การพัฒนาสูตรเจลว่านหางจระเข้เพื่อความชุ่มชื้นและชะลอวัย
คำถาม
ต้องการพัฒนาสูตรเจลว่านหางจระเข้ที่เน้นให้ความชุ่มชื้นและช่วยเรื่องการชะลอวัย โดยมีวัตถุดิบหลายชนิดอยู่แล้ว และอยากทราบคำแนะนำเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์การใช้ที่เหมาะสม และวิธีการผสมเพื่อให้ได้เนื้อเจลที่บางเบา ซึมง่าย และมีความคงตัว เหมือนกับผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่เคยใช้ วัตถุดิบที่พิจารณาใช้ ได้แก่:
- สารสกัดว่านหางจระเข้ (Aloe Vera Extract)
- สารสกัดใบบัวบก (Centella Asiatica Extract)
- โซเดียม ไฮยาลูรอเนต (Sodium Hyaluronate)
- เบต้า กลูแคน (Beta Glucan)
- อัลลันโทอิน (Allantoin)
- ฟีน็อกซีเอทานอล (Phenoxyethanol) (เป็นสารกันเสีย)
- กลีเซอรีน (Glycerin)
- โพรไพลีน ไกลคอล (Propylene Glycol)
- ไดเมทิล ไอโซซอร์ไบด์ (Dimethyl Isosorbide (DMI))
- แซนแทน กัม (Xanthan Gum) (หรือ ไฮดรอกซีเอทิลเซลลูโลส (Hydroxyethylcellulose) เป็นสารก่อเจล)
ขอคำแนะนำเปอร์เซ็นต์การใช้ที่เหมาะสมสำหรับวัตถุดิบเหล่านี้ โดยเฉพาะ Sodium Hyaluronate และขั้นตอนการผสมเบื้องต้นด้วยครับ สนใจเป็นพิเศษว่าตัวทำละลาย/ตัวนำพาสารเข้าสู่ผิว เช่น Propylene Glycol, Glycerin, หรือ DMI จำเป็นหรือไม่ และสารก่อเจลระหว่าง Xanthan Gum กับ Hydroxyethylcellulose แบบไหนจะใช้งานง่ายกว่าสำหรับการทำเองโดยไม่มีเครื่องปั่นความเร็วสูง
คำตอบ
การทำเจลว่านหางจระเข้เพื่อความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอย
จากส่วนประกอบที่คุณมีและเป้าหมายที่ต้องการเนื้อเจลบางเบา ซึมง่าย คงตัวได้นาน และเน้นเรื่องความชุ่มชื้นกับริ้วรอย สามารถพิจารณาและปรับสูตรได้ดังนี้ครับ
ตัวนำสารเข้าสู่ผิว / ตัวทำละลาย (Propylene Glycol, Glycerin, Dimethyl Isosorbide (DMI))
ตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง สารเหล่านี้ไม่ได้จำเป็นต่อการละลายสารอื่นๆ ในสูตรของคุณโดยตรง เนื่องจากส่วนใหญ่ละลายน้ำได้ดีอยู่แล้ว แต่ Glycerin (กลีเซอรีน) เป็นสารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) ที่ดีมาก ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว ทำให้เนื้อเจลมีความนุ่มลื่นและน่าใช้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยละลายสารสกัดจากพืชบางชนิดและอาจช่วยนำพาสารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำได้เข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
Propylene Glycol (โพรไพลีน ไกลคอล) ก็เป็น Humectant และตัวทำละลายที่ดีเช่นกัน ส่วน Dimethyl Isosorbide (DMI) เป็นตัวนำพาสารที่เข้มข้นกว่า มักใช้กับสารออกฤทธิ์ที่ละลายยากหรือต้องการการซึมผ่านผิวที่ลึกขึ้น ซึ่งอาจไม่จำเป็นสำหรับสูตรพื้นฐานนี้
หากต้องการให้เนื้อเจลมีความชุ่มชื้นและสัมผัสที่ดีขึ้น การใส่ Glycerin ในปริมาณเล็กน้อย (เช่น 2-5%) เป็นทางเลือกที่ดีครับ ตามสูตรที่คุณอ้างอิงก็มีการใช้ Glycerin เช่นกัน
สารก่อเจล (Xanthan Gum vs. Hydroxyethylcellulose)
- Xanthan Gum (แซนแทน กัม): ใช้งานง่ายกว่ามาก เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเครื่องปั่นความเร็วสูง สามารถกระจายตัวในน้ำได้ค่อนข้างง่ายและขึ้นเจลได้ดี ให้เนื้อเจลที่คงตัว มีผลิตภัณฑ์ Xanthan Gum (clear gel type, smooth texture) ที่ให้เนื้อใสและสัมผัสดี
- Hydroxyethylcellulose (ไฮดรอกซีเอทิลเซลลูโลส): สามารถให้เนื้อเจลที่ใสกว่าและสัมผัสที่แตกต่างออกไปได้ แต่ต้องใช้วิธีการผสมที่ถูกต้อง (เช่น การกระจายตัวในน้ำร้อนหรือการใช้ตัวช่วยกระจายตัว) เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน มีผลิตภัณฑ์ Hydroxyethyl Cellulose (HEC) (2800mPa.s) ให้เลือกใช้
สำหรับสูตรที่ทำง่ายและให้เนื้อเจลที่คงตัว แนะนำ Xanthan Gum ครับ ใช้ในปริมาณ 0.2-1% เพื่อให้ได้ความหนืดตามต้องการ หากต้องการเนื้อบางเบา ให้เริ่มที่ 0.2-0.5%
เปอร์เซ็นต์การใช้ส่วนประกอบต่างๆ
- Aloe Vera Extract (สารสกัดว่านหางจระเข้): เปอร์เซ็นต์การใช้ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารสกัดที่คุณใช้ (เช่น สารสกัด 10:1 หรือผง 200x) ควรตรวจสอบคำแนะนำจากผู้จำหน่าย สำหรับสารสกัดว่านหางจระเข้ชนิด Aloe Vera Extract (extraction ratio 10:1 FullAssay™) สามารถใช้ได้ในอัตรา 1-10% (3% เทียบเท่าว่านหางจระเข้สด 30%)
- Centella Asiatica Extract (สารสกัดใบบัวบก): 5% เป็นอัตราการใช้ที่พบได้บ่อยในสารสกัดใบบัวบกแบบมาตรฐาน หรือหากใช้สารสกัดใบบัวบกชนิด Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%) หรือ Pure-TECA™ Centella Asiatica Extract (TECA 95%, CICA) ซึ่งมีความเข้มข้นสูงมาก อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 0.1-2% (แนะนำ 1%)
- Sodium Hyaluronate (โซเดียม ไฮยาลูรอเนต): ตามคำแนะนำของ cosmeceutical7 การใช้ 3% อาจสูงเกินไปและทำให้รู้สึกเหนอะหนะ หรือในสภาพอากาศแห้งมากอาจดึงน้ำออกจากผิวได้ อัตราการใช้ที่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีและเหมาะสมมักอยู่ในช่วง 0.1-1% มีผลิตภัณฑ์ Super-HYA™ (Sodium Acetylated Hyaluronate, AcHA) ซึ่งเป็น Sodium Hyaluronate ชนิดหนึ่งให้เลือกใช้
- Hyaluronic Acid (HA) vs Sodium Hyaluronate (NaHA): HA คือรูปแบบกรด ส่วน NaHA คือรูปแบบเกลือ NaHA มีความเสถียรและละลายน้ำได้ดีกว่า จึงนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากกว่า
- "Nano" Hyaluronic Acid: หมายถึง Sodium Hyaluronate ที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำมาก ซึ่งเชื่อว่าสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ลึกกว่า NaHA ทั่วไป แต่การใช้ Sodium Hyaluronate แบบมาตรฐานในอัตรา 0.1-1% ก็ให้ความชุ่มชื้นที่ดีได้แล้วครับ
- Beta Glucan (เบต้า กลูแคน): 1% เป็นอัตราการใช้ที่เหมาะสมสำหรับ Beta Glucan
- Beta Glucan จาก Oat vs ยีสต์: ทั้งสองชนิดเป็น Humectant ที่ดี ช่วยปลอบประโลมผิวและเสริมเกราะป้องกันผิว Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract) (จากยีสต์) มักถูกกล่าวถึงเรื่องการกระตุ้นภูมิคุ้มกันผิวและอาจซึมได้ดีกว่าเนื่องจากขนาดเล็กกว่า ส่วน Beta Glucan 70% (Oat Extract, Water-Soluble) หรือ Beta Glucan 90% (Oat Extract, Water-Soluble) (จากข้าวโอ๊ต) มีชื่อเสียงด้านการปลอบประโลมและลดการระคายเคือง ทั้งสองชนิดเป็นตัวเลือกที่ดี การเลือกขึ้นอยู่กับคุณสมบัติรองที่ต้องการ หรือสามารถใช้ร่วมกันได้
- Allantoin (อัลลันโทอิน): มักใช้ในอัตรา 0.1-0.5% เป็นสารที่ช่วยลดการระคายเคืองและส่งเสริมการฟื้นฟูผิว อัตราการละลายในน้ำที่อุณหภูมิห้องคือประมาณ 0.5% ดังนั้นการใช้ไม่เกิน 0.5% จะละลายได้หมดในน้ำเปล่า หากใช้ร่วมกับ Glycerin 5% จะละลายได้ถึง 0.8% มีผลิตภัณฑ์ Allantoin ให้เลือกใช้
- Phenoxyethanol (ฟีน็อกซีเอทานอล): เป็นสารกันเสียที่นิยมใช้ อัตราการใช้ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพคือ 0.5-1% ควรใช้ผลิตภัณฑ์ Phenoxyethanol (Extra Pure) และใช้ตามคำแนะนำของผู้จำหน่ายเพื่อให้แน่ใจว่าสูตรของคุณได้รับการปกป้องจากเชื้อจุลินทรีย์อย่างเพียงพอ
ส่วนประกอบอื่นๆ ที่ควรเติมเพื่อเพิ่มความคงตัว
ตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง ส่วนผสมที่คุณเลือกมามีแนวโน้มที่จะคงตัวได้ดีในโครงสร้างเจลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปให้อยู่ในช่วง 5-6 ซึ่งเป็นค่า pH ที่เหมาะสมกับผิวและช่วยให้สารกันเสียทำงานได้เต็มที่ เป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ อาจต้องใช้สารปรับ pH เช่น Citric Acid (กรดซิตริก) เล็กน้อยเพื่อปรับค่า pH หลังผสมส่วนประกอบทั้งหมดแล้ว
ตัวอย่างสูตรเบื้องต้น
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและชนิดของวัตถุดิบที่ใช้:
- Purified Water: ส่วนที่เหลือจนครบ 100%
- Glycerin: 3-5%
- Aloe Vera Extract: ตามคำแนะนำผู้จำหน่าย (เช่น 5-10% ของชนิด 10:1)
- Xanthan Gum: 0.3-0.5% (ปรับตามความหนืดที่ต้องการ)
- Centella Asiatica Extract: 5% (หากเป็นสารสกัดมาตรฐาน) หรือ 1% (หากเป็นชนิดความเข้มข้นสูง เช่น Madecassoside 90%)
- Sodium Hyaluronate: 0.1-0.5%
- Beta Glucan: 1% (เลือกชนิด Oat หรือ Yeast หรือผสมกัน)
- Allantoin: 0.2-0.5%
- Phenoxyethanol: 0.5-1%
- Citric Acid Solution (สำหรับปรับ pH): เล็กน้อยตามต้องการ
ขั้นตอนการผสมโดยทั่วไป
- ชั่งน้ำบริสุทธิ์
- กระจาย Xanthan Gum ใน Glycerin เล็กน้อย หรือค่อยๆ โรยลงในน้ำพร้อมคน/ปั่นแรงๆ เพื่อไม่ให้จับตัวเป็นก้อน คนหรือปั่นจนขึ้นเจลใสและเข้ากันดี
- ในภาชนะแยกต่างหาก ละลาย Allantoin ในน้ำหรือ Glycerin เล็กน้อย
- เติมสารละลาย Allantoin, Sodium Hyaluronate, Beta Glucan, และสารสกัดต่างๆ (ว่านหางจระเข้, ใบบัวบก) ลงในส่วนของน้ำที่ขึ้นเจลแล้ว คนหรือปั่นให้เข้ากันดี
- เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว เติม Phenoxyethanol คนให้เข้ากัน
- วัดค่า pH หากสูงกว่า 6 ให้ค่อยๆ เติมสารละลาย Citric Acid ทีละน้อย พร้อมคนและวัดค่า pH จนได้ค่าที่ต้องการ (5-6)
- บรรจุลงในภาชนะที่สะอาด
การทำเครื่องสำอางต้องอาศัยความแม่นยำในการชั่งตวง ความสะอาด และการทดสอบความคงตัวและประสิทธิภาพของสารกันเสีย (Challenge Test) เพื่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Allantoin

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)

Propylene Glycol

Glycerin (USP/Food Grade)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Xanthan Gum (ชนิดเจลใส, เนื้อเนียนไม่ยืด)

Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract)

Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)

Dimethyl Isosorbide (DMI)

Hydroxyethyl Cellulose (HEC) (2800mPa.s)

Super-HYA™ (Sodium Acetylated Hyaluronate, AcHA)

Beta Glucan 70% (Oat Extract, Water-Soluble)
