คู่มือการผสมเจล AHA

นี่คือคำแนะนำในการผสมเจล AHA สำหรับผิวกายและผิวหน้าของคุณ รวมถึงวิธีการผสม เปอร์เซ็นต์ที่แนะนำสำหรับผิวหน้ามันที่ต้องการให้ผิวขาว และข้อเสนอแนะในการปรับปรุงสูตร

สำหรับวิธีการละลายผง Glycolic Acid 100% ตามที่ได้มีการตอบคำถามไปก่อนหน้านี้ มีสองวิธีหลักที่คุณสามารถทำได้:

• ละลายในน้ำก่อน: วิธีนี้จะช่วยให้ผงละลายได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเป็นกรดของสารละลายอาจทำให้การขึ้นเนื้อเจลด้วย Pro Polymer ช้าลง
• ละลายในเนื้อเจลโดยตรง: การละลายผงในตอนแรกอาจจะยากกว่าเล็กน้อย เมื่อละลายแล้ว เนื้อเจลอาจจะเหลวลงเล็กน้อย แต่สามารถปรับความข้นได้ง่ายกว่าโดยการเพิ่มสารก่อเจลอีกเล็กน้อยหากจำเป็น

ทั้งสองวิธีใช้ได้ผล คุณสามารถเลือกวิธีที่คุณสะดวกที่สุดได้

เจล AHA สำหรับผิวกาย (Glycolic Acid)

สูตรนี้ใช้ Glycolic Acid ในการผลัดเซลล์ผิว, Vitamin B3 เพื่อผิวขาวและควบคุมความมัน, และ Pro Polymer ในการขึ้นเนื้อเจล

• ส่วนประกอบหลัก:

  • Glycolic Acid 100% (เช่น Glycopure™)
  • Vitamin B3 (Niacinamide, เช่น Safe-B3™ หรือ Extreme-B3™)
  • Pro Polymer™ (สารก่อเจล)
  • น้ำ
  • ส่วนประกอบเสริมที่เป็นประโยชน์: สารให้ความชุ่มชื้น (เช่น Glycerin), สารปลอบประโลมผิว (เช่น Allantoin), สารกันเสีย

• เปอร์เซ็นต์เริ่มต้นที่แนะนำ:

  • Glycolic Acid 100%: 5-10% (สำหรับผิวกาย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมีความบอบบางน้อยกว่าผิวหน้า เริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่าหากคุณเพิ่งเริ่มใช้ AHA หรือมีผิวบอบบาง)
  • Vitamin B3: 5% (ความเข้มข้นที่ดีในการลดรอยดำและช่วยควบคุมการผลิตน้ำมัน)
  • Pro Polymer™: 0.8-1.5% (ปรับเปอร์เซ็นต์นี้เพื่อให้ได้ความข้นของเจลที่คุณต้องการ)
  • น้ำ: ส่วนที่เหลือจนครบ 100%
  • ส่วนประกอบเสริม: ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้จากผู้จำหน่าย

• วิธีการผสม:

  1. เตรียมส่วนของน้ำ หากคุณใช้สารให้ความชุ่มชื้น เช่น Glycerin คุณสามารถกระจาย Pro Polymer™ ใน Glycerin ก่อนที่จะเติมลงในน้ำ ซึ่งจะช่วยในการดูดซับน้ำได้ดีขึ้น
  2. ค่อยๆ โรยผง Pro Polymer™ ลงบนผิวน้ำในขณะที่คนเบาๆ คนต่อไปจนผงกระจายตัวทั่วถึง ปล่อยให้ Pro Polymer™ ดูดซับน้ำและขึ้นเนื้อเจลอย่างเต็มที่ ซึ่งอาจใช้เวลาคนหลายนาทีหรือนานกว่านั้นหากปล่อยทิ้งไว้ (เช่น ข้ามคืน) หากไม่ใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง
  3. ในภาชนะเล็กๆ แยกกัน ละลายผง Glycolic Acid 100% ในน้ำปริมาณเล็กน้อย และละลายผง Vitamin B3 ในน้ำปริมาณเล็กน้อยอีกภาชนะหนึ่ง
  4. เมื่อเนื้อเจล Pro Polymer™ ขึ้นรูปแล้ว ค่อยๆ เติมสารละลาย Glycolic Acid และสารละลาย Vitamin B3 ที่เตรียมไว้ลงในเนื้อเจล คนเบาๆ จนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  5. เติมส่วนประกอบเสริมอื่นๆ เช่น สารกันเสีย ในขั้นตอนนี้
  6. วัดค่า pH ของผลิตภัณฑ์สุดท้ายของคุณ สำหรับผลิตภัณฑ์ AHA สำหรับผู้บริโภค ค่า pH ควรปรับให้อยู่ระหว่าง 3.5 ถึง 4.0 เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของ AHA หากค่า pH ต่ำกว่า 3.5 ให้ค่อยๆ เติมสารละลายด่าง (เช่น สารละลาย Sodium Bicarbonate เจือจาง หรือ Triethanolamine) ทีละหยด คนและวัดค่า pH ซ้ำจนกว่าจะอยู่ในช่วงเป้าหมาย (3.5-4.0) การรักษาค่า pH นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งประสิทธิภาพของ Glycolic Acid และความคงตัวของ Vitamin B3
  7. คนเบาๆ อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมเข้ากันดี

เจล AHA สำหรับผิวหน้า (Lactic Acid)

สูตรนี้ใช้ Lactic Acid ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมีความอ่อนโยนกว่า Glycolic Acid ร่วมกับ Vitamin B3 และ Pro Polymer

• ส่วนประกอบหลัก:

  • Lactic Acid (ใช้ผลิตภัณฑ์ความเข้มข้น 90% เช่น Lactic Acid (AHA) 90% Deodorized หรือเกรดทั่วไป)
  • Vitamin B3 (Niacinamide, เช่น Safe-B3™ หรือ Extreme-B3™)
  • Pro Polymer™ (สารก่อเจล)
  • น้ำ
  • ส่วนประกอบเสริมที่เป็นประโยชน์: สารให้ความชุ่มชื้น (เช่น Glycerin), สารปลอบประโลมผิว (เช่น Allantoin), สารกันเสีย

• เปอร์เซ็นต์เริ่มต้นที่แนะนำ:

  • Lactic Acid 90%: 5-8% (Lactic Acid เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการผลัดเซลล์ผิวหน้า มักเป็นที่นิยมเนื่องจากมีความอ่อนโยนกว่าและมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น เริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่าหากคุณมีผิวบอบบาง)
  • Vitamin B3: 5% (มีประโยชน์ในการทำให้ผิวขาว ลดความมัน และปรับปรุงเกราะป้องกันผิว ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผิวหน้ามัน)
  • Pro Polymer™: 0.8-1.5% (ปรับเพื่อให้ได้ความข้นของเจลที่ต้องการ)
  • น้ำ: ส่วนที่เหลือจนครบ 100%
  • ส่วนประกอบเสริม: ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้จากผู้จำหน่าย

• วิธีการผสม:

  1. เตรียมส่วนของน้ำ คุณสามารถกระจาย Pro Polymer™ ในสารให้ความชุ่มชื้น เช่น Glycerin ก่อนหากใช้ ก่อนที่จะเติมลงในน้ำ
  2. ค่อยๆ โรยผง Pro Polymer™ ลงบนผิวน้ำในขณะที่คนเบาๆ คนต่อไปจนผงกระจายตัวทั่วถึง ปล่อยให้ขึ้นเนื้อเจลอย่างเต็มที่
  3. ในภาชนะเล็กๆ แยกกัน ละลายผง Vitamin B3 ในน้ำปริมาณเล็กน้อย
  4. เมื่อเนื้อเจล Pro Polymer™ ขึ้นรูปแล้ว เติม Lactic Acid (ของเหลว) และสารละลาย Vitamin B3 ที่เตรียมไว้ลงในเนื้อเจล คนเบาๆ จนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  5. เติมส่วนประกอบเสริมอื่นๆ เช่น สารกันเสีย
  6. วัดค่า pH ของผลิตภัณฑ์สุดท้ายของคุณ ค่า pH ควรปรับให้อยู่ระหว่าง 3.5 ถึง 4.0 สำหรับผลิตภัณฑ์ AHA สำหรับผู้บริโภค หากค่า pH ต่ำกว่า 3.5 ให้ค่อยๆ เติมสารละลายด่าง (เช่น สารละลาย Sodium Bicarbonate เจือจาง หรือ Triethanolamine) ทีละหยด คนและวัดค่า pH ซ้ำจนกว่าจะอยู่ในช่วงเป้าหมาย (3.5-4.0)
  7. คนเบาๆ อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมเข้ากันดี

ความเหมาะสมของสูตรและการปรับเปลี่ยนที่อาจทำได้

สูตรพื้นฐานทั้งสองที่คุณเสนอมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างเจล AHA ที่เน้นเรื่องผิวขาวและเหมาะสำหรับผิวหน้ามัน การผสมผสานระหว่าง AHA เพื่อการผลัดเซลล์ผิวและ Vitamin B3 เพื่อผิวขาวและควบคุมความมันนั้นมีประสิทธิภาพ

• สำหรับผิวหน้ามัน: เปอร์เซ็นต์ที่แนะนำของ AHA และ Vitamin B3 โดยทั่วไปแล้วผิวหน้ามันสามารถทนได้ดี และช่วยแก้ปัญหาเรื่องความมันส่วนเกินและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
• สำหรับผิวขาว: ทั้ง AHA (โดยการเพิ่มการผลัดเซลล์ผิว) และ Vitamin B3 (โดยการยับยั้งการส่งเม็ดสี) มีส่วนช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้น ความเข้มข้นที่แนะนำมีประสิทธิภาพสำหรับวัตถุประสงค์นี้
• ส่วนประกอบที่ควรเพิ่ม:
  • การเพิ่ม สารกันเสีย เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา ทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณปลอดภัยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
  • การใส่ สารให้ความชุ่มชื้น เช่น Glycerin หรือ Propanediol สามารถปรับปรุงเนื้อสัมผัสของเจลและให้ความชุ่มชื้นเพิ่มเติมได้
  • การใส่ สารปลอบประโลมผิว เช่น Allantoin, Panthenol (Vitamin B5) หรือสารสกัด เช่น Centella Asiatica สามารถช่วยลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นจาก AHA ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเพิ่งเริ่มใช้
• ส่วนประกอบที่ควรนำออก: ส่วนประกอบที่คุณระบุมาเป็นส่วนประกอบพื้นฐานที่จำเป็นต่อการทำงานของเจลเหล่านี้ ไม่มีส่วนประกอบสำคัญใดที่ต้องนำออกจากรายการพื้นฐานของคุณ

โปรดจำความสำคัญของการ ปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วง 3.5-4.0 เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ควรทำ การทดสอบการแพ้ บนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ในบริเวณกว้างเสมอ และการใช้ ครีมกันแดด ทุกวันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ AHA เนื่องจาก AHA สามารถเพิ่มความไวต่อแสงแดดของผิวได้