การพัฒนาสูตรเซรั่มครีม: เนื้อสัมผัส, การแทนที่ส่วนผสม, และความเข้ากันได้
คำถาม
ฉันกำลังพัฒนาสูตรเซรั่มครีมและต้องการคำแนะนำในหลายประเด็น:
- จะทำอย่างไรให้ได้เนื้อเซรั่มครีมที่เบา ไม่เหนอะหนะ? ฉันสงสัยว่า Vitamin E อาจทำให้เหนอะหนะ สามารถเติมซิลิโคนอย่าง Cyclomethicone หรือ Polymethylsilsesquioxane ได้หรือไม่? มี Cream Maker ชนิดอื่นที่ให้เนื้อเบาลงกว่า Easy Cream Maker หรือไม่?
- สามารถใช้สารอื่นทดแทน Vitamin E (dl-alpha tocopherol) ได้หรือไม่ โดยเฉพาะในบทบาทที่ช่วยเสริมความเสถียรของ L-ascorbic acid (โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Ferulic Acid)?
- สามารถใช้ Pentylene Glycol (Low-Odor) แทน Butylene Glycol และ Ethoxydiglycol ได้หรือไม่? ควรใช้อัตราส่วนเท่าใดเมื่อใช้ Pentylene Glycol แทนสารเหล่านี้?
- ความเข้ากันได้ของ Vitamin B3 (Niacinamide), Perfect-C (Ascorbyl Tetraisopalmiate) และ Zinc PCA เมื่อใช้ร่วมกันในสูตรเดียวเป็นอย่างไร?
คำตอบ
ค่ะ เข้าใจคำถามของคุณเกี่ยวกับสูตรเซรั่มครีมวิตามินซีนะคะ นี่คือข้อมูลที่จะช่วยตอบคำถามของคุณค่ะ
เนื้อเซรั่มครีมและการลดความเหนอะหนะ
เพื่อให้ได้เนื้อเซรั่มครีมที่เบาสบายและไม่เหนอะหนะ มีหลายแนวทางที่คุณสามารถพิจารณาได้ค่ะ:
- การปรับส่วนผสมเดิม: ตามคำแนะนำก่อนหน้านี้ การลดสัดส่วนของ Vitamin E (dl-alpha tocopherol) ในสูตรของคุณอาจช่วยลดความเหนอะหนะได้ เนื่องจากเป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน
- การเติมซิลิโคน: ใช่ค่ะ คุณสามารถเติมซิลิโคนอย่าง Cyclomethicone (Cyclopentasiloxane) หรือ Polymethylsilsesquioxane ลงในสูตรเพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัสและลดความเหนอะหนะได้
- Cyclomethicone (Cyclopentasiloxane) เป็นซิลิโคนเนื้อบางเบาที่ระเหยเร็ว ให้ความรู้สึกเรียบลื่น ไม่เหนอะหนะ และนุ่มลื่นเมื่อใช้บนผิว สามารถผสมในส่วนของน้ำมันหรือซิลิโคนในสูตรได้ โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ในครีมและโลชั่นที่อัตรา 1-20%
- Polymethylsilsesquioxane เป็นผงที่ช่วยสร้าง Soft-Focus เบลอริ้วรอย และทำให้เนื้อสูตรนุ่มลื่น (silky & slip) นอกจากนี้ยังสามารถดูดซับความมันได้ ซึ่งช่วยลดความเหนอะหนะ มักใช้ที่อัตรา 1-7% และควรกระจายตัวในสูตร โดยมักเติมในขั้นตอนสุดท้าย
- การเลือกใช้ Cream Maker ชนิดอื่น: Easy Cream Maker ที่คุณใช้อยู่มีข้อจำกัด โดยเฉพาะกับส่วนผสมอิเล็กโทรไลต์และปริมาณน้ำมัน/ซิลิโคนที่สูง และอาจทำให้เนื้อครีมมีความรู้สึกเหนอะหนะเล็กน้อย ลองพิจารณา Cream Maker ชนิดอื่นที่ให้เนื้อสัมผัสที่เบาและเข้ากันได้ดีกว่า:
- Light Cream Maker ให้เนื้อครีมที่เบา เนียนนุ่ม ไม่เหนอะหนะ สามารถทนอิเล็กโทรไลต์ได้ และสามารถประสานน้ำมันได้สูงสุด 20% และซิลิโคนได้สูงสุด 10%
- Satin Cream Maker ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มและเรียบเนียน ทนอิเล็กโทรไลต์ได้ และสามารถประสานน้ำมันได้สูงสุด 25% และซิลิโคนอย่าง Cyclomethicone ได้สูงสุด 20% เป็นผงที่ผสมในส่วนของน้ำ
การเลือกระหว่าง Cyclomethicone และ Polymethylsilsesquioxane ขึ้นอยู่กับลักษณะเนื้อสัมผัสที่คุณต้องการ Cyclomethicone ให้ความรู้สึกเบา ลื่น และระเหยเร็ว ส่วน Polymethylsilsesquioxane ให้ความรู้สึก Soft-Focus, แมท และเนียนนุ่ม การใช้ Cream Maker ชนิดอื่น เช่น Light Cream Maker หรือ Satin Cream Maker ก็อาจช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสโดยรวมและลดความเหนอะหนะได้อย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงส่วนผสมอื่นๆ ในสูตรของคุณ
การใช้สารอื่นทดแทน Vitamin E
Vitamin E (dl-alpha tocopherol) ในสูตรของคุณทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสำหรับผิว และที่สำคัญคือช่วยเสริมความเสถียรของ L-ascorbic acid โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Ferulic Acid ดังที่พบในชุด Vitamin C E Ferulic ต้นฉบับ
หากวัตถุประสงค์หลักคือการให้ประโยชน์ด้านสารต้านอนุมูลอิสระแก่ผิว มีสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ อีกมากมายที่คุณสามารถพิจารณาได้ อย่างไรก็ตาม หากวัตถุประสงค์ของ Vitamin E คือเพื่อช่วยเสริมความเสถียรของ L-ascorbic acid โดยเฉพาะในสูตรนี้ การหาสารอื่นมาทดแทนโดยตรงที่ให้ผลในการเสริมความเสถียรแบบเดียวกันนั้นทำได้ยาก จากข้อมูลที่มีอยู่ ยังไม่มีสารอื่นที่ได้รับการยืนยันว่าให้ผลเสริมความเสถียรต่อ L-ascorbic acid ได้เหมือนกับการทำงานร่วมกันของ Vitamin E และ Ferulic Acid
การใช้ Pentylene Glycol แทน Butylene Glycol และ Ethoxydiglycol
- การแทนที่ Butylene Glycol: Pentylene Glycol (Low-Odor) สามารถใช้แทน Butylene Glycol ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสองชนิดทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายและสารให้ความชุ่มชื้น Pentylene Glycol มักใช้ในอัตรา 1-10% และยังมีคุณสมบัติช่วยเสริมประสิทธิภาพของสารกันเสียด้วย คุณสามารถใช้ Pentylene Glycol แทน Butylene Glycol ในช่วงอัตราการใช้ทั่วไปนี้ โดยปรับตามความต้องการของสูตรและเนื้อสัมผัสที่ต้องการ
- การแทนที่ Ethoxydiglycol: Ethoxydiglycol ทำหน้าที่เป็นทั้งตัวทำละลายและสารนำพา ช่วยนำพาส่วนผสมอื่นๆ เข้าสู่ผิว แม้ว่า Pentylene Glycol จะเป็นตัวทำละลายและสารให้ความชุ่มชื้น แต่อาจไม่สามารถทำหน้าที่เป็นสารนำพาได้เทียบเท่า Ethoxydiglycol คุณอาจใช้ Pentylene Glycol เป็นตัวทำละลายได้ แต่หากคุณสมบัติการนำพาของ Ethoxydiglycol มีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของสูตร คุณอาจต้องพิจารณาสารนำพาชนิดอื่นร่วมด้วย อัตราการใช้ Pentylene Glycol จะยังคงอยู่ในช่วง 1-10% ขึ้นอยู่กับผลของตัวทำละลาย/สารให้ความชุ่มชื้นที่ต้องการ
ความเข้ากันได้ของ Vitamin B3, Perfect-C และ Zinc PCA
จากข้อมูลที่มีอยู่ รวมถึงคำแนะนำก่อนหน้านี้ ไม่แนะนำอย่างยิ่งให้ใช้ Niacinamide (Vitamin B3), Perfect-C (Ascorbyl Tetraisopalmitate) และ Zinc PCA ร่วมกันในสูตรเดียว เนื่องจากยังคงมีการถกเถียงเกี่ยวกับผลกระทบด้านความเสถียรและความไม่เข้ากันเมื่อใช้ส่วนผสมเหล่านี้ร่วมกัน เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของคุณมีความเสถียรและมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ส่วนผสมเหล่านี้ร่วมกันในสูตรเดียวค่ะ
โดยสรุป คุณสามารถเติมซิลิโคนอย่าง Cyclomethicone หรือ Polymethylsilsesquioxane เพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัส พิจารณาใช้ Cream Maker ชนิดอื่นเพื่อให้ได้เนื้อที่เบาขึ้น ใช้ Pentylene Glycol แทน Butylene Glycol ได้ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ Niacinamide, Perfect-C, และ Zinc PCA ร่วมกันในสูตรเดียว การหาสารอื่นมาทดแทน Vitamin E เพื่อบทบาทในการเสริมความเสถียรของ L-ascorbic acid นั้นทำได้ยากค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin C E Ferulic

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

Pure-Ferulic Acid™

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Vitamin E (dl-alpha tocopherol)

Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)

Triethanolamine 99%

Light Cream Maker™

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Disodium EDTA

Satin Cream Maker™

Zinc PCA

Butylene Glycol

Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)

Easy Cream Maker™

Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
