การพัฒนาสูตรเซรั่มและครีมลดริ้วรอยสำหรับสภาพผิวที่แตกต่าง: เนื้อสัมผัส, ผิวขาว, และเซราไมด์
คำถาม
มีคำถามเกี่ยวกับการพัฒนาสูตร 2 เรื่องครับ:
สูตรเซรั่มแรกที่ผสม มีส่วนประกอบดังนี้:
- Hyaluronic standard
- Hyaluronic nano
- Vit B3
- Glucosamine
- Alpha arbutin
- Phenoxyethanol
- Sterile water
รู้สึกว่าเนื้อเหลวและหน้าตึงๆ ครับ และยังไม่เห็นผลเรื่องความขาวหลังจากใช้มา 1 เดือน อยากทราบว่าเนื้อสัมผัสและความไม่เห็นผลเรื่องความขาวทันทีเกิดจากอะไรได้บ้างครับ
กำลังพัฒนาสูตรครีมลดริ้วรอยสำหรับใช้เอง (อายุ 32 ปี, ผิวผสม, หน้าหมองคล้ำ, ต้องการป้องกันริ้วรอย) และสำหรับคุณแม่ (อายุ 60 ปี, ผิวสูงอายุ, มีริ้วรอย, ผิวค่อนข้างแห้ง, ชอบ Ceramide) โดยมีส่วนประกอบดังนี้:
- Apple stem cell extract
- Repair activator
- Centella asiatica extract
- Licorice extract
- Matrixyl 3000
- Cyclomethicone
- Silicone gel
- Warp cream maker
- น้ำกลั่น
ก่อนหน้านี้เคยคิดจะทำสูตรครีมที่มี DMAE และสงสัยว่าใช้ Light Cream Maker 2% จะพอให้เนื้อข้นใส่กระปุกได้หรือไม่ครับ และสูตรใหม่นี้เหมาะสำหรับผิวผมและผิวคุณแม่หรือไม่ครับ จะปรับปรุงสูตรอย่างไรเพื่อเน้นเรื่องความหมองคล้ำ (สำหรับตัวเอง) และเพิ่ม Ceramide (สำหรับคุณแม่) ได้บ้างครับ
คำตอบ
คำแนะนำสำหรับสูตรของคุณ
สวัสดีครับ เข้าใจเลยครับว่าการผสมสูตรครั้งแรกอาจจะยังไม่ได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ และเรื่องผลลัพธ์ก็ต้องใช้เวลาครับ
สำหรับสูตรแรกที่คุณผสม (Hyaluronic standard, Hyaluronic nano, Vit B3, Glucosamine, Alpha arbutin, Phenoxyethanol, Sterile water) ที่รู้สึกเหลวและหน้าตึง อาจเกิดจากหลายปัจจัยครับ ความหนืดของ Hyaluronic Acid ขึ้นอยู่กับขนาดโมเลกุลและปริมาณรวมที่ใช้ การใช้ Hyaluronic Acid โมเลกุลเล็กหรือนาโนในปริมาณสูงอาจให้ความรู้สึกตึงผิวได้มากกว่าโมเลกุลใหญ่ เพราะซึมลงสู่ผิวได้ดีกว่าและไม่ได้สร้างฟิล์มเคลือบผิวชั้นนอกมากเท่าโมเลกุลใหญ่ครับ ส่วนเรื่องความขาวตามที่คุณ cosmeceutical7 และเจ้าหน้าที่แนะนำนั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไปจึงจะเริ่มเห็นผลครับ
สำหรับคำถามเกี่ยวกับสูตรลดริ้วรอยที่คุณปรับปรุงมา (Apple stem cell extract, Repair activator, Sea kelp bioferment, Centella asiatica extract, Licorice extract, Matrixyl 3000, Cyclomethicone, Silicone gel, Warp cream maker, น้ำกลั่น) และคำถามเพิ่มเติม:
เรื่อง Light Cream Maker 2% สำหรับสูตรแรกที่คิดไว้ (มี DMAE): ในสูตรแรกที่คุณสอบถามว่าจะทำเป็นครีมและมีส่วนผสมของ DMAE ซึ่งมีผลทำให้เนื้อสูตรเหลวลง การใช้ Light Cream Maker เพียง 2% อาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้ได้เนื้อครีมที่ข้นพอสำหรับใส่กระปุกครับ ตามที่คุณ cosmeceutical7 แนะนำ อาจจะต้องใช้ประมาณ 3% หรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณส่วนผสมอื่นๆ ในสูตรด้วยครับ
สูตรสำหรับคุณ (อายุ 32 ผิวผสม หน้าหมองคล้ำ ป้องกันริ้วรอย) และคุณแม่ (อายุ 60 มีริ้วรอย ผิวอาจจะแห้ง ต้องการความชุ่มชื้น และชอบ Ceramide):
- สำหรับคุณ: สูตรที่คุณปรับปรุงมา (Apple stem cell extract, Repair activator, Centella asiatica extract, Licorice extract, Matrixyl 3000, Cyclomethicone, Silicone gel, Warp cream maker) มีส่วนผสมที่ดีสำหรับการป้องกันริ้วรอยและบำรุงผิวครับ การตัด Sea Kelp Bioferment ออกตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เหมาะสมกับผิวผสมที่ไม่ต้องการความชุ่มชื้นมากเกินไป
- เรื่องความหมองคล้ำ: เจ้าหน้าที่แนะนำให้เพิ่มสารกลุ่ม Whitening นอกเหนือจาก Licorice extract ที่มีอยู่แล้ว คุณสามารถพิจารณาเพิ่มสารที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น Phenylethyl Resorcinol (SymWhite 377) หรือ Hexylresorcinol AF ในปริมาณที่แนะนำเพื่อช่วยเรื่องความกระจ่างใสและความหมองคล้ำครับ
- เนื้อสัมผัสและการบรรจุ: การใช้ Warp Cream Maker ร่วมกับ Cyclomethicone และ Silicone gel จะช่วยให้ได้เนื้อครีมที่บางเบา ซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ ซึ่งเหมาะกับผิวผสมของคุณครับ และตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ การบรรจุในขวดปั๊มจะช่วยรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดีกว่าการใส่กระปุกครับ
- สำหรับคุณแม่: ผิววัย 60 ปีมักจะมีความแห้งและริ้วรอยที่ชัดเจนกว่าผิววัย 30 ปีมากครับ สูตรเดียวอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผิวทั้งสองวัยได้ดีที่สุด
- Ceramide: การเพิ่ม Ceramide เป็นความคิดที่ดีมากสำหรับผิวผู้สูงอายุที่มักจะขาด Ceramide ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิว การเสริม Ceramide จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว ลดการสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวชุ่มชื้นและยืดหยุ่นขึ้น คุณสามารถพิจารณาใช้ Ceramide Complex เช่น Skin-Barrier™ หรือ Ceracare™ Liposome-3 ซึ่งมี Ceramide หลายชนิดในรูปแบบที่ซึมสู่ผิวได้ดี เพื่อเสริมเกราะป้องกันผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวคุณแม่ครับ
- ส่วนผสมอื่นๆ: สำหรับผิวผู้สูงอายุ อาจต้องการส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและลดริ้วรอยที่เข้มข้นขึ้น เช่น อาจเพิ่ม Matrixyl 3000 ในปริมาณที่สูงขึ้น (ตามคำแนะนำการใช้) หรือเพิ่มสารให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ ที่เหมาะกับผิวแห้ง นอกจากนี้ อาจพิจารณาใช้เบสครีมหรือ Emulsifier ที่ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นและบำรุงผิวได้ดีกว่า Warp Cream Maker ที่เน้นความบางเบาครับ
- สำหรับคุณ: สูตรที่คุณปรับปรุงมา (Apple stem cell extract, Repair activator, Centella asiatica extract, Licorice extract, Matrixyl 3000, Cyclomethicone, Silicone gel, Warp cream maker) มีส่วนผสมที่ดีสำหรับการป้องกันริ้วรอยและบำรุงผิวครับ การตัด Sea Kelp Bioferment ออกตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เหมาะสมกับผิวผสมที่ไม่ต้องการความชุ่มชื้นมากเกินไป
สรุปคือ สูตรที่คุณปรับปรุงมาเหมาะสำหรับผิวของคุณเองครับ และสามารถเพิ่มสาร Whitening เพื่อช่วยเรื่องความหมองคล้ำได้ ส่วนสูตรสำหรับคุณแม่ควรปรับให้เน้นความชุ่มชื้นและการเสริมเกราะป้องกันผิวมากขึ้น โดยเพิ่ม Ceramide และอาจปรับส่วนผสมอื่นๆ ให้เหมาะกับสภาพผิววัย 60 ปีครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)

Alpha Arbutin (Switzerland)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Sea Kelp Extract

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Light Cream Maker™

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Silicone Gel (Ultra Clear, Super Silky)

Warp Cream Maker™ (e.q. Nikkomulese wo)

DMAE (SkinTight MD™) Liquid

Hi-EGCG™ (Green Tea Extract)

Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)

Phenylethyl Resorcinol (e.q. SymWhite 377)

Skin-Barrier™ (Skin Mimic Ceramides Liposome)

Apple Stem Cell Extract (AppleCell™ Powder)
