การพัฒนาสูตรเจล LHA เพื่อลดสิว ผลัดเซลล์ผิว และลดริ้วรอย

จากสูตรที่คุณได้เสนอมาและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ ถือเป็นแนวทางที่ดีในการพัฒนาเจล LHA ค่ะ สูตรนี้เน้นการทำงานของ LHA ในการผลัดเซลล์ผิวและดูแลปัญหาสิวอุดตัน พร้อมทั้งใช้ Bisabolol เพื่อช่วยปลอบประโลมผิวและลดการระคายเคือง

ส่วนประกอบในสูตรที่คุณเสนอ:

• Capryloyl Salicylic Acid (LHA): ที่ความเข้มข้น 20% ตามที่คุณต้องการ LHA เป็นอนุพันธ์ของ Salicylic Acid ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน และมีงานวิจัยบางส่วนชี้ว่ามีผลดีต่อการลดเลือนริ้วรอยด้วย จากข้อมูลสินค้า Capryloyl Salicylic Acid (LHA) Powder ระบุว่า LHA ละลายได้ในน้ำมันและต้องใช้ความร้อน 70-80°C ช่วยในการละลาย และแนะนำอัตราการใช้ไม่เกิน 2% เนื่องจากความเข้มข้นสูงอาจทำให้ระคายเคืองได้มาก แม้ว่าผิวคุณจะเคยชินกับ BHA แต่การใช้ LHA ที่ 20% ถือว่าสูงมาก ควรพิจารณาถึงความเสี่ยงในการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้ และอาจต้องใช้ตัวทำละลายที่เหมาะสมสำหรับ LHA ในปริมาณสูง
• Bisabolol: ที่ความเข้มข้น 1% Bisabolol เป็นสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ มีคุณสมบัติเด่นในการลดการอักเสบและปลอบประโลมผิว ช่วยลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ LHA ได้ดี จากข้อมูลสินค้า Natural Bisabolol (Brazil Chamomile) และ Bisabolol (Alpha Bisabolol, Bisabolol RAC) ระบุว่า Bisabolol ละลายได้ในน้ำมันและแอลกอฮอล์ และสามารถใช้ได้ในช่วง pH กว้าง 3-11 ซึ่งเข้ากันได้ดีกับสูตร LHA ที่เป็นกรด
• Flora Solve™ Clear: ที่ความเข้มข้น 2-5% เพื่อช่วยประสาน Bisabolol เข้ากับเบสเจลที่เป็นน้ำ Flora Solve™ Clear เป็นสาร Solubilizer ที่ช่วยละลายส่วนผสมที่เป็นน้ำมันหรือน้ำหอมในเบสน้ำได้ดี โดยไม่ทำให้ขุ่น ควรใช้ในอัตราส่วน 2-5 ส่วนต่อส่วนผสมน้ำมัน 1 ส่วน ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันที่ใช้
• Organic Natural thickener: ที่ความเข้มข้น 0.5-1% เพื่อสร้างเนื้อเจล มีตัวเลือก Thickener จากธรรมชาติหลายชนิด เช่น CornThick™ (Corn Starch Modified For Gelling) ซึ่งเป็น Starch Modified ที่ใช้สร้างเนื้อเจลในน้ำได้ สามารถใช้ในช่วง pH 3-9 และทนต่อ Electrolyte ได้ดี แต่เนื้อเจลที่ได้จะเป็นสีขาวขุ่น การเลือกใช้ Thickener ควรพิจารณาจากคุณสมบัติที่ต้องการ เช่น ความใสของเนื้อเจล ความคงตัว และความเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ

การปรับ pH:

ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ การปรับ pH อาจไม่จำเป็นหาก pH ของสูตรหลังผสมส่วนผสมทั้งหมด (ยกเว้น Thickener ที่อาจใส่ทีหลัง) อยู่ในช่วง 3-4 ซึ่งเป็นช่วงที่ LHA ทำงานได้ดีและ Bisabolol สามารถคงตัวอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม การวัด pH หลังผสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อยืนยันว่าอยู่ในช่วงที่เหมาะสม

ความเข้ากันได้กับสารสกัดและสารแอคทีฟเพิ่มเติม:

คุณได้สอบถามเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของ LHA กับ alpha arbutin, tranexamic acid, Calendula Extract, Licorice Extract, Lemon Peel Bioferment, และ Cucumber Extract เจ้าหน้าที่ได้ยืนยันว่าสามารถใช้ร่วมกันได้ โดยขึ้นอยู่กับการปรับค่า pH

• Alpha Arbutin: (เช่น Alpha Arbutin (Switzerland), Alpha Arbutin (China, Powder, Enzymatic Synthesis), Alpha Arbutin (China, Crystal Form)) เป็นสารไวท์เทนนิ่งที่ทำงานได้ดีในช่วง pH 3.5-6.5 และไม่ควรผสมในสูตรที่มี pH สูงกว่า 8 เพราะจะสลายตัวเป็น Hydroquinone การใช้ร่วมกับ LHA ที่ pH 3-4 จึงเข้ากันได้ดี
• Tranexamic Acid: (เช่น Tranexamic Acid (Trans-White™), Nano-TXA™ (Tranexamic Acid Nano Emulsion, Penetration Base)) เป็นสารไวท์เทนนิ่งที่ช่วยลดฝ้า จุดด่างดำ ทำงานได้ดีในช่วง pH 3-8 (ดีที่สุดที่ 4.0-7.0) สามารถใช้ร่วมกับ LHA ได้
• Calendula Extract (Water Soluble): มีคุณสมบัติลดการอักเสบ สมานแผล เพิ่มความชุ่มชื้น และเสริมเกราะป้องกันผิว มี pH 5.5-6.5 สามารถใช้ร่วมกับสูตร LHA ได้ แต่ควรคำนึงถึงผลต่อ pH สุดท้ายของสูตร
• Licorice Extract: (เช่น Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble), Licorice Extract (Glabridin 4.5%, Water-Soluble)) มีคุณสมบัติลดการอักเสบ ลดการระคายเคือง และบางชนิดมีคุณสมบัติไวท์เทนนิ่ง (Glabridin) ชนิดที่ละลายน้ำได้มักมี pH ในช่วง 3.5-6.5 (Licochalcone A) หรือสามารถละลายในน้ำได้โดยตรง (Glabridin) สามารถใช้ร่วมกับ LHA ได้
• Lemon Peel Bioferment (Lemon Skin™): เป็นสารไวท์เทนนิ่งและ Anti-oxidant ทำงานได้ดีในช่วง pH 3.5-7 สามารถใช้ร่วมกับ LHA ได้
• Cucumber Extract (France): ช่วยให้ผิวนุ่ม ลดการระคายเคือง มี pH 5-7 สามารถใช้ร่วมกับ LHA ได้

ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม:

• ความเข้มข้น LHA 20%: แม้ว่าผิวคุณจะทนทานต่อ BHA แต่ LHA ที่ความเข้มข้น 20% ยังคงเป็นความเข้มข้นที่สูงมากสำหรับการใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ทาทิ้งไว้ (Leave-on product) ควรเริ่มต้นที่ความเข้มข้นต่ำกว่านี้ก่อน เช่น 0.5-2% ตามคำแนะนำการใช้ทั่วไปของ Capryloyl Salicylic Acid (LHA) Powder เพื่อประเมินการตอบสนองของผิว หากผิวรับได้จึงค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้น การใช้ 20% อาจเหมาะกับการใช้ในผลิตภัณฑ์ล้างออก (Wash-off product) มากกว่า
• การละลาย LHA: เนื่องจาก LHA ละลายในน้ำมันและต้องใช้ความร้อน การเตรียมสูตรอาจต้องแบ่งเฟส โดยละลาย LHA ในส่วนของน้ำมันหรือตัวทำละลายที่เหมาะสมด้วยความร้อนก่อน แล้วจึงนำไปผสมกับส่วนน้ำ
• Thickener: หากต้องการเนื้อเจลใส อาจต้องพิจารณา Thickener ชนิดอื่นที่ให้ความใสได้ดีกว่า CornThick™ ซึ่งให้เนื้อขุ่น
• สารกันเสีย: อย่าลืมเพิ่มสารกันเสียในสูตรเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความคงตัวและปลอดภัยต่อการใช้งาน

โดยสรุป สูตรที่คุณเสนอมามีแนวคิดที่ดีในการรวมคุณสมบัติของ LHA และ Bisabolol เข้าด้วยกัน และสารสกัด/สารแอคทีฟเพิ่มเติมที่คุณสอบถามมาก็สามารถใช้ร่วมกับ LHA ได้ภายใต้การควบคุม pH ที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาปรับลดความเข้มข้นของ LHA ลงมาอยู่ในช่วงที่ปลอดภัยและแนะนำสำหรับการใช้แบบ Leave-on เพื่อลดความเสี่ยงในการระคายเคืองค่ะ