้ได้รับประโยชน์น้อยลง อย่างไรก็ตาม การใส่สารเหล่านี้ในปริมาณที่คุณระบุไว้ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตราย และอาจให้ประโยชน์ในด้านความรู้สึกหลังใช้ได้บ้างค่ะ

ในส่วนของ Phase C ที่มีการใช้น้ำมัน Fractionated Coconut Oil และ Tween นั้น ตามสูตรที่เจ้าหน้าที่แนะนำได้ตัดส่วนนี้ออกไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วในเจลล้างหน้าแบบที่เน้นความสะอาดและควบคุมความมัน มักจะไม่นิยมเติมน้ำมันลงไปโดยตรง เพราะจุดประสงค์หลักคือการชะล้างน้ำมันส่วนเกินออกจากผิว การเติมน้ำมันอาจทำให้รู้สึกว่าล้างออกได้ไม่สะอาดเท่าที่ควรค่ะ

หากคุณต้องการเพิ่มฟอง Coco-Betaine ที่คุณกล่าวถึงก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ สามารถเสริมเข้าไปในกลุ่มสารชะล้างได้เพื่อช่วยเรื่องฟองและความอ่อนโยน

ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์

ตามสูตรที่เจ้าหน้าที่แนะนำ ซึ่งมีการใช้สารสร้างเนื้อเจล (Thickener) และมีส่วนผสมของ Creamy Foamer™ เนื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้จะเป็นลักษณะ เจลสีขาว ค่ะ ความข้นหนืดจะขึ้นอยู่กับปริมาณของสารสร้างเนื้อเจลที่ใช้

ขั้นตอนการผสม

ขั้นตอนการผสมที่เจ้าหน้าที่แนะนำนั้นเหมาะสมและทำได้ง่ายกว่าสูตรที่คุณคิดไว้ค่ะ โดยมีลำดับดังนี้:

  1. ผสมส่วนผสมใน Phase A (สารชะล้าง, Propylene Glycol, Glycerin) เข้าด้วยกัน โดยอาจใช้ความร้อนประมาณ 60-70 องศาเซลเซียสช่วยในการละลาย Creamy Foamer™ และ Lauryl Glucoside ซึ่งจะข้นหนืดในอุณหภูมิปกติ
  2. ผสมส่วนผสมใน Phase B (สารบำรุง, สารสร้างเนื้อเจล, น้ำ) เข้าด้วยกัน คนจนได้เนื้อเจล
  3. ค่อยๆ เทส่วนผสม Phase A ลงใน Phase B พร้อมคนเบาๆ ให้เข้ากัน หลีกเลี่ยงการคนแรงๆ เพื่อไม่ให้เกิดฟองมากเกินไป
  4. ปรับค่า pH ของสูตรให้ได้ประมาณ 4.5-6 ด้วย Lactic Acid
  5. เติมสารกันเสีย Phenoxyethanol ในขั้นตอนสุดท้าย

ขั้นตอนของเจ้าหน้าที่นี้จะง่ายและเข้ากันได้ดีกว่าการแยก Phase C ที่มีน้ำมันค่ะ

การเพิ่ม BHA (Salicylic Acid)

คุณสามารถเพิ่ม BHA (Salicylic Acid) ลงในสูตรได้ค่ะ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ โดยมีแนวทางดังนี้:

  1. ละลาย Salicylic Acid ใน Propylene Glycol ก่อน เนื่องจาก Salicylic Acid ไม่ละลายในน้ำโดยตรง
  2. เติม Polysorbate 20 (Tween 20) ประมาณ 3-5% ลงในส่วนผสมของ Salicylic Acid และ Propylene Glycol เพื่อช่วยในการประสาน Salicylic Acid ที่ละลายใน Propylene Glycol ให้เข้ากับเบสของเจลล้างหน้าซึ่งเป็นส่วนของน้ำ
  3. นำส่วนผสม BHA ที่ละลายแล้วนี้ไปเติมในขั้นตอนการผสมตามปกติ (อาจจะรวมไปกับ Phase A หรือเติมหลังจากผสม A+B แล้วก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการผสม แต่ควรเติมก่อนปรับ pH)
  4. เนื่องจาก Salicylic Acid มีความเป็นกรดอยู่แล้ว การเติม BHA จะทำให้ค่า pH ของสูตรลดลง ดังนั้นในการปรับ pH ด้วย Lactic Acid คุณอาจจะต้องใช้ Lactic Acid ในปริมาณที่น้อยลง หรืออาจจะไม่ต้องเติมเลยก็ได้ ต้องทำการวัดค่า pH หลังเติม BHA ก่อน แล้วจึงค่อยๆ ปรับด้วย Lactic Acid ทีละน้อยจนได้ค่า pH ที่ต้องการ (4.5-6)

การเพิ่ม BHA จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมความมันและผลัดเซลล์ผิว ซึ่งเหมาะกับสภาพผิวของคุณและแฟนค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Allantoin
Allantoin
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
Propylene Glycol
Propylene Glycol
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Polysorbate 20 (Tween 20)
Polysorbate 20 (Tween 20)
เครื่องสำอาง
Lauryl Glucoside
Lauryl Glucoside
เครื่องสำอาง
Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate)
Coco Wash™ (PEG-7 Glyceryl Cocoate)
เครื่องสำอาง
Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)
Pure MSM™ (Methylsulfonylmethane)
เครื่องสำอาง
Zinc PCA
Zinc PCA
เครื่องสำอาง
Lactic Acid (AHA) Neutralized
Lactic Acid (AHA) Neutralized
เครื่องสำอาง
Coco-Betaine (e.q. Dehyton AB30)
Coco-Betaine (e.q. Dehyton AB30)
เครื่องสำอาง