การพัฒนาสูตรเจล All-in-One ที่มีสารออกฤทธิ์ความเข้มข้นสูง: ความท้าทายและความเป็นไปได้
คำถาม
ต้องการทำผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ All in one gel โดยใช้ Active ingredient ที่มีความเข้มข้นตามรายการดังนี้:
- Sodium Ascorbyl Phosphate 10%
- Niacinamide 10%
- Acetyl Glucosamine 3%
- Hyaluronic Acid/Proteoglycan
- Brightenyl 2%
- Alpha Arbutin 2%
- Lactate/Lactic 5%
- Licorice 1%
- Matrixyl 15%
- Argireline
- Centella Asiatica
ไม่ทราบว่าการขึ้นสูตรผลิตภัณฑ์ที่มี Active ingredient เข้มข้นตามนี้ในรูปแบบ All in one gel มีความเป็นไปได้หรือไม่?
และอยากสอบถามเรื่องการติดต่อขอซื้อส่วนผสม รวมถึงบริการรับจ้างผลิตครีมด้วยครับ
คำตอบ
การทำสูตรเจลแบบ All-in-One ที่มีความเข้มข้นสูง
การสร้างสูตรเจลแบบ All-in-One ที่มีความเข้มข้นสูงของส่วนประกอบออกฤทธิ์หลายชนิด เช่น Sodium Ascorbyl Phosphate, Niacinamide, Acetyl Glucosamine, Hyaluronic Acid, Brightenyl, Alpha Arbutin, Lactic Acid, Licorice, Matrixyl, Argireline และ Centella Asiatica เป็นเรื่องที่ท้าทายและมีความซับซ้อนในการคิดค้นสูตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความเข้ากันได้และความเสถียรของส่วนประกอบที่ความเข้มข้นสูง
แม้ว่าส่วนประกอบแต่ละชนิดที่คุณกล่าวมาจะมีประโยชน์อย่างมากต่อผิว เช่น ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น และปลอบประโลมผิว แต่การนำมารวมกันอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ:
- ความเข้ากันได้ของส่วนประกอบและค่า pH: ส่วนประกอบออกฤทธิ์หลายชนิดต้องการค่า pH ที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้มีความเสถียรและประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างเช่น Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) มีความเสถียรที่สุดที่ค่า pH สูง (7-9) ในขณะที่ Alpha Arbutin และ Argireline ต้องการค่า pH ที่เป็นกรดมากกว่า (3.5-6.5) สารสกัดจาก Centella Asiatica ก็ต้องการค่า pH ที่เป็นกรดเล็กน้อย (4-6.5) การรวมส่วนประกอบที่มีความต้องการค่า pH ที่ขัดแย้งกันในสูตรเดียวที่เสถียรและยังคงประสิทธิภาพของส่วนประกอบทั้งหมดเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก
- ระดับความเข้มข้น: คุณได้ระบุความเข้มข้นของส่วนประกอบหลายชนิดไว้สูง (เช่น Niacinamide 10%, Sodium Ascorbyl Phosphate 10%, Matrixyl 15%, Argireline 10%) แม้ว่าส่วนประกอบบางชนิด เช่น Niacinamide (Safe-B3) และ Sodium Ascorbyl Phosphate สามารถใช้ได้ถึง 10% (แต่ SAP อาจมีปัญหาการละลายที่ความเข้มข้นเกิน 8%) แต่ Matrixyl 3000 โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ที่ 3-5% และ Argireline ที่ 3-10% การใช้ส่วนประกอบออกฤทธิ์หลายชนิดที่ความเข้มข้นสูงสุดหรือสูงกว่าที่แนะนำจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิวและทำให้การคิดค้นสูตรซับซ้อนยิ่งขึ้น
- การละลายและประเภทของสูตร: ส่วนประกอบบางชนิด เช่น LipidSoft Lactic เป็นเอสเทอร์ที่ละลายในน้ำมัน ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากที่จะนำมาผสมในเจลที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักที่ความเข้มข้น 5% โดยไม่ส่งผลต่อเนื้อสัมผัสและความเสถียร
- ความเสถียร: ความเข้มข้นสูงและส่วนประกอบที่ไม่เข้ากันอาจนำไปสู่ความเสถียรของสูตรที่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพของส่วนประกอบออกฤทธิ์หรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ในผลิตภัณฑ์ได้
ดังนั้น แม้ว่าในทางเทคนิคแล้วจะสามารถสร้างเจลที่มีส่วนประกอบเหล่านี้ได้ แต่การทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เสถียร มีประสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ความเข้มข้นสูงตามที่คุณระบุนั้น จำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญอย่างสูงในการคิดค้นสูตร การทดสอบอย่างละเอียด และอาจต้องมีการปรับลดความเข้มข้นหรือยกเว้นส่วนประกอบบางชนิดออกไป การพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่เน้นปัญหาผิวที่แตกต่างกัน หรือการใช้ความเข้มข้นที่ต่ำลงและเข้ากันได้ในสูตรเดียวอาจเป็นแนวทางที่ทำได้จริงมากกว่า
สำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการจัดซื้อส่วนผสมและการบริการรับจ้างผลิตครีม ส่วนผสมที่คุณระบุนั้นมีจำหน่าย และทางบริษัทมีบริการรับจ้างผลิตครีมและเจลตามสูตรที่ต้องการ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดซื้อส่วนผสมหรือบริการรับจ้างผลิต โปรดติดต่อบริษัทโดยตรง
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)

Alpha Arbutin (Switzerland)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Double Hyaluron Liquid

Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)

LipidSoft™ Lactic (C12-13 Alkyl Lactate)

4D Hyaluronic Acid
