การพัฒนาสูตรเซรั่มไวท์เทนนิ่งสำหรับผิวมัน: คำแนะนำส่วนผสมและเนื้อสัมผัส
คำถาม
ต้องการพัฒนาสูตรเซรั่มไวท์เทนนิ่งสำหรับผิวมัน โดยมีส่วนผสมที่พิจารณาใช้ ได้แก่ Cyclomethicone, Silicone Gel, Vitamin B3 (Niacinamide) 3%, N-Acetyl-D glucosamine 4%, WhiteCumin 5%, Papaya Extract 2% และ Propylene Glycol อยากทราบความแตกต่างระหว่าง Cyclomethicone กับ Silicone Gel และจำเป็นต้องใช้ Silicone Gel ในสูตรนี้หรือไม่? รวมถึง Warp Cream Maker เหมาะสมหรือไม่? และมีข้อควรพิจารณาหรือความเหมาะสมของส่วนผสมเหล่านี้และเนื้อสัมผัส (ซิลิโคน vs เจล) สำหรับผิวมันอย่างไรบ้าง?
คำตอบ
การตรวจสอบสูตรและคำแนะนำ
คุณได้รวบรวมสูตรที่มุ่งเน้นการปรับผิวให้กระจ่างใส ซึ่งมีส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพหลายชนิด เรามาดูส่วนประกอบและตอบคำถามเฉพาะของคุณกัน
ทำความเข้าใจส่วนผสมของคุณ
- Cyclomethicone (Cyclopentasiloxane): เป็นซิลิโคนออยล์ชนิดเบาที่ระเหยง่าย จะระเหยไปอย่างรวดเร็วหลังทา ให้ความรู้สึกเรียบเนียนดุจแพรไหมแก่ผลิตภัณฑ์และช่วยให้เกลี่ยง่าย มักใช้ในเครื่องสำอางเพื่อสร้างเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ
- Silicone Gel (เช่น Silicone Gel Ultra Clear, Super Silky หรือ Silicone Gel Thick & Smooth): แตกต่างจาก Cyclomethicone ซึ่งเป็นซิลิโคนเหลวธรรมดา Silicone Gel มักจะเป็นการกระจายตัวของซิลิโคนอีลาสโตเมอร์ (ซิลิโคนแบบเชื่อมขวาง) ในซิลิโคนเหลว เช่น Cyclomethicone ซึ่งจะสร้างเนื้อสัมผัสคล้ายเจลที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกในการใช้ ให้ความรู้สึกนุ่มลื่น/แมท และช่วยปรับปรุงการเกลี่ยและความคงตัวของสูตร
คำตอบสำหรับคำถามของคุณ
- ความแตกต่างระหว่าง Cyclomethicone และ Silicone Gel: ดังที่อธิบายข้างต้น Cyclomethicone เป็นซิลิโคนออยล์ที่ระเหยง่าย ในขณะที่ Silicone Gel เป็นเจลที่สร้างขึ้นจากการรวมซิลิโคนอีลาสโตเมอร์กับซิลิโคนเหลว ทั้งสองมีส่วนช่วยในเรื่องเนื้อสัมผัสและความรู้สึกในการใช้ แต่ในลักษณะที่แตกต่างกัน Cyclomethicone ให้ความลื่นบางเบาที่แห้งเร็ว ในขณะที่ Silicone Gel ช่วยเพิ่มเนื้อ ให้ความรู้สึกนุ่มลื่น/แมท และสามารถปรับปรุงการเกลี่ยและความคงตัวได้
- ความจำเป็นของ Silicone Gel: สูตรของคุณมีทั้ง Cyclomethicone และ Silicone Gel ทำให้เป็นเซรั่มที่มีซิลิโคนในปริมาณมาก แม้ว่าซิลิโคนจะให้ความรู้สึกที่ดี แต่คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ก็มีความเกี่ยวข้องในที่นี้คือ ซิลิโคนอาจไม่เหมาะสำหรับคนผิวมัน เนื่องจากอาจรู้สึกหนักผิวหรือทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนสำหรับบางคนที่มีผิวมัน หากเป้าหมายหลักคือคนผิวมัน คุณอาจพิจารณาลดหรือเลิกใช้ซิลิโคน
- Warp Cream Maker: Warp Cream Maker เป็นสารประสานเนื้อ (emulsifier) ชนิด water-in-oil ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างเนื้อครีมที่ซึมเร็วและให้ความรู้สึกเรียบเนียน แห้งเหมือนแป้งบนผิว เจ้าหน้าที่กล่าวถูกต้องว่า Warp Cream Maker เลิกนำเข้าแล้วและถูกแทนที่ด้วย Silky Serum Base ซึ่งเป็นเบสสำหรับสร้างเซรั่มเนื้อบางเบา ซึมเร็ว เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมัน
ความเหมาะสมของสูตรสำหรับผิวมัน
ส่วนผสมที่คุณเลือกใช้เพื่อปรับผิวให้กระจ่างใสโดยทั่วไปมีความเหมาะสม:
- Vitamin B3 (Niacinamide): ดีเยี่ยมสำหรับผิวมัน เนื่องจากช่วยลดความมัน ลดขนาดรูขุมขน ปรับปรุงเกราะป้องกันผิว และลดรอยแดง/รอยดำ ความเข้มข้น 3% อยู่ในเกณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ
- N-Acetyl-D glucosamine: ทำงานร่วมกับ Niacinamide ได้ดีในการปรับผิวให้กระจ่างใส และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดปัญหาสิวได้ ความเข้มข้น 4% อยู่ในเกณฑ์ที่แนะนำ
- WhiteCumin (Tetrahydrocurcuminoids): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและสารปรับผิวให้กระจ่างใสที่ดี โปรดทราบว่าความเข้มข้น 5% ที่คุณระบุไว้สูงกว่าอัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับทั้งชนิดผง (0.1-1.0%) และชนิดน้ำ (1-4%) ที่มีจำหน่าย คุณอาจต้องปรับความเข้มข้นตามชนิดที่คุณใช้
- Papaya Extract (Papain): มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งช่วยปรับปรุงเนื้อผิวและสีผิวได้ Papain ชนิดมาตรฐานมักใช้ที่ 0.1-1.5% ดังนั้น 2% จึงสูงกว่าช่วงที่แนะนำเล็กน้อยสำหรับชนิดนั้น HyaCap Papain 16K ซึ่งเป็นชนิดแคปซูล มีความคงตัวในสูตรน้ำได้ดีกว่าและสามารถใช้ได้ถึง 20% หากคุณใช้ Papain ชนิดมาตรฐาน โปรดพิจารณาอัตราการใช้ที่แนะนำและข้อจำกัดด้านความคงตัวในเซรั่มสูตรน้ำ (ต้องการ pH และการเก็บรักษาที่เฉพาะเจาะจง และประสิทธิภาพจะลดลงเมื่อละลายในน้ำ) HyaCap Papain อาจเป็นทางเลือกที่คงตัวกว่า
- Propylene Glycol: ทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและตัวทำละลาย
เนื่องจากเป้าหมายคือผิวมัน มักจะชอบเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่า ดังที่เจ้าหน้าที่แนะนำ การสร้างเซรั่มเนื้อเจลโดยใช้สารสร้างเนื้อเจล เช่น Pro Polymer หรือ Pro Polymer Silk อาจเหมาะสมกว่าสูตรที่มีซิลิโคนในปริมาณมาก สารสร้างเนื้อเจลเหล่านี้ให้ความรู้สึกบางเบา ไม่เหนอะหนะ
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม
- สารกันเสีย: สูตรของคุณไม่ได้ระบุสารกันเสีย สูตรใดๆ ที่มีน้ำจำเป็นต้องมีระบบสารกันเสียที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
- การปรับค่า pH: ส่วนผสมออกฤทธิ์ เช่น Niacinamide, N-Acetyl-D glucosamine และ Papain มีช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับความคงตัวและประสิทธิภาพ คุณจะต้องวัดและปรับค่า pH สุดท้ายของเซรั่มเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมทั้งหมดและเหมาะสมสำหรับการทาบนผิว (โดยทั่วไป pH 4.5-6.0)
โดยรวมแล้ว การเลือกส่วนผสมออกฤทธิ์เพื่อปรับผิวให้กระจ่างใสของคุณนั้นดี อย่างไรก็ตาม สำหรับผิวมัน การพิจารณาปรับเนื้อเบสให้มีซิลิโคนน้อยลงและเลือกใช้เบสเจลตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ อาจทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสที่เหมาะสมกว่า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้ความเข้มข้นที่ถูกต้องสำหรับส่วนผสมเฉพาะที่คุณซื้อ และใส่สารกันเสียและการปรับค่า pH ที่จำเป็น.
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Propylene Glycol

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Silicone Gel (Ultra Clear, Super Silky)

Pro Polymer™ (Gel Maker)

Warp Cream Maker™ (e.q. Nikkomulese wo)

Silky Serum Base (Face/Eye)

WhiteCumin™ (Tetrahydrodiferuloylmethane)

Pro Polymer™ Silk

Papaya Enzyme (Papain)
