การพัฒนาสูตรเซรั่มสำหรับผิวแห้งแพ้ง่าย: กระชับ ลดริ้วรอย ชุ่มชื้น

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่การเริ่มต้นทำสกินแคร์ใช้เองนะคะ เข้าใจเลยค่ะว่าเป็นมือใหม่แล้วมีคำถามเยอะ ไม่ต้องกังวลนะคะ เรามาค่อยๆ ดูกันไปค่ะ

จากส่วนผสมที่คุณมีและความต้องการ (เซรั่มกระชับผิว ลดริ้วรอย ชุ่มชื้น สำหรับผิวแห้ง แพ้ง่าย) สามารถนำมาผสมเป็นเซรั่มได้ค่ะ แต่จะต้องมีการเพิ่มส่วนผสมบางอย่างเพื่อให้ได้เนื้อเซรั่มที่ต้องการและมีความคงตัว ปลอดภัยในการใช้ค่ะ

การทำให้ได้เนื้อเซรั่ม

ส่วนผสมที่คุณมีส่วนใหญ่เป็นสารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำได้ การจะทำให้เป็นเนื้อเซรั่มที่ข้นขึ้น ไม่เหลวเป็นน้ำเปล่า จะต้องใช้ "สารสร้างเนื้อเจล" หรือ "สารเพิ่มความหนืด" (Thickener / Gelling Agent) ค่ะ แนะนำเป็น Hyaluronic Acid ชนิดผง (ขนาดโมเลกุลเล็ก) เพราะนอกจากจะช่วยสร้างเนื้อเจลแล้ว ยังช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้ดีมาก เหมาะกับผิวแห้งแพ้ง่ายค่ะ การใช้โมเลกุลขนาดเล็กจะช่วยให้ซึมลงสู่ผิวได้ดีขึ้นค่ะ

ส่วนผสมที่แนะนำและปริมาณที่ควรใช้

นี่คือส่วนผสมที่คุณมีและปริมาณที่แนะนำ รวมถึงส่วนผสมสำคัญที่ควรเพิ่มเข้าไปค่ะ

• น้ำกลั่นบริสุทธิ์: เป็นเบสหลักของเซรั่ม ใช้เป็นตัวทำละลายสารต่างๆ ปริมาณที่ใช้คือส่วนที่เหลือเพื่อให้ครบ 100% ของสูตรค่ะ
• Hyaluronic Acid (Small Molecule หรือ Super Low Molecule): (เพิ่มตัวนี้) ทำหน้าที่เป็นสารสร้างเนื้อเจลและสารให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูง แนะนำเริ่มต้นที่ 0.3-0.5% ค่ะ
• Propanediol: (เพิ่มตัวนี้) เป็นสารให้ความชุ่มชื้น ช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านความชุ่มชื้นและช่วยให้สารอื่นๆ ละลายและซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยเสริมประสิทธิภาพสารกันเสียเล็กน้อยด้วยค่ะ ใช้ 3-5%
• DMAE (SkinTight MD™) Liquid: ช่วยเรื่องความกระชับผิว ปริมาณที่แนะนำคือ 1-3% สำหรับผิวแพ้ง่าย (สูงสุดไม่เกิน 10% แต่ความเข้มข้นสูงอาจก่อการระคายเคืองได้) แนะนำให้เริ่มจากปริมาณน้อยๆ ก่อนค่ะ
• Argireline (Acetyl Hexapeptide-8): เปปไทด์ ช่วยลดเลือนริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า ใช้ 3-5% (สูงสุดไม่เกิน 10%)
• Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5): เปปไทด์ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอย ใช้ 1-3% (สูงสุดไม่เกิน 5%)
• Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งเสริมเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ ลดรอยแดงรอยดำ ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ใช้ 2-5% (Safe-B3™ เป็นชนิดความบริสุทธิ์สูง สามารถใช้ได้ถึง 10% โดยไม่เกิดอาการแดง แต่สำหรับผิวแพ้ง่าย ให้เริ่มที่ปริมาณน้อยๆ ก่อนค่ะ)
• Matrixyl 3000 (Pal-GHK, Pal-GQPR): เปปไทด์ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ลดริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ใช้ 3-5% (สูงสุดไม่เกิน 8%)
• Wrinkle-Fill™ (Acetyl-Tyrosine): ตัวนี้เป็นสารออกฤทธิ์ชนิดผง แม้จะมีข้อมูลว่าช่วยเรื่องริ้วรอยได้เมื่อใช้ร่วมกับเปปไทด์และ DMAE แต่การละลายผงอาจต้องใช้เทคนิคพิเศษและอาจต้องปรับค่า pH (ตัวนี้มีฤทธิ์เป็นกรด) ซึ่งอาจจะซับซ้อนสำหรับมือใหม่ แนะนำว่าในการทำครั้งแรก อาจจะลองเว้นตัวนี้ไปก่อน เพื่อให้การผสมง่ายขึ้นค่ะ หากต้องการใช้จริงๆ ควรศึกษาข้อมูลการละลายและการนำไปใช้ของสารตัวนี้เพิ่มเติมค่ะ ปริมาณที่แนะนำคือ 1-2% และต้องละลายในส่วนของน้ำให้เข้ากันดี
• สารกันเสีย (เช่น PE 1090 หรือ Mild Preserved™ COS): (เพิ่มตัวนี้) จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสียและเป็นอันตรายต่อผิวได้ค่ะ แนะนำสารกันเสียแบบ Broad Spectrum ที่ละลายน้ำได้ ใช้ 0.5-1.0% สำหรับ PE 1090 หรือ 0.75-1.5% สำหรับ Mild Preserved™ COS โดยปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ของผู้ขายสารเคมีค่ะ
• สารนำพา (Penetration Enhancer): คุณถามว่าจำเป็นไหม ไม่ได้จำเป็นเสมอไปค่ะ โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ การเพิ่มสารนำพาอาจทำให้สูตรซับซ้อนขึ้น และบางชนิดอาจก่อการระคายเคืองได้ Propanediol ที่แนะนำให้เพิ่มไปแล้ว ก็มีคุณสมบัติช่วยนำพาสารสำคัญเข้าสู่ผิวได้เล็กน้อยแล้วค่ะ สำหรับการเริ่มต้น อาจจะยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มสารนำพาเฉพาะทางค่ะ ผลิตภัณฑ์ที่คุณลิงก์มา (Sweet Almond Oil) เป็นน้ำมัน ซึ่งไม่เหมาะสำหรับเซรั่มที่เป็นเบสน้ำค่ะ

ตัวอย่างสูตรเซรั่ม (สำหรับ 100%)

นี่เป็นเพียงตัวอย่างสูตรที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ โดยเลือกปริมาณสารออกฤทธิ์ในช่วงที่แนะนำ และเพิ่มสารที่จำเป็นอื่นๆ เข้าไปค่ะ

• น้ำกลั่นบริสุทธิ์: ส่วนที่เหลือให้ครบ 100%
• Hyaluronic Acid (Small Molecule หรือ Super Low Molecule): 0.3%
• Propanediol: 5%
• DMAE (SkinTight MD™) Liquid: 2%
• Argireline: 4%
• Pep®-Coll: 2%
• Safe-B3™ (Niacinamide): 3%
• Matrixyl 3000: 4%

• สารกันเสีย PE 1090: 1%
  (รวม: 100%)

• (หมายเหตุ: หากตัดสินใจจะใส่ Wrinkle-Fill™ ให้ลดปริมาณน้ำกลั่นบริสุทธิ์ลงตามสัดส่วน เช่น ใส่ Wrinkle-Fill™ 1% ก็ลดน้ำลง 1% ค่ะ)*

การคำนวณปริมาณสำหรับ 30ml และ 50ml

เมื่อได้สูตรเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว การคำนวณปริมาณสำหรับปริมาณรวม (Total Volume) ที่ต้องการก็ง่ายค่ะ โดยทั่วไปสำหรับสูตรที่เป็นน้ำ เราจะประมาณว่า 1 ml มีน้ำหนักประมาณ 1 กรัม ดังนั้น 30ml ก็ประมาณ 30 กรัม และ 50ml ก็ประมาณ 50 กรัมค่ะ การชั่งน้ำหนัก (ใช้หน่วยเป็นกรัม) จะให้ความแม่นยำมากกว่าการตวงปริมาตร (ใช้หน่วยเป็น ml) โดยเฉพาะสำหรับสารที่เป็นผงหรือมีความหนืดสูง แนะนำให้ใช้เครื่องชั่งดิจิทัลที่วัดได้ละเอียด 0.01 กรัมค่ะ

สำหรับ 30ml (ประมาณ 30 กรัม):

• น้ำกลั่นบริสุทธิ์: (100% - ผลรวม % สารอื่นๆ) * 30g
• Hyaluronic Acid: 0.3% * 30g = 0.09 กรัม
• Propanediol: 5% * 30g = 1.5 กรัม
• DMAE: 2% * 30g = 0.6 กรัม
• Argireline: 4% * 30g = 1.2 กรัม
• Pep®-Coll: 2% * 30g = 0.6 กรัม
• Safe-B3™: 3% * 30g = 0.9 กรัม
• Matrixyl 3000: 4% * 30g = 1.2 กรัม
• สารกันเสีย PE 1090: 1% * 30g = 0.3 กรัม

สำหรับ 50ml (ประมาณ 50 กรัม):

• น้ำกลั่นบริสุทธิ์: (100% - ผลรวม % สารอื่นๆ) * 50g
• Hyaluronic Acid: 0.3% * 50g = 0.15 กรัม
• Propanediol: 5% * 50g = 2.5 กรัม
• DMAE: 2% * 50g = 1.0 กรัม
• Argireline: 4% * 50g = 2.0 กรัม
• Pep®-Coll: 2% * 50g = 1.0 กรัม
• Safe-B3™: 3% * 50g = 1.5 กรัม
• Matrixyl 3000: 4% * 50g = 2.0 กรัม
• สารกันเสีย PE 1090: 1% * 50g = 0.5 กรัม

ขั้นตอนการผสมเบื้องต้น

ใช่ค่ะ การผสมในบีกเกอร์แล้วใช้ช้อนหรือแท่งแก้วคนเป็นวิธีพื้นฐานสำหรับทำปริมาณน้อยๆ ค่ะ

1. ทำความสะอาดอุปกรณ์และพื้นที่: ทำความสะอาดอุปกรณ์ (บีกเกอร์ แท่งแก้ว/ช้อน ขวดบรรจุ) และพื้นที่ทำงานให้สะอาด อาจใช้แอลกอฮอล์ 70% เช็ดเพื่อฆ่าเชื้อ
2. ชั่ง/ตวงน้ำกลั่น: ชั่งน้ำกลั่นตามปริมาณที่คำนวณไว้ใส่ในบีกเกอร์
3. ละลาย Hyaluronic Acid: ค่อยๆ โรยผง Hyaluronic Acid ลงในน้ำกลั่น ใช้ช้อนคนเบาๆ ให้ผงกระจายตัว ไม่จับเป็นก้อน จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้ผงค่อยๆ ดูดน้ำและขึ้นเจล (อาจใช้เวลาหลายชั่วโมง หรือข้ามคืน) สามารถนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อเร่งการขึ้นเจลได้เล็กน้อย เมื่อขึ้นเจลหมดแล้วจะได้เนื้อข้นๆ เป็นเบสเซรั่ม
4. ละลายสารออกฤทธิ์: ค่อยๆ เติมสารออกฤทธิ์ที่เป็นของเหลวหรือผงที่ละลายน้ำได้ (Propanediol, DMAE, Argireline, Pep®-Coll, Safe-B3™, Matrixyl 3000) ลงในเบสเจล Hyaluronic Acid ทีละตัว คนเบาๆ ให้ละลายเข้ากันดีก่อนเติมตัวต่อไป
5. เติมสารกันเสีย: เติมสารกันเสีย PE 1090 เป็นลำดับสุดท้าย คนให้เข้ากัน
6. ตรวจสอบและปรับ pH (ทางเลือกแต่แนะนำ): หากมีกระดาษวัด pH หรือเครื่องวัด pH สามารถวัด pH ของเซรั่มได้ โดยทั่วไปเซรั่มที่มีเปปไทด์และ Niacinamide จะมีประสิทธิภาพดีในช่วง pH 4.0 - 6.0 หาก pH สูงหรือต่ำเกินไป สามารถปรับได้ด้วยสารละลายกรด (เช่น Lactic Acid) หรือด่าง (เช่น Sodium Hydroxide) ความเข้มข้นต่ำๆ โดยค่อยๆ เติมทีละน้อยและคนให้เข้ากันก่อนวัดใหม่ แต่ขั้นตอนนี้อาจจะซับซ้อนสำหรับมือใหม่ สามารถข้ามไปก่อนได้ค่ะ
7. บรรจุ: เทเซรั่มที่ผสมเสร็จแล้วใส่ขวดที่เตรียมไว้

ข้อควรจำสำหรับมือใหม่และผิวแพ้ง่าย

• เริ่มจากปริมาณน้อยๆ: ทำในปริมาณน้อยๆ ก่อน เช่น 30ml เพื่อทดลองสูตรและขั้นตอน
• ใช้ปริมาณสารออกฤทธิ์ต่ำๆ ในช่วงที่แนะนำ: โดยเฉพาะ DMAE และ Niacinamide อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ในบางคน
• ทดสอบการแพ้ (Patch Test): ก่อนใช้กับผิวหน้า ให้ลองทาเซรั่มที่ผสมเสร็จแล้วบริเวณท้องแขน หรือหลังใบหูเล็กน้อย ทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง สังเกตว่ามีอาการแพ้ ระคายเคืองหรือไม่ ก่อนนำไปใช้ทั่วใบหน้า
• ความสะอาด: เน้นเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์และพื้นที่ทำงานเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค
• การเก็บรักษา: เก็บเซรั่มไว้ในที่เย็น พ้นจากแสงแดด และใช้ให้หมดภายในระยะเวลาที่เหมาะสม (โดยทั่วไปสูตรที่มีสารกันเสียและทำเอง ควรใช้ให้หมดภายใน 3-6 เดือน)

สูตรนี้ควรช่วยให้ผิวของคุณกระชับ ลดริ้วรอย และเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี เหมาะสำหรับผิวแห้งและแพ้ง่ายค่ะ ขอให้สนุกกับการทำสกินแคร์ใช้เองนะคะ! หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามได้เลยค่ะ